‘นิวพอร์ต’ แชมป์ ‘สิงห์ คลาสสิก 2024’
นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ จากสงขลา คว้าแชมป์แรกในออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ‘สิงห์ คลาสสิก 2024’
นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ วัย 28 ปี จากสงขลา คว้าแชมป์แรกในออลไทยแลนด์กอล์ฟหลังจากทำพาร์ในการดวลเพลย์ออฟหลุมแรกเอาชนะ คยอ เท็ต อู ในการแข่งขัน ‘สิงห์ คลาสสิก 2024’ ณ สนาม รอยัล ฮิลส์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา พาร์ 70 จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2024 โคแซงชั่น ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ จากการสนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนจัดแข่งขันรายการ ‘สิงห์ คลาสสิก 2024’ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามรอยัล ฮิลส์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดนครนายก ระยะ 7,234 หลา พาร์ 70 นับเป็นรายการที่สิบสองของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ฤดูกาล 2024 ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก
โดยในการแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 พ.ย 2567 นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ และ คยอ เท็ต อู จบ 72 หลุมเท่ากันที่สกอร์รวมคนละ 6 อันเดอร์ ก่อนนิวพอร์ตชนะในการดวลเพลย์ออฟหลุมแรกหลังจากทำพาร์ โดยนิวพอร์ตซึ่งจบรอบสามนำห่าง 3 สโตรก ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการตี 1 เบอร์ดี้ 4 โบกี้ ใน 9 หลุมแรก ก่อนจะทำอีก 1 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ จบรอบที่ 3 โอเวอร์ ขณะที่ คยอ เท็ต อู ทำเพิ่ม 3 อันเดอร์ จาก 4 เบอร์ดี้ 1 โบกี้
นิวพอร์ตซึ่งออกนำตั้งแต่รอบแรกรับเงินรางวัล 450,000 บาท ขณะที่ คยอ เท็ต อู โปรชาวเมียนมาร์ รับ 285,000 บาทจากรายการนี้ซึ่งชิงเงินรวม 3 ล้านบาท “ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมมาถึงวันนี้ครับ สนามนี้ยากมากครับ รู้สึกภูมิใจที่ทำได้วันนี้ครับ” นิวพอร์ต ซึ่งลงเล่นรายการที่ 11 ในออลไทยแลนด์ฯ 2024 กล่าว “วันนี้กรีนแข็งขึ้น สนามยาวขึ้นทำให้ต้องตีเหล็กยาว และที่สำคัญตื่นเต้นมากครับ สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมสำเร็จในวันนี้ก็คือการไม่ยอมแพ้”
ทางด้าน ธันยากร ครองผา อดีตแชมป์ 2 รายการ จบอันดับสาม สกอร์รวมอีเวนพาร์ หลังจากปิดท้ายรายการด้วยสกอร์
3 โอเวอร์ รับเงินรางวัล 165,000 บาท ส่วนอันดับ 4 ร่วมสกอร์รวม 1 โอเวอร์ ได้แก่ ปรินทร์ สารสมุทร นักกอล์ฟสมัครเล่น, อานน ว่องวานิช, จาตุรนต์ ดวงไพชุม และณัฐดนัย เนื่องจากนิล โดยปรินทร์ รับถ้วย ‘ศุภพร พาพึ่งพงศ์’ ซึ่งมอบให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มีผลงานดีที่สุด ส่วน อานน, จาตุรนต์ และณัฐดนัย รับเงินรางวัลคนละ 100,650 บาท ขณะที่ จักรนาถ อินมี ซึ่งจบรอบสามอยู่ที่ 2 ตามหลังผู้นำ 3 สโตรก ตีรอบสุดท้าย 8 โอเวอร์ หล่นมาจบที่อันดับ 8 ร่วม สกอร์รวม 2 โอเวอร์ เช่นเดียวกับ พิชยุตม์ สิมะอารีย์ นักกอล์ฟสมัครเล่น และวาริษ มั่นธรณ์ โดยจักรนาถและวาริษ รับเงินรางวัลคนละ 68,700 บาท ด้าน ‘ท็อปกัน’ ณัฎฐพัชร์ แก้วพิบูลย์ วัย 17 ปี ทำ 2 อันเดอร์ ขยับขึ้นมาจบที่อันดับ 20 ร่วมกับ ธัญพัตน์ สุขเกิด ที่สกอร์รวมคนละ 7 โอเวอร์ รับเงินรางวัลคนละ 56,325 บาท โดยณัฏฐพัชร์ เป็น 1 ใน 4 นักกอล์ฟที่ตีอันเดอร์สนามในรอบสุดท้าย
สำหรับรายการต่อไปจะเป็นการแข่งขัน ‘ไทยแลนด์ โอเพ่น’ ครั้งที่ 52 ณ สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี วันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นแมตช์ปิดฤดูกาลออลไทยแลนด์ฯ 2024