ไม่มีหมวดหมู่

สปีธ ผงาดแชมป์ ที่เพ็พเพิ้ลบีช

สปีธ ผงาดแชมป์ ที่เพ็พเพิ้ลบีช

จอร์แดน สปีธ แชมป์เมเจอร์ 2 รายการเล่นรอบสุดท้ายแบบไม่เสียโบกี้ก่อนกลับขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสี่วันคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่เก้าในชีวิตไปครองสำเร็จ ในศึกเพ็พเพิ้ลบีช เนชั่นแนล โปรแอม ชิงเงินรางวัลรวม 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สนามเพ็พเพิ้ล บีช กอล์ฟ ลิงคค์ส เมืองเพ็พเพิ้ลบีช มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

จอร์แดน สปีธ นักกอล์ฟอเมริกันวัย 23 ปี ในรอบสุดท้ายเขาเก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 2 และหลุมรองสุดท้ายที่เพ็พเพิ้ลบีช  กอล์ฟ ลิงค์ส ซึ่งเป็นสนามเดียวที่ใช้แข่งขันในวันสุดท้าย หลังจากที่สามรอบแรกสลับกันเล่นใน 3 สนามสไตล์ลิงค์สคอร์ส

สปีธ คว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 268 ทิ้งห่างอันดับสอง เคลลี คร๊าฟท์ เพื่อนร่วมชาติอเมริกันถึง 4 สโตรค โดย สปีธ ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการนำห่างถึง 6 สโตรค หลังจากทำสกอร์ 65 สองวันติดต่อกันในวันศุกร์และวันเสาร์

“มันแทบไม่น่าเชื่อ พวกเรามีสัปดาห์ที่มหัศจรรย์มาก” สปีธ กล่าว “วันนี้ผมตีออนกรีนมากถึง 17 หลุม และมันเหมือนกับความฝันที่ที่ได้เล่นโดยมีกลุ่มคนจำนวนมากไล่ตามหลังอยู่  แต่ในที่สุดผมก็มาได้เบอร์ดี้ที่หลุม 17 ที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น”

รายการนี้นับเป็นการลงเล่นพีจีเอทัวร์รายการที่ 100 ในอาชีพของ จอร์แดน สปีธ เขาเก็บเบอร์ดี้แรกของวันที่หลุม 2 พาร์ 5 หลังจากทำสองออนก่อนเข้าไปแท็ปอินเบอร์ดี้ จากนั้นเซฟพาร์ 14 หลุมติดต่อกันก่อนที่จะลากเบอร์ดี้ระยะประมาณ 30 ฟุตลงไปที่หลุม 17 พาร์ 3

“ผมพยามยามบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นคนที่ไม่ชอบเล่นกอล์ฟสไตล์ที่น่าเบื่อ” สปีธ กล่าว “แต่นั่นมันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับวันนี้และคือเหตุผลที่ทำให้เราสามารถปิดเกมสำเร็จ”

สปีธ ที่เคยคว้าแชมป์เมเจอร์ 2 รายการในศึกมาสเตอร์ส เมื่อปี 2015 และ ยูเอส.โอเพ่น ในปีเดียวกัน สามารถเก็บแชมป์รายการแรกของปีของตนเองสำเร็จและทำให้เขาเป็นนักกอล์ฟที่อายุ 23 ปีหรือต่ำกว่าคนแรกที่สามารถชนะด้วยการทิ้งอันดับสองได้อย่างน้อย 3 สโตรคถึง 5 รายการ

มีเพียง ไทเกอร์ วู้ดส์ แชมป์เมเจอร์ 14 รายการเพียงคนเดียวที่ชนะพีจีเอทัวร์ได้ถึง 9 รายการด้วยอายุที่น้อยกว่า แต่ก็น้อยกว่า สปีธ เป็นจำนวนเดือนเท่านั้น และชัยชนะครั้งนี้ยังทำให้ สปีธ เป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยสุดเป็นอันดับสองที่คว้าแชมป์เพ็พเพิ้ลบีชมาครองสำเร็จ เป็นรองเพียง จอห์น คุ๊ก เพื่อนร่วมชาติอเมริกันที่เคยชนะเมื่อปี 1981

ชัยชนะรายการนี้นับเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของ สปีธ หลังจากที่เขาชนะ ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีอีกสถิติที่น่าสนใจคือเมื่อนำการแข่งขันหลังผ่าน 54 หลุม สปีธ แพ้หมดในสี่ครั้งแรก แต่หลังจากนั้นหากนำก่อนเข้ารอบสุดท้ายเขาสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 6 จาก 7 ครั้ง และครั้งเดียวที่เขาพลาดคือใน เดอะ มาสเตอร์ส เมื่อปีที่แล้วที่เขามาพังในการเล่นเก้าหลุมสุดท้าย

ดัสติน จอห์นสัน แชมป์ยูเอส โอเพ่น คนปัจจุบันจบอันดับสามด้วยสกอร์รวม 273 ตามด้วย แบรนด์ท ซเนเดเกอร์ เพื่อนร่วมชาติอเมริกันที่ตามหลังหนึ่งสโตรค  ขณะที่ เจสัน เดย์ มือหนึ่งโลกจากออสเตรเลีย จบสกอร์ 275 เท่ากับ จอน ราห์ม จากสเปน และ แกรี วู้ดแลนด์ โปรอเมริกัน

ส่วนรองแชมป์รายการนี้เป็นของ เคลลี คร๊าฟท์ ที่จบสกอร์รอบสุดท้าย 5 อันเดอร์พาร์ 67 แต่ระหว่างการแข่งขันไม่สามารถขยับเข้าใกล้ จอร์แดน สปีธ มากกว่า 3 สโตรค อย่างไรก็ตาม การจบอันดับสองนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในพีจีเอทัวร์ของ คร๊าฟท์

“นี่มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก” คร๊าฟท์ กล่าว “เกมของผมดีมาก แต่มันไม่เคยดีได้ตลอดทั้ง 4 วันของการแข่งขัน เพิ่งมาคลิ๊กในรายการนี้ที่นี่ และมันช่างเหลือเชื่อเหลือเกินที่ผมมาทำได้ในสนามที่สุดยอดแห่งนี้”

ส่วน ดัสติน จอห์นสัน จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 ซึ่งเกมในรอบสุดท้ายน่าเสียดายที่เขาไปพลาดออกโบกี้ที่หลุม 6 พาร์ 5 และไปพัตตืเบอร์ดี้สั้นๆพลาดที่หลุม 14 พาร์ 5 และที่หลุม 18

“ผมรู้สึกว่าผมเล่นได้ดีแล้ว” จอห์นสัน กล่าว “ในช่วงเก้าหลุมแรกผมเล่นได้ดีมากเพียงแต่มันพัตต์ไม่ลง อย่างไรก็ตามผมค่อนข้างพอใจกับผลงานที่ออกมา ผมคิดว่าเกมของผมอยู่ในทรงที่ดีแล้วสำหรับทุกรายการที่เหลือของฤดูกาลนี้”

สรุปผลการแข่งขัน
268  จอร์แดน สปีธ (สหรัฐฯ)  68-65-65-70
272 เคลลี คร๊าฟท์ (สหรัฐฯ)  69-70-66-67
273  ดัสติน จอห์นสัน (สหรัฐฯ)  70-69-66-68
274  แบรนด์ท ซเนเดเกอร์ (สหรัฐฯ)  68-69-67-70
275  แกรี วู้ดแลนด์ (สหรัฐฯ) 70-73-67-65
275  เจสัน เดย์ (ออสเตรเลีย)  69-64-75-67
275  จอน ราห์ม (สเปน)73-67-67-68
278 โนห์ เซียง-อุล (เกาหลีใต้)  68-71-69-70
278  ร็อบ อ็อพเพนไฮม (สหรัฐฯ) 69-69-68-72
279  คาเมรอน เพียร์ซีย์ (ออสเตรเลีย)  73-66-71-69
279  เควิน คิสเนอร์ (สหรัฐฯ)  72-67-71-69
279  นิค เทย์เลอร์ (แคนาดา)  70-70-68-71
279  แม็คเคนซี ฮิวก์ส (แคนาดา)  70-70-68-71