‘จาง’ หยุดสถิติชนะ 5 แมตช์รวดของ เนลลี คอร์ดา
‘จาง’ หยุดสถิติชนะ 5 แมตช์รวดของ เนลลี คอร์ดา
โรส จาง นักกอล์ฟสาวชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์เอ็นซีดับเบิลเอ 2 สมัยและประกาศลงเล่นในฐานะนักกอล์ฟอาชีพในสัปดาห์ถัดมา และแค่เพียงรายการแรกเธอก็สามารถคว้าแชมป์แอลพีจีเอไปครองสำเร็จในการแข่งขันมิซูโฮ อเมริกาส์ โอเพ่น
นักกอล์ฟอเมริกันวัย 20 ปีโชว์ผลงานยอดเยี่ยมอีกครั้งด้วยการเก็บ 4 เบอร์ดี้ในการเล่น 5 หลุมสุดท้ายก่อนคว้าแชมป์ ค็อกนิแซนต์ ฟาวเดอร์สคัพ โดยเธอเฉือนชนะ มาเดลีน แซกสตรอม 2 สโตรก เหนืออื่นใดเป็นการปิดโอกาสการชนะติดต่อกันเป็นสถิติแอลพีจีเอของ เนลลี คอร์ดา มือหนึ่งขอโลกชาวอเมริกัน
“ฉันออกมาเล่นโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เนื่องจากฉันตระหนักดีว่าสถานการณ์มันค่อนข้างยาก”จางกล่าว “ฉันไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก แต่ฉันต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะพาตัวเองมาอยู่ในตำแหน่งนี้”
“แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสัปดาห์นี้ ฉันคงจะพอใจมาก ๆ และที่สำคัญมันเป็นการจุดประกายความหลงไหลในเกมของฉันกลับคืนมาอีกครั้ง” เธอกล่าวหลังคว้าชัยชนะในวันแม่ของสหรัฐอเมริกา
จางซึ่งพูดคุยกับคุณแม่ของเธอก่อนจะเข้ามาให้สัมภาษณ์ในห้องสื่อมวลชน กล่าวว่าตอนเริ่มวันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตลก เพราะอดีตผู้เล่นจาก สแตนฟอร์ด ตีช็อตแอพโพรชที่หลุมแรกไม่ดี ซึ่งลูกสามารถหลุดไปทิศทางไหนก็ได้ แต่ปรากฏว่าลูกไปชนธงและเธอสามารถเซฟพาร์ได้
“ฉันคิดกับตัวเองว่า ว้าว บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันที่ฉันมีโชคก็เป็นไปได้” จาง กล่าว “บางทีฉันอาจจะทำผลงานได้ดีขึ้น แต่ฉันแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะสามารถมายืนอยู่ตรงนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการแข่งขันผ่านไป 12 หลุม”
แซกสตรอม นักกอล์ฟสาวจากสวีเดนทำเบอร์ดี้ที่หลุม 12 และทำให้นำห่างถึง 3 สโตรก ซึ่งสถานการณ์ไม่ค่อยดีนักสำหรับ โรส จาง แต่สุดท้ายเธอพลิกสถานการณ์ได้ และดียิ่งขึ้นไปอีกที่สามารถชนะในรายการที่ให้เกียรติกับ 13 สมาชิกผู้ก่อตั้งทัวร์
จาง ซึ่งจบสกอร์รอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66 เก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 14, 15, 17 และ 18 ในการเล่นรอบสุดท้ายที่ อัปเปอร์ มอนต์แชร์ คันทรี คลับ ขณะที่ แซกสตรอม ซึ่งโบกี้ที่หลุม 16 ทำให้จบการแข่งขันด้วยการแพ้ไป 2 สโตรก
ทางด้าน เนลลี คอร์ดา ต้องดิ้นรนอย่างหนักในการเล่นสองวันสุดท้ายของเธอ หลังจากก่อนหน้านี้เธอเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมกับการคว้าแชมป์แอลพีจีเอ 5 รายการติดต่อกัน ส่วนในรายการนี้เธอเข้ารอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 11 สโตรก ก่อนจบวันด้วยการทำสกอร์ 73 เป็นวันที่สองติดต่อกันและจบการแข่งขันในอันดับเจ็ดร่วมด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์
คอร์ดา ไม่ได้เสียใจอะไร แถมยังบอกด้วยว่าเธอหวังว่าจะมีใครสักคนขึ้นมาสร้างสถิติร่วมกับเธอและฮอล ออฟ เฟม อย่าง แนนซี โลเปซ และ แอนนิกา โซเรนสตัม ด้วยการคว้าชัยชนะ 5 รายการติดต่อกันหรือมากกว่า
“แต่การที่สามารถทำเช่นกันนั้นกับการแข่งขันทั้ง 5 รายการที่ผ่านมาก็ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าเป็นอย่างมากกับบางอย่างที่ฉันทุ่มเทมา” คอร์ดา นักกอล์ฟสาวอเมริกันวัย 25 ปีกล่าว
“ดังนั้น ฉันจึงคิดว่าการที่สามารถชนะติดต่อกันได้ในกีฬาอะไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง ด้วยความสามารถที่ฉันรู้สึกว่านักกีฬาทุกคนของเราต่างมีศักยภาพในกีฬาประเภทนั้นๆ มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์และหวังว่าวันหนึ่งจะมฃีใครทำได้อีก”
ทางด้าน แซกสตรอม เป็นการจบทัวร์นาเมนต์ที่หัวใจสลาย โดยสาวสวีดิชวัย 31 ปีเริ่มต้นรอบสุดท้ายด้วยการนำ 1 สโตรก และกำลังลุ้นจะคว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่ปี 2020 และจะเป็นแชมป์แอลพีจีเอรายการที่สองในอาชีพ
“ฉันตีได้ดีมากในสัปดาห์นี้ ฉันทำงานหนักมายาวนน” แซกสตรอมกล่าว “ฉันพัตต์ได้อย่างเหลือเชื่อ ดังนั้น ความคาดหวังจึงค่อนข้างสูง และบางทีนั่นน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเจ็บปวดมากกว่าปกติ”
“ไม่มีข้อโต้แย่งกับชัยชนะของ จาง เลย เธอเล่นกอล์ฟได้อย่างเหลือเชื่อ ในช่วงท้ายฉันได้แต่หวังว่าจะเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้มากกว่านั้น ฉันไม่อยากให้จบวันในแบบนี้ นี่อาจจะเป็นสัปดาห์ที่ฉันเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบหลายปีเลยทีเดียว” สาวสวีดิชกล่าว
หลังผ่าน 13 หลุม แซกสตรอม นำหน้า 3 สโตรก แต่ จาง ก็ไล่มาด้วยการพัตต์เบอร์ดี้ลงไปที่หลุม 14 ตามด้วยพัตต์ระยะ 8 ฟุตลงไปที่หลุมถัดไปไล่มาเหลือเพียงสโตรกเดียว ทั้งคู่มีสกอร์เท่ากันหลังจบหลุม 16 ซึ่ง แซกสตรอม พัตต์พาร์ระยะ 10 ฟุตพลาดหลังชิพจากฟรินจ์หลังกรีนมาไม่ดี
แซกสตรอม ต้องพัตต์เซฟพาร์ไลลงเนินระยะ 25 ฟุตที่หลุม 17 พาร์ 3 ซึ่งเธอทำสำเร็จ แต่ จาง ก็ขยับนำด้วยการพัตต์เบอร์ดี้ระยะใกล้ลงไป ตามด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ที่การันตีชัยชนะ
โรส จาง ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอรายการแรกในชีวิตเมื่อปีที่แล้วในการแข่งขันที่ ลิเบอร์ตี เนชันแนล ในการลงเล่นในฐานะนักกอล์ฟอาชีพรายการแรกของเธอ จบการแข่งขันในรายการนี้ด้วยสกอร์รวม 24 อันเดอร์พาร์ 264
กาเบรียลา รัฟเฟลส์ รุกกีจากออสเตรเลีย จบการแข่งขันในอันดับสามด้วยสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเธอในแอลพีจีเอหลังจบรอบสุดท้าย 71 ขณะที่ เฉิน เปนหยุน จากไต้หวัน และ 2 นักกอลฟจีน ยิน รูโอนิง กับ ลิน ซีหยู จบที่สกอร์คนละ 8 อันเดอร์พาร์