มากกว่าเกมกีฬาและชัยชนะ เหล่าก้านเหล็กใจบุญร่วมช่วยเหลือสังคม
กอล์ฟมีคุณค่ามากกว่าเกมกีฬาและชัยชนะ เหล่าก้านเหล็กใจบุญร่วมช่วยเหลือสังคม
เมื่อพูดถึงสโลแกน “พวกนายเจ๋งมาก” ในเวทีการแข่งขันกอล์ฟ คือการอธิบายถึงบรรดานักกอล์ฟมือดังที่โชว์ทักษะและความสามารถอย่างโดดเด่นในทุกสัปดาห์ แต่นอกเหนือจากฟอร์มการเล่นที่ดี พวกเขาเหล่านี้ยังเป็นคนใจกว้าง มีจิตใจที่ดีด้วยเช่นกัน
โดยจะเห็นได้จากในการแข่งขันกอล์ฟแต่ละครั้ง ทั้งทัวร์กอล์ฟและบรรดานักกอล์ฟจะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกิจกรรมการกุศลช่วยเหลือชุมชนและสังคม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อม หรือมีส่วนร่วมกับโครงการริเริ่มเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
นักกอล์ฟกลุ่มนี้ตระหนักดีว่าเกมกอล์ฟซึ่งได้รับความนิยมและมีแฟนกีฬาหลายคนทั่วโลกติดตามนั้น คือแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกและการเปลี่ยนแปลง โดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พีจีเอทัวร์ สามารถระดมเงินทุนเพื่อการกุศลได้มากกว่า 3.64 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตัวเลขจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอบคุณนักกอล์ฟใจบุญอย่าง คอลลิน โมริกาวะ, ซานเดอร์ ชาฟเฟเล่, ซี.ที.ปัน และคนอื่นๆ ที่ส่งมอบโอกาสให้แก่ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบภัยต่างๆ
หลังเกิดภัยพิบัติจากเหตุการณ์ไฟป่าลุกลามครั้งรุนแรงที่เกาะเมาวี รัฐฮาวาย เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีผู้ชีวิตมากกว่า 100 คน และเผาผลาญพื้นที่บ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือน รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กได้รับความเสียหายเหลือแต่ซากปรักหักพัง โมริกาวะ ซึ่งคุณปู่ของเขาเกิดที่เกาะเมาวี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก ได้นำทีมระดมทุนเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย
โมริกาวะ ดีกรีแชมป์พีจีเอทัวร์ 5 รายการ วัย 26 ปี ประกาศบริจาคเงิน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ 1 เบอร์ดี้ที่เขาทำได้ก่อนการแข่งขันศึกเฟดเอ็กซ์คัพ เพลย์ออฟ ให้กับองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ไฟป่าที่เกาะเมาวี ซึ่งเขาทำไปทั้งหมด 46 เบอร์ดี้ และ 1 อิเกิ้ล รวมเงินบริจาค 48,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่สปอนเซอร์ของโมริกาวะได้ร่วมบริจาคด้วยเช่นกันเป็นจำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐ รวมถึงนักกอล์ฟคนอื่นๆ ก็ร่วมบริจาคสมทบตามมา
ทั้งนี้โมริกาวะสะเทือนใจมากกับเหตุการณ์ภัยพิบัติไฟป่าที่เกาะเมาวี เนื่องจากมีญาติอยู่ที่นั่น และครอบครัวเคยเปิดร้านอาหารชื่อ The Morikawa Restaurant อยู่ที่นั่น โดยกล่าวว่า “เกาะเมาวีมีความหมายมากสำหรับผม จากการเช็คข่าวญาติของผมไม่เป็นอะไร แต่เมื่อเห็นจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผมพูดไม่ออกเลย สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจมาก ผมรู้สึกใจหายเมื่อเห็นภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังเกิดเหตุการณ์ไฟป่า เพราะครอบครัวฝั่งพ่อของผมเติบโตที่นั่น คุณปู่และคุณย่าของผมเกิดที่ลาไฮนา เราเปิดร้านอาหารที่นั่น ทั้งหมดอยู่ในรูปพวกนั้น ตอนผมไปเยือนเกาะเมื่อผมยังเด็ก ที่นั่นเป็นที่ที่พิเศษมาก”
เกาะเมาวีไม่เพียงเป็นสถานที่พิเศษสำหรับโมริกาวะเท่านั้น เกาะแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกอล์ฟพีจีเอทัวร์ รายการ เดอะ เซนทรี ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์ เป็นประจำทุกปีในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ หลังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติไฟป่า มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบภัย โดยผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันรายการได้ร่วมบริจาคเป็นเงิน 250,000 เหรียญสหรัฐ เท่ากับที่พีจีเอทัวร์บริจาค
ทางด้าน ซานเดอร์ ชาฟเฟเล่ เจ้าของแชมป์พีจีเอทัวร์ 7 รายการ ซึ่งใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ฮาวาย เนื่องจากบิดาเป็นครูสอนกอล์ฟที่นั่นหลายปี ทำให้โปรกอล์ฟวัย 29 ปี ไม่ลังเลใจที่จะประกาศตั้งกองทุนเพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้ 100,000 เหรียญสหรัฐ ต่อคน โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 400,000 เหรียญสหรัฐ
ชาฟเฟเล่ กล่าวว่า “พีจีเอทัวร์ เป็นเรื่องของการตอบแทนสังคม ดังนั้นผมรู้สึกว่านั่นเป็นความรับผิดชอบที่ผมต้องทำ ผมเห็นคอลลิน โมริกาวะ ริเริ่มก่อน ผมเองก็ต้องการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังประสบกับความยากลำบากเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากคุณพ่อ เรียนรู้จากกีฬากอล์ฟ คุณพ่อของผมเป็นแฟนตัวยงของเกาะเมาวี ผมก็ชอบไปที่นั่น จากที่ผมได้อ่านข้อความและส่งข้อความคุยกับบางคน พวกเขาบอกว่าเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้สร้างความเสียหายหนักมาก ผมคิดว่าเป้าหมายของเราคือระดมทุนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”
ส่วน ซี.ที.ปัน ซึ่งคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์มาหนึ่งรายการ และคว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการอย่างรุนแรง โดยระดมทุนผ่านการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลและงานเลี้ยงที่ไต้หวัน โดยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สามารถระดมทุนช่วยเหลือเด็กฯ ได้ราว 626,000 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้กองทุนเพื่อการกุศลของ ซี.ที.ปัน ยังมอบเงินให้กับโครงการระดับเยาวชนเพื่อเป็นทุนการศึกษา และเข้าค่ายอบรม โดยคาดหวังให้เด็กๆ จากไต้หวันเข้าไปเรียนในสหรัฐอเมริกาเพื่อกรุยทางสู่พีจีเอทัวร์มากขึ้น เช่นเดียวกับที่ตัวเขาทำได้โดยผ่านการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน
“ในฐานะนักกีฬา เราเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลบางอย่าง และเราต้องใช้ความเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส นั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำมาโดยตลอด” ซี.ที.ปัน กล่าว โดยเขาเป็นนักกอล์ฟคนแรกจากไต้หวันที่มีชื่อติดทีมนานาชาติร่วมแข่งขันกอล์ฟประเภททีมรายการ เพรสซิเดนท์ส คัพ
บ่อยครั้งที่มีคนกล่าวว่า กอล์ฟคือพลังแห่งความดี และกรณีของ โมริกาวะ ซาฟเฟเล่ และซี.ที. ปัน แสดงให้เห็นว่าเกมกอล์ฟไม่ใช่แค่เรื่องการคว้าชัยชนะ กอล์ฟมีคุณค่ามากกว่าที่คิด
ภาพ : Getty Images