ดีเจ ครองเวิลด์กอล์ฟครบ 4 รายการ
ดีเจ ครองเวิลด์กอล์ฟครบ 4 รายการ
ดัสติน จอห์นสัน เฉือนชนะ จอน ราห์ม จากสเปน หนึ่งอัพ คว้าแชมป์เวิลด์กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ แมทช์เพลย์ คราวน์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สนาม ออสติน คันทรี คลับ เมืองออสติน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา พร้อมกับกลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ชนะเวิลด์กอล์ฟครบทั้ง 4 รายการ
ดัสติน จอห์นสัน นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกชาวอเมริกันนำห่างถึง 5 อัพเมื่อเล่นไปได้เพียง 8 หลุม แต่นักกอล์ฟหนุ่มวัย 22 ปีจากสเปนก็ไม่ยอมง่ายๆ เนื่องจาก ราห์ม เองก็กำลังลุ้นจะเป็นแชมป์เวิลด์กอล์ฟที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การไล่คัมแบ๊กของ ราห์ม มาสะดุดที่หลุมสุดท้ายที่เขาไม่สามารถทำเบอร์ดี้ที่หลุม 18 เพื่อจะยืดแมทช์ออกไปได้ ปล่อยให้ จอห์นสัน พัตต์เซฟพาร์ระยะ 4 ฟุตลงไปเพื่อเสมอที่หลุมนั้นพร้อมกับคว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ
จอห์นสัน ซึ่งเป็นแชมป์ยูเอส.โอเพ่น คนปัจจุบัน เคยชนะ เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ เอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส์ เมื่อปี 2013 เป็นแชมป์เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพคาดิแลก แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2015 ชนะเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ บริดจสโตน อินวิเตชั่นแนล เมื่อปี 2016 และชนะเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ เม็กซิโก แชมเปี้ยนชิพ ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
การคว้าแชมป์เวิลด์กอล์ฟที่เม็กซิโก บวกกับการคว้าชัยชนะรายการนี้ที่ออสติน มลรัฐเท็กซัส ส่วผลให้ ดัวติน จอห์นสัน เป็นนักกอล์ฟคนที่สองต่อจาก ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกที่สามารถคว้าแชมป์เวิลด์กอล์ฟได้ติดต่อกัน 2 รายการ
ที่สำคัญชัยชนะรายการนี้ของ ดัสติน จอห์นสัน นั้นสมราคานักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง เพราะการเจอกับคู่ต่อสู้ทั้ง 7 คนตลอดทั้งสัปดาห์นั้น จอห์นสัน ไม่เคยเป็นฝ่ายตามแม้แต่แมทช์เดียว
ในแมทช์ชิงชนะเลิศนั้น จอห์นสัน ชนะสี่หลุมรวดไล่ตั้งแต่หลุม 3 ถึงหลุม 6 ขณะที่ ราห์ม เองนั้นในช่วงแรกค่อนข้างมีปัญหากับพัตเตอร์ และต้องตกเป็นรองถึง 5 ดาวน์ เมื่อ จอห์นสัน ชนะด้วยพาร์ที่หลุม 8
ราห์ม นักกอล์ฟหนุ่มจากสเปนที่เพิ่งคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตในปีนี้ที่ทอร์รีย์ไพน์ไม่ยอมง่ายๆ เขาชนะที่หลุม 13, 15 และ 16 ด้วยเบอร์ดี้ โดยเฉพาะชัยชนะที่หลุม 16 นั้นเป็นการลากเบอร์ดี้ยาวระยะ 32 ฟุตลงไป
ทั้งคู่ต่างเซฟพาร์ที่หลุม 17 พาร์ 3 ทำให้ต้องไปเล่นต่อที่หลุม 18 โดย จอห์นสัน นำอยู่ 1 อัพ
ก่อนหน้าวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันนั้น จอห์นสัน ชนะคู่แข่งแบบไม่เคยเล่นเกินหลุม 16 แม้แต่รายเดียว และในรอบรองชนะเลิศในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ จอห์นสัน ก็เฉือนชนะ ฮิเดโตะ ทานิฮาร่า 1 อัพเช่นเดียวกัน
“จริงๆแล้วในวันสุดท้ายของการแข่งขันผมสามารถเล่นได้ดีที่สุดตามฟอร์มของผมออกมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นแมทช์แรกในช่วงเช้าหรือแมทช์ที่สองก็ตาม” จอห์นสัน กล่าว “แต่อย่างน้อยการชนะได้ทั้งสองแมทช์ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดก็นับเป็นเรื่องที่ดี”
ก่อนหน้าที่จะชนะเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ 2 รายการนี้ จอห์นสัน เพิ่งชนะ เจเนซิส โอเพ่น ที่ริเวียร่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งให้เขาขยับขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก และตอนนี้เขากลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ชนะพีจีเอทัวร์ 3 รายการติดต่อกัน นับตั้งแต่ รอรี แม็คอิลรอย เคยทำได้เมื่อปี 2014
“ตอนนี้ผมมีความมั่นใจสูงมาก มั่นใจในเกมของผมและมั่นใจในตัวของตัวเอง” จอห์นสัน กล่าว
ราห์ม เสียโบกี้ที่หลุม 3 และหลุม 4 ทำให้ จอห์นสัน ขยับนำอย่างรวดเร็ว จากนั้นหนุ่มอเมริกันยังชนะอีกด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 5 และหลุม 6 ก่อนที่ ราห์ม จะเสียอักโบกี้ที่หลุม 8 ทำให้ จอห์นสัน หนีห่าง 5 อัพอย่างรวดเร็ว
“ผมพยายามทำอย่างเต็มที่เท่าที่ผมจะทำได้แล้ว แต่โชคไม่ดีที่มันไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ” ราห์ม กล่าวถึงการเล่นเก้าหลุมแรกของเขา
ราห์ม เริ่มชนะบ้างด้วยพาร์ที่หลุม 9 ตามด้วยชัยชนะที่หลุม 10 เมื่อ จอห์นสัน ออกสามพัตต์เสียโบกี้
หลังจากทั้งคู่ระเบิดไดร์ฟเวอร์ได้ระยะกว่าง 400 หลาตกกลางแฟร์เวย์หลุม 12 แต่เป็น จอห์น สันที่จบด้วยการขึ้นไปทำสองพัตต์เก็บเบอร์ดี้ได้ ส่วนช็อตสองของ ราห์ม ตกบังเกอร์ สุดท้ายได้แค่พาร์
ที่หลุม 13 ราห์ม ระเบิดทีช็อตของเขาอีกครั้งและทำวันออนหลุมพาร์ 4 ก่อนขึ้นมาทำสองพัตต์เก็บเบอร์ดี้ทำให้กลับมาตามหลัง 3 ดาวน์อีกครั้ง หนุ่มสเปนไล่มาอีกด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 15 ตามด้วยลากเบอร์ดี้ลงไปที่หลุม 16 หลังทีช็อตไม่ดีและต้องแก้ไขออกมาจากต้นไม้
“ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมได้ทำลงไป และผมภูมิใจมากที่ยืนหยัดในสนามได้” ราห์ม กล่าว “ด้วยความสัตย์จริง ผมรู้สึกเศร้าที่ผมอาจจะมีอารมณ์เสียดาย ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ผมมีความสุขเป็นอย่างมากกับผลงานที่ออกมา”
ในรอบรองชนะเลิศนั้น ราห์ม ชนะ บิล ฮาส มา 3 และ 2 ซึ่งในแมทช์ชิงอันดับสามนั้น ฮาส เป็นฝ่ายชนะ ทานิฮาร่า ไป 2 และ 1