จิตวิทยากับ Paralympic Games (1)
จิตวิทยากับ Paralympic Games (1)
กีฬาพาราลิมปิก (Paralympic Games) เป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลกสำหรับนักกีฬาที่มีความพิการทางร่างกาย ซึ่งจัดขึ้นคู่ขนานกับกีฬาโอลิมปิก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและเปิดโอกาสให้นักกีฬาที่มีความพิการได้แสดงความสามารถและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันกีฬา
Paralympic Games ที่กรุงปารีส วันนี้ไม่มีกอล์ฟในรายการแข่งขัน แต่ทุกรายการแข่งขันก็ยังคงมีเสน่ห์ที่สมควรติดตามและสะท้อนความสวยงามที่ควรจะได้รับความสนใจ ยอมรับและเคารพในความสามารถของนักกีฬากลุ่มนี้ กีฬาพาราลิมปิกไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงความสามารถของผู้พิการในการแข่งขันกีฬา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเท่าเทียมและการยอมรับในความแตกต่าง พาราลิมปิกเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมนุษย์ในการเอาชนะความยากลำบากและส่งเสริมความเข้าใจและการยอมรับในความหลากหลายของมนุษย์ และกีฬาพาราลิมปิกได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับ Summer Olympic Games ของคนทั่วไป และ Youth Olympic Games ของเยาวชน
ประวัติและการเริ่มต้น
กีฬาพาราลิมปิกเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 1948 ในชื่อ “Stoke Mandeville Games” โดยแพทย์จากโรงพยาบาล ในประเทศอังกฤษ ที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและสภาพจิตใจของทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกนี้เป็นผู้พิการจากการบาดเจ็บไขสันหลัง จนกระทั่งในปี 1960 การแข่งขัน Stoke Mandeville Games ได้รับการพัฒนาเป็นการแข่งขันกีฬาในระดับสากลและเปลี่ยนชื่อเป็น “พาราลิมปิกเกมส์” (Paralympic Games) โดยจัดขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นครั้งแรก นับเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติสำหรับผู้พิการที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ
กีฬาที่แข่งขันในพาราลิมปิกนั้นมีหลากหลายประเภท โดยมีการปรับเปลี่ยนกติกาและอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับผู้เข้าร่วม เช่น กรีฑา ว่ายน้ำ บาสเกตบอลวีลแชร์ วีลแชร์รักบี้ และเทเบิลเทนนิส เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกีฬาใหม่ๆ เข้ามาในทุกการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมการเข้าร่วมของผู้พิการหลากหลายประเภท โดยมีคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee – IPC) ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 เพื่อดูแลและจัดการการแข่งขันพาราลิมปิก รวมถึงพัฒนาและส่งเสริมกีฬาเพื่อผู้พิการในระดับนานาชาติ ในลักษณะเดียวกับกีฬาโอลิมปิก
ประเทศไทยกับการเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิก
ประเทศไทยเริ่มส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเป็นครั้งแรกในปี 1984 โดยนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรก และต่อมาได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมทุกครั้งที่มีการจัดการแข่งขัน
เหรียญรางวัลและความสำเร็จ
นักกีฬาพิการไทยมีผลงานที่โดดเด่นในการแข่งขันพาราลิมปิก โดยเฉพาะในกีฬาประเภทกรีฑา ยกน้ำหนัก และเทเบิลเทนนิส ซึ่งประเทศไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลทั้งทอง เงิน และทองแดงจากการแข่งขันหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น ในพาราลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ นักกีฬายกน้ำหนักไทยได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญทองครั้งแรกให้กับประเทศ และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
- 2008 ที่กรุงปักกิ่ง นักกีฬาไทยได้รับ 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง
- 2012 ที่กรุงลอนดอน นักกีฬาไทยได้รับ 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
- 2016 ที่กรุงริโอเดจาเนโร นักกีฬาไทยได้รับ 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง
- 2020 ที่กรุงโตเกียว นักกีฬาไทยได้รับ 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง
โดยในพาราลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส นักกีฬาไทยก็น่าจะทำการแข่งขันได้ในระดับเดียวกับที่ผ่านๆมา
ในการแข่งขันพาราลิมปิก ในปี 2024 นี้ นักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งหมด 79 คน เป็นนักกีฬาที่เคยแข่งขันมาแล้ว 42 คน นักกีฬาพาราลิมปิกครั้งแรก 37 คน ใน 118 รายการ
ความสำเร็จของนักกีฬาพิการไทยในพาราลิมปิกไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้พิการในประเทศไทยและทั่วโลก การที่นักกีฬาพิการสามารถประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพที่ไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดทางร่างกาย นอกจากนี้ การที่นักกีฬาพิการไทยได้รับการยอมรับและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ยังส่งเสริมให้สังคมมีความตระหนักและยอมรับในความสามารถของผู้พิการมากยิ่งขึ้น ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความเข้าใจที่ดีกว่าในสังคมไทย
ฉบับต่อไปเรามาคุยกันในเชิงลึกทางจิตวิทยาการกีฬาว่านักกีฬาเหล่านี้มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไรในการแข่งขันครับ
ผศ. ดร. นฤพนธ์ วงศ์จตุรภัทร
คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา
นายกสมาคมจิตวิทยาการกีฬาประยุกต์แห่งประเทศไทย