Golf NEWS

‘ธอมป์สัน’ซิวแชมป์พีจีเอทัวร์แรกในศึกจอห์น เดียร์ คลาสสิก

‘ธอมป์สัน’ ซิวแชมป์พีจีเอทัวร์แรกในศึก จอห์น เดียร์ คลาสสิก

เดวิส ธอมป์สัน นักกอล์ฟหนุ่มวัย 25 ปีชาวอเมริกัน พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อช่วงเวลาสำคัญที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเขาได้ ไม่ใช่บนสนามกอล์ฟที่สามารถทำสกอร์ได้ง่ายดาย และไม่มีความกดดันในการคว้าแชม์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิต ในศึกจอห์น เดียร์ คลาสสิก ที่ซิลวิส รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา

เขาสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการนำ 2 สโตรกและเปิดฉากอย่างรวดเร็วด้วยการเก็บ 5 เบอร์ดี้ในการเล่น 6 หลุมแรกสู่เส้นทางการคว้าชัยชนะ 4 สโตรก ด้วยสกอร์ 72 หลุมที่ตำ่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการจอห์น เดียร์ คลาสสิก

“ผมแค่รู้สึกขอบคุณที่ทุกอย่างมันได้ผล เป็นการออกสตาร์ตที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับวันนี้ และนั่นทำให้ผมสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วงเก้าหลุมหลัง” ธอมป์สันกล่าวหลังจบรอบสุดท้าย 7 อันเดอร์พาร์ 64 “การออกสตาร์ตที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลังจากนั้นโมเมนตั้มก็มา”

ธอมป์สัน พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 45 ฟุตลงไปที่หลุมแรกซึ่งทำให้เขาออกนำ 3 สโตรก และจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครขยับเข้าใกล้เขาได้อีกเลย

นักกอล์ฟวัย 25 ปีจากจอร์เจียจบสกอร์รวมสี่วัน 28 อันเดอร์พร์ 256 ทำลายสถิติเดิมของ จอห์น เดียร์ คลาสสิก 1 สโตรก โดยสกอร์ต่ำสุด 72 หลุมเดิมนั้นทำไว้โดย ไมเคิล คิม ในการแข่งขันเมื่อปี 2018

“ผมต้องการที่จะเปิดเกมบุกอยู่ตลอดเวลา” ธอมป์สันกล่าว “ผมรู้ดีว่ามีโอกาสที่จะทำสกอร์ต่ำได้ในวันนี้เนื่องจากไม่ค่อยมีลมมากนัก และสภาพสนามค่อนข้างนุ่ม และผมรู้ดีว่ากำลังเล่นได้ดี และต้องขอบคุณที่วันนี้ผมพัตต์ได้ดีด้วยโดยเฉพาะที่หลุม 1 ส่วนราหลุม 2 ก็สามารถทำอัพแอนด์ดาวน์ได้ที่ทำให้เกมไหลลื่น”

จากชัยชนะรายการนี้ส่งผลให้ ธอมป์สัน จะได้สิทธิลงเล่นในรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ อีก 3 รายการข้างหน้า เริ่มตั้งแต่ ดิ โอเพ่น แชมเปียนชิพ ที่รอยัล ทรูน และในปีหน้าจะได้ลงเล่น เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสต้า เป็นครั้งแรกในชีวิต

นอกจากนั้น ธอมป์สัน ยังนับเป็นผู้เล่นคนที่ 24 ที่สามารถมาคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตในรายการจอห์น เดียร์ คลาสสิก เมื่อเทียบกับรายการอื่นแล้วนับเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ได้แชมป์หน้าใหม่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

ในชั่วโมงสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์กลายเป็นการลุ้นอันดับสองของรายการที่จะได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันบริติช โอเพ่น ซึ่งตั๋วตกเป็นของ ซี.ที.แพน จากไต้หวัน ที่เก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 16 และ 17 ก่อนปิดทัวร์นาเมนต์ด้วยการทำสองพัตต์เซฟพาร์ที่หลุมสุดท้ายพร้อมจบสกอร์ 64

แต่เด็กหนุ่มคู่หนึ่งทำให้นักกอล์ฟจากไต้หวันต้องเหงื่อตก

ลุก แคลนตัน นักศึกษาปี 2 จากฟลอริดา สเตต พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 25 ฟุตลงไปที่หลุม 18 และจบรอบสุดท้าย 63 เป็นคนแรกที่ขึ้นมารอบบนคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์รวม 24 อันเดอร์พาร์

จากนั้น ไมเคิล ธอร์บียอร์นเซน นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งจากตารางพีจีเอทัวร์ ยูนิเวอร์ซิตี แรงกิง ที่ระเบิดทรายขึ้นมาเหลือระยะ 18 ฟุตที่หลุม 18 และพัตต์เบอร์ดี่ลงไปพร้อมจบสกอร์ 63 ขึ้นมาเท่า แคลนตัน อีกคน

แคลนตัน, ธอร์บียอร์นเซน และ แพน จบอันดับสองร่วมกัน แต่สิทธิการเล่น ดิ โอเพ่น แชมเปียนชิพ หรือ บริติช โอเพ่น ตกเป็นของนักกอล์ฟจกไต้หวันโดยวัดจากอันดับนักกอล์ฟโลก

“จริง ๆ แล้วมันคงจะเป็นเรื่องที่วุ่นวายมากสำหรับการจัดเตรียมรายละเอียดทุกอย่างของการเดินทางทั้งหมดในนาทีสุดท้าย แต่ผมคิดว่านั่นเป็นปัญหาที่ดีสำหรับผมที่จะรับมือกับมัน”​แพนกล่าว

ส่วน แคลนตัน กลายเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นคนที่สองต่อจาก บิลลี โจ แพตตัน ในปี 1958 ที่จบการแข่งขันท็อปเทนในรายการระดับพีจีเอทัวร์ 2 รายการติดต่อกัน โดยครั้งนั้น แพตตัน ได้รางวัลโลว์อเมเจอร์ในรายการ เดอะ มาสเตอร์ส และ ยูเอส โอเพ่น ส่วน แคลนตัน ก่อนรายการนี้ 1 สัปดาห์เขาเพิ่งจบอันดับสิบร่วมในรายการ ร็อคเก็ต มอร์ตเกจ คลาสสิก

ถ้าหากเขามีสถานภาพเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ในการเล่น 2 สัปดาห์นี้ แคลนตัน จะได้รับเงินรางวัลไปครองกว่า 804,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

“เราเข้าสู่สัปดาห์นี้ด้วยความคาดหวังที่ค่อนข้างสูง หลังจากผลงานที่ยอดเยี่ยมจากสัปดาห์ที่ผ่านมา”​แคลนตันกล่าว “ผมคิดว่าผมสามารถบรรลุความคาดหวังนั้นแล้ว แน่นอว่าผมต้องการคว่าชัยชนะ แต่อย่างที่บอก สิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้ก็เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว”

กลับไปที่ผู้ชนะของการแข่งขันรายการนี้ หลังพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 45 ฟุตลงไปที่หลุมแรกของรอบสุดท้าย จากนั้น ธอมป์สัน ไปพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 30 ฟุตลงไปอีกที่หลุม 5 และผ่าน 10 หลุมแรกเก็บไปแล้ว 7 เบอร์ดี้

ธอมป์สัน เพิ่งลงเล่นในพีจีเอทัวร์เป็นปีที่ 2 โดยหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ เขาเพิ่งจบอันดับสองในรายการร็อคเก็ต มอร์ตเกจ คลาสสิก

บางทีการเลือกที่พักของเขาก็มีผลเช่นเดียวกัน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้เล่นหลายคนจากจอร์เจียมาเช่าบ้านอยู่ใกล้สนามแข่งขันจอห์น เดียร์ คลาสสิก โดย 2 ปีก่อน เจ.ที.พอสตัน มาพักที่นั่นและสามารถคว้าแชมป์จอห์น เดียร์ คลาสสิก ในปีนั้น ส่วนปีที่ผ่านมา เซปป์ สตรากา พักที่บ้านหลังดังกล่าวและคว้าแชมป์ไปครองได้เช่นกัน

ในปีนี้ สตรากา พาภรรยาและลูกน้อยมาด้วย ซึ่งเขาได้มอบห้องพักให้กับ ธอมป์สัน ซึ่งเขาบอกว่า “ผมคิดว่าผมต้องจ่ายค่าบ้านทั้งหลัง แต่ตอนนี้ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเขียนเช็คสำหรับสิ่งนั้น”

ชัยชนะรายการนี้ ธอมป์สัน รับเงินรางวัลไปครอง 1,440,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 22 บนตารางเฟดเอ็กซ์คัพ นอกเหนือจากนั้น เขายังได้สิทธิลงเล่นรายการระดับซิกเนเจอร์ของพีจีเอทัวร์ทุกรายการในตารางการแข่งขันปีหน้า

สรุปผลจอห์น เดียร์ คลาสสิก (สนามพาร์ 71)
256 เดวิส ธอมป์สัน​(สหรัฐฯ) 63-67-62-64
260 ไมเคิ้ล ธอร์นบียอร์นเซน (สหรัฐฯ) 67-64-66-63
260 ลุค แคลนตัน (สมัครเล่น, สหรัฐฯ) 63-67-67-63
260 ซี.ที.แพน (ไต้หวัน) 65-63-68-64
261 เบน กรอฟฟิน (สหรัฐฯ) 68-67-64-62
261 คาร์สัน ยัง​ (สหรัฐฯ) 67-65-66-63
263 เดนนี แม็คคาร์ธีย์ (สหรัฐฯ) 64-66-69-64
263 แอนดรูว์ โนวัก (สหรัฐฯ) 67-64-68-64
263 เฮย์เดน สปริงเกอร์ (สหรัฐฯ) 59-71-66-67
263 อีริก โคล (สหรัฐฯ) 62-68-64-69
263 แอรอน ราย (อังกฤษ) 65-63-66-69
264 อิม ซุงแจ (เกาหลีใต้) 66-64-70-64
264 เบรนแดน ท็อดด์ (สหรัฐฯ) 66-65-69-64
264 แฮร์รี ฮอลล์ (อังกฤษ) 63-66-70-65
264 ชาน คิม (สหรัฐฯ) 63-68-68-65
264 ซามิ วาลิมากิ (ฟินแลนด์) 61-72-65-66