‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024’ ชิง 1.7 ล้านเหรียญฯ กุมภาพันธ์ปีหน้า
โปรกอล์ฟชั้นนำ ร่วมชิง 1.7 ล้านเหรียญฯ ‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024’ กุมภาพันธ์ 2567 ที่ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส
พร้อมเปิดศึกดวลวงสวิงระดับโลก ‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024’ เป็นปีที่ 17 ร่วมชมวงสวิง 72 โปรกอล์ฟชั้นนำระดับโลกของแอลพีจีเอทัวร์ เพื่อชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 62 ล้านบาท) ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี วันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานคณะกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง การกลับมาของรายการ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” โดยจะเป็นอีกครั้งที่แฟนกอล์ฟตั้งตารอเป็นพิเศษ ด้วยความยิ่งใหญ่ของทัวร์นาเมนต์ที่มีมายาวนาน ผลงานอันยอดเยี่ยมของนักกอล์ฟไทยในรายการนี้ครั้งล่าสุด รวมทั้งฟอร์มการเล่นในเวทีนานาชาติตลอดทั้งปีนี้ ทำให้เชื่อว่าการลุ้นแชมป์ของนักกอล์ฟสาวชาวไทยครั้งนี้จะน่าตื่นเต้นกว่าเดิมแน่นอน
“ตลอด 17 ปี ของการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ได้มีส่วนช่วยพัฒนาและยกระดับวงการกีฬากอล์ฟไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และยังเป็นเวทีแห่งแรงบันดาลใจแก่ผู้ชื่นชอบในกีฬากอล์ฟ ในแต่ละปีได้ต้อนรับแฟนกอล์ฟชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเนืองแน่นและเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยครั้งที่ผ่านมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีผู้ชมในสนามเกือบ 50,000 คน และมีการถ่ายทอดการแข่งขันถึง 540 ล้านครัวเรือนทั่วโลก สำหรับการแข่งขันที่จะถึงนี้ จะมีนักกอล์ฟหญิงชั้นนำระดับโลกทั้งไทยและต่างชาติ 72 คน เข้าร่วมแข่งขัน 72 หลุม แบบไม่มีการตัดตัว ซึ่งในส่วนของนักกอล์ฟไทยก็มีความน่าสนใจ เพราะในปีนี้ สามารถทำผลงานได้โดดเด่น และคว้าแชมป์เพิ่มในรายการหลักอื่น ๆ อีกหลายรายการ เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดแฟนกอล์ฟร่วมลุ้นติดขอบสนามเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
สำหรับการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ยังได้สานต่อการแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers เพื่อผลักดันนักกอล์ฟไทยทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นให้ก้าวสู่การแข่งขันระดับโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการฝึกงาน Young Ambassadors กิจกรรม Junior Golf Clinic และกิจกรรมช่วยเหลือสังคม (CSR) ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญนอกเหนือจากทัวร์นาเมนต์เช่นกัน
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงเห็นความสำคัญของการจัดการแข่งขันกอล์ฟมาตลอด เพราะมีส่วนช่วยพัฒนาวงการกอล์ฟและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ “กอล์ฟถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทั้งระดับชุมชนและระดับประเทศ กระทรวงฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายการกอล์ฟในประเทศและรายการสำคัญระดับนานาชาติ ดิฉันเชื่อว่า ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 จะสามารถดึงดูดแฟนกอล์ฟและนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ และยังสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนสนใจในกีฬากอล์ฟมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนานักกอล์ฟและอุตสาหกรรมกอล์ฟโดยรวม ถือเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สอดคล้องกับนโยบายการใช้กีฬาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือ Sports Tourism”
ผลการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “ลิเลีย วู” คว้าแชมป์สกอร์รวม 21 อันเดอร์ เฉือนชนะรุกกี้ “ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ” เพียงสโตรกเดียว ซึ่งการคว้าแชมป์สร้างความมั่นใจให้กับเธออย่างมาก จนในปี 2023 สามารถคว้าแชมป์เพิ่มอีก 3 รายการ เป็นแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ คือ เชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ และ บริติช วีเมนส์ โอเพน และล่าสุดก็เพิ่งจะคว้าแชมป์แอนนิก้า ดริฟเวน บาย เกนบริดจ์ แอท เพลิแคน ก่อนจะขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกได้สำเร็จ ซึ่ง “ลิเลีย วู” ยืนยันจะกลับมาป้องกันแชมป์ในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 อย่างแน่นอน
“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ถือเป็นรายการแห่งความทรงจำ เพราะฉันเข้าร่วมการแข่งขันเป็นปีแรก และสามารถคว้าแชมป์แรกของแอลพีจีเอทัวร์ในรายการนี้ การเริ่มสตาร์ทฤดูกาลที่ดีในประเทศไทยทำให้รู้สึกมั่นใจกับการเล่นในรายการต่อมา และถือเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดในเส้นทางอาชีพของฉันอีกด้วย” โปรอเมริกัน วัย 25 ปี กล่าว
ด้านนักกอล์ฟไทย ซึ่งในปี 2023 สามารถทำผลงานได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดย “จีน-อาฒยา ฐิติกุล” “แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ” “โม-โมรียา จุฑานุกาล” และ “เม-เอรียา จุฑานุกาล” ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ประเภททีมหญิงเป็นครั้งแรกในรายการ อินเตอร์เนชันแนล คราวน์ นอกจากนี้ ยังมี 2 แชมป์แอลพีจีเอทัวร์จาก “เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ” ในรายการแบงค์ออฟโฮป แอลพีจีเอ แมตช์เพลย์ และ “พราว-ชเนตตี วรรณแสน” ในรายการ พอร์ตแลนด์ คลาสสิก โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ถึง 22 รายการ จาก 7 นักกอล์ฟ ซึ่งในจำนวนแชมป์ดังกล่าวเป็นของ “เม-เอรียา จุฑานุกาล” อดีตมือ 1 ของโลก 12 รายการ และ หนึ่งในรายการที่เอรียา ทำได้ก็คือ รายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021
“เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ” เจ้าของแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 2 รายการ กล่าวว่า “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นรายการที่แฟนกอล์ฟชาวไทยรอคอยรวมถึงตัวเมียวด้วย โดยได้มีโอกาสลงแข่งในฐานะมือสมัครเล่นครั้งแรกเมื่อปี 2017 รู้สึกว่าภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี กีฬากอล์ฟในเมืองไทยสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น คนรอบตัวรวมถึงดารานักแสดงหันมาสนใจกีฬากอล์ฟกันมากขึ้น ทำให้รู้สึกดีใจและอยากส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับทุก ๆ คนต่อไปค่ะ”
ขณะที่ “แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ” อดีตแชมป์เมเจอร์ กล่าวว่า “แพตตี้มีโอกาสเล่นรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ทั้งหมด 5 ครั้ง โดยเริ่มแข่งครั้งแรกในปี 2015 เห็นได้ชัดว่ามีแฟน ๆ ชาวไทยและชาวต่างชาติมาเชียร์ที่สนามกันคึกคักมากขึ้นทุกปี ทัวร์นาเมนต์นี้มีส่วนช่วยโปรโมทประเทศไทยเป็นกอล์ฟเดสติเนชัน สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาตีกอล์ฟที่เมืองไทยได้เป็นอย่างดีค่ะ”
มิสวินนี่ เฮง รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็มจี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดการแข่งขัน กล่าวว่า ไอเอ็มจี ภูมิใจที่ได้ร่วมกับฮอนด้าในการจัดทัวร์นาเมนต์แอลพีจีเอแห่งเดียวในประเทศไทย และพร้อมมอบประสบการณ์เกมกอล์ฟแบบใกล้ชิดกับนักกีฬาระดับโลกที่จะช่วยส่งต่อแรงบันดาลใจให้แฟนกีฬาทุกเพศทุกวัย
“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 นอกจากแฟนกอล์ฟจะได้ชมนักกอล์ฟชั้นนำของโลกตลอด 4 วันแล้ว ยังจะได้สนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราเตรียมไว้ ทั้งเรื่องอาหารเครื่องดื่ม ของที่ระลึก และสถานที่รับรองต่าง ๆ มั่นใจว่า ทุกคนจะได้รับความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีกลับบ้านอย่างแน่นอน”
โดยบัตรเข้าชมการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ทั้งแบบทั่วไปและแบบวีไอพี พร้อมเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ทาง hondalpgathailand.com ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และอายุมากกว่า 60 ปี สามารถลงทะเบียนเข้าชมการแข่งขันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านทาง hondalpgathailand.com สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hondalpgathailand.com หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/lpgaThailand และอินสตาแกรม www.instagram.com/hondalpgathailand