นาซา พบระบบสุริยะใหม่ เอื่อต่อการมีสิ่งมีชีวิต
นาซา พบระบบสุริยะใหม่ เอื่อต่อการมีสิ่งมีชีวิต
ท่ามกลางกระแสข่าววุ่นวายมากมายในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ มีข่าวหนึ่งที่เป็นข่าวที่ฮือฮามาก โดยเฉพาะในแวดวง วิทยาศาสตร์ ดาราศาตร์ รวมถึงหลายๆ คนที่สนใจเรื่องราวนอกโลก เมื่อองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (NASA) ได้แถลงข่าวถึงการค้นพบ ระบบสุริยะที่มีลักษณะคล้ายกับระบบสุริยะที่เราอาศัยอยู่ขณะนี้ โดยเป็น ดาวเคราะที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลก จำนวนทั้งหมด 7 ดวง โคจรรอบดาวฤษ์ 1 ดวง ห่างจากโลกออกไป 40 ปีแสง
แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมาจะมีการค้นพบดาวเคราะห์ลักษณะคล้ายโลกเราถึง 3 พันกว่าดวง แต่ส่วนมากจัดเป็นพวกดาวยักษ์แก๊ส โดยมีดวงดาวไม่ถึง 48 ดวงที่มีศักยภาพพอที่จะเข้าข่ายเป็นเขตที่เอื้อให้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และในจำนวนนั้นมีเพียง 18 ดวง ที่ประมาณว่าขนาดน่าจะเทียบเท่ากับโลก แต่การค้นพบ TRAPPIST ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีลักษณะคล้ายโลกมากคือ เป็นดาวเคราะห์หินแข็ง รวมทั้งมีน้ำอยู่เป็นของเหลวได้ และเป็นน้ำที่ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ที่สำคัญพบพร้อมกันถึง 7 ดวง
ซึ่งก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม ปี 2559 นักวิทยาศาสตร์ได้ประกาศเรื่องการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ 3 ดวง และตั้งชื่อว่า แทรพพิสท์ (TRAPPIST) ซึ่งมาจากชื่อของกล้องโทรทรรศน์ The Transiting Planets and Planetesimals Small Telescope ในประเทศชิลี ก่อนจะมีการยืนยัน การมีอยู่แค่ 2 ใน 3 ดวง และหลังจากนั้นได้ค้นพบเพิ่มอีก 5 ดวง รวมทั้งหมดเป็น 7 ดวง ซึ่งดาวเคราะห์ทั้ง 7 ดวงนี้โคจรรอบดาวฤกษ์ที่มีชื่อว่าแทรพพิสท์-1 (TRAPPIST-1) และถูกตั้งชื่อเรียงลำดับตามตัวอักษร คือ ดาวเคราะห์ TRAPPIST-1b, TRAPPIST-1c ไปจนถึง TRAPPIST-1h โดยในตอนนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษา สามารถระบุขนาดได้ครบทั้ง 7 ดวง อีกทั้งยังสามารถคำนวณมวลและความหนาแน่นได้ถึง 6 ดวงแล้ว โดยทั้งหมดเป็นดาวเคราะห์หิน ที่มีโอกาสที่จะมีของเหลวอยู่ใต้พื้นพิภพ และดาวเคราะห์จำนวน 3 ดวง ใน 7 ดวง โคจรอยู่ในเขตที่เอื้อต่อการกำเนิดสิ่งมีชีวิต จึงเป็นความหวังใหม่ว่าอาจนำไปสู่การค้นพบสิ่งมีชีวิตด้วย
ระบบสุริยะ TRAPPIST-1 อยู่ในกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ ห่างจากโลกเราไปถึง 40 ปีแสง หรือประมาณ 378 ล้านล้านกิโลเมตร ซึ่งแม้ว่าระยะห่าง 40 ปีแสงนั้นดูเหมือนไม่ไกลเท่าไหร่นัก แต่ในความเป็นจริงแล้วด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันหากมนุษย์ต้องการที่จะเดินทางไปยังกลุ่มดาวเคราะห์ดังกล่าว ด้วยความเร็วของเครื่องบินเจ็ต เราจะต้องใช้เวลากว่าสี่ล้านปีเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นนาซ่าก็ตั้งเป้าหมายว่าพวกเขาจะศึกษาชั้นบรรยากาศของดาวแต่ละดวง รวมไปถึงการค้นหาว่าดาวเหล่านั้นมีน้ำจริงหรือไม่ เพื่อหาสัญญาณ และร่องรอยของสิ่งมีชีวิต
โดยในอนาคตอันใกล้นี้ นาซามีแผนที่จะส่งกล้องโทรทรรศน์อวกาศขึ้นไป เพื่อศึกษาบรรยากาศของดาว เคราะห์ทั้ง 7 ดวง และเมื่อทราบองค์ประกอบสำคัญ เช่น ก๊าซออกซิเจน มีเทน หรือโมเลกุลสำคัญอื่นๆ ที่อาจจะเกิดจากสิ่งมีชีวิต จะทำให้ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีการค้นพบอะไรในตอนนี้ ก็ถือเป็นโอกาสดีที่นักดาราศาสตร์จะได้ค้นพบระบบสุริยะขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากโลก ที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องราวในเอกภพได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยๆ ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์จากหอดูดาวไลเดนของประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็ยกให้ระบบดาว TRAPPIST-1 เป็น”พี่น้องทั้งเจ็ดของโลก” ไปเรียบร้อยแล้ว