‘เชฟฟ์เลอร์’ ป้องกันแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ

‘เชฟฟ์เลอร์’ คนแรกในประวัติศาสตร์ป้องกันแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ

กลายเป็นที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ สกอตตี เชฟฟ์เลอร์ มือหนึ่งของโลกชาวอเมริกันที่เพิ่มอีกหนึ่งความสำเร็จสู่เส้นทางแห่งตำนานของเขาด้วยการเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์ 50 ปีของ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ ที่สามารถป้องกันแชมป์สำเร็จ

สกอตตี เชฟฟ์เลอร์ ทำอีเกิ้ลจากฟร์เวย์ที่หลุม 4 ตามด้วยการการเก็บ 4 เบอร์ดี้ในช่วง 5 หลุม ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้าย 8 อันเดอร์พาร์ 64 ก่อนเฉือนชนะ 1 สโตรก ป้องกันแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ สำเร็จ

ซานเดอร์ ชาฟเฟเล, ไบรอัน ฮาร์แมน และ วินด์แฮม คลาร์ก สามนักกอล์ฟอเมริกัน มีโอกาสยืดเกมออกไปถึงช่วงซัดเดนเดธเพลย์ออฟ แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ของสเตเดียม คอร์ส ในทีพีซี ซอว์กราส ให้ได้

คลาร์ก เป็นผู้ที่ทำได้ใกล้เคียงที่สุดเมื่อเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 18 ฟุตของเขาทำท่าจะไหลลงไปทางด้านซ้ายของหลุม และสุดท้ายสะบัดออกไปทางด้านขวาของหลุมพร้อมกับยื่นแชมป์ให้กับ เชฟฟ์เลอร์ ที่จบไปรอบนคลับเฮ้าส์แล้ว

เชฟฟ์เลอร์ ที่ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 5 สโตรก จบสกอร์สี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัลไปครองถึง 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 ยังเทียบเท่าสถิติของแชมป์รายการเพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ ที่เคยทำได้ในรอบสุดท้าย เช่นเดียวกับการตามหลัง 5 สโตรกแล้วพลิกกลับมาชนะก็เทียบเท่าสถิติเดิมของกอล์ฟที่มีประวัติศาสตร์ 50 ปีรายการนี้ แต่ที่แน่ ๆ เขาเป็นคนแรกและคนเดียวที่ชนะรายการนี้ 2 ปีติดต่อกัน

“มันยากมากแล้วกับการที่จะชนะเดอะ เพลเยอร์ส สักหนึ่งครั้ง”​เชฟฟ์เลอร์กล่าว โดยก่อนหน้ารายการนี้ 1 สัปดาห์​เขาเพิ่งคว้าชัยชนะ 5 สโตรกในรายการที่เบย์ฮิลล์ “ดังนั้นการคว้าแชมป์ได้ 2 ปีติดต่อกันมันจึงเป็นอะไรที่พิเศษ ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ”

ในส่วนของคนที่พยายามที่จะไล่เอาชนะเขาต่างไม่มีใครรู้สึกประหลาดใจนัก ถึงแม้ เชฟฟ์เลอร์ จะเริ่มวันด้วยการตามหลังผู้นำถึง 5 แต้มก็ตาม

“ก็เป็นอีกสัปดาห์ที่เราเห็นแบบนี้”​ ซานเดอร์ ชาฟเฟเล กล่าวถึงการที่ได้เห็นชื่อของ เขฟฟ์เลอร์ ขึ้นมามีลุ้นบนลีดเดอร์บอร์ด

วินด์แฮม คลาร์ก ไม่ได้ดูลีดเดอร์บอร์ด จนกระทั่งหลุม 11 ที่เขาเห็น เชฟฟ์เลอร์ ขึ้นมานำร่วม “ผมหัวเราะเบา ๆ และก็พูดว่า ใช่ แน่นอน ผมหมายถึงเขาคือนักกอล์ฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก”

คลาร์ก ยังได้กล่าวถึงพัตต์เบอร์ดี้ที่หลุมสุดท้ายี่สะบัดปากออกมาด้วยว่า “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันไม่ลง ถึงแม้มันจะเป็นลูกที่เลียปากหลุมแต่ก็ควรจะม้วนลงไป ผมผิดหวังที่มันไม่ลง”

ชาฟเฟเล พลาดอีเกิ้ลพัตต์ระยะ 25 ฟุตที่หลุม 16 พาร์ 5 และพลาดเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 6 ฟุตที่หลุม 17 พาร์ 3 ซึ่งเป็นกรีนกลางน้ำ และแอพโพรชที่หลุมสุดท้ายทำได้ไม่ดีพร้อมกับความหวังที่หมดลงไป ส่วน ฮาร์แมน พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 18 ฟุตที่หลุมสุดท้ายไม่ลง

ทั้ง 3 คนจบอันดับสองร่วมกัน แต่ก็ได้เงินรางวัลปลอบใจไปคนละ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ย้อนกลับไปในรอบสองของการแข่งขัน เชฟฟ์เลอร์ มีอาการเจ็บแปลบที่คอหลังเล่นไปได้เพียงแค่ 3 หลุม จนต้องเรียกเทรนเนอร์เข้ามาดูอาการและเขาเปรยว่าอาจจะต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน แต่โชคดีที่เขาเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

การแข่งขันรอบสามในวันเสาร์ เชฟฟ์เลอร์ มีสกอร์รวมตามหลังอยู่ถึง 8 สโตรก ก่อนจะปิดรอบสามของเขาด้วยการเก็บ 3 เบอร์ดี้ติดต่อกัน ซึ่งช่วยสร้างโอกาสในการลุ้นแชมป์สำหรับรอบสุดท้าย

“แล้วตอนเช้าวันอาทิตย์ผมก็ตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกที่เกือบจะหายเป็นปกติแล้ว”​เชฟฟ์เลอร์กล่าวโดยมี่ยังมีเทปกายภาพติดอยู่ที่คอของเขา 2-3 แถบ “แล้วผมก็ออกไปเล่นพร้อมกับรอบที่ดีอีกวัน”

สกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 ที่อดีตแชมป์เดอะ เพลเยอร์ส เคยทำได้ในรอบสุดท้ายที่สเตเดียม คอร์ส เป็นผลงานของ เดวิส เลิฟเดอะเธิร์ด ที่ทำไว้เมื่อปี 2003 ส่วนสกอร์ตามหลัง 5 สโตรกแล้วพลิกกลับมาชนะเทียบเท่ากับผลงานของ จัสติน เลียวนาร์ด ที่เคยทำได้เมื่อปี 1998

“ผมเป็นคนที่ชอบแข่งขัน และแม่อยากที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนตไหนก็ตาม” เชฟฟ์เลอร์กล่าว “ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คอของผมดีขึ้น และในวันนี้มันก็ดีจนแทบจะเป็นปกติ”

ชาฟเฟเล ที่เริ่มวันด้วยการนำ 1 สโตรก และยังสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ จนกระทั่งมาพลาดทีช็อตที่หลุม 14 และหลุม 15 ที่เขาไม่สามารถเซฟพาร์ได้ เขามีโอกาสพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 6 ฟุตแต่พัตต์ไม่ลง ที่หลุมกรีนกลางน้ำ 17 พาร์ 3 ซึ่งเป็นหลุมที่ยากที่สุดในรอบสุดท้ายที่ซอว์กราส ก่อนจะจบรอบสุดท้าย 2 อันเดอร์พาร์ 70

สรุปผล เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ (สนามพาร์ 72)
268 สกอตตี เชฟฟ์เลอร์ (สหรัฐฯ) 67-69-68-64
269 ไบรอัน ฮาร์แมน (สหรัฐฯ) 72-65-64-68
269 ซานเดอร์ ชาฟเฟเล (สหรัฐฯ) 72-65-64-68
269 วินด์แฮม คลาร์ก (สหรัฐฯ) 65-65-70-69
272 แมตต์ ฟิตซ์แพทริก (อังกฤษ) 66-69-68-69
273 คิม ซิ วู (เกาหลีใต้) 70-71-68-64
273 ฮิเดกิ มัตซึยามา​ (ญี่ปุ่น) 69-69-68-67
274 ลุดวิก เอเบิร์ก (สวีเดน) 67-73-67-67
275 ซาฮิธ ธีกาลา (สหรัฐฯ) 70-67-67-71
275 มาเวอริก แม็คนีลีย์ (สหรัฐฯ) 67-68-68-72