Golf NEWS

“ชเนตตี” ผงาดคว้าแชมป์แรกในแอลพีจีเอ

“พราว” ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟสาววัย 19 ปี จากจังหวัดเชียงใหม่ คว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมทำสถิติสกอร์ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ และกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ รับเงินรางวัล เงินรางวัล 225,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.8 ล้านบาท ในกอล์ฟรายการพอร์ทแลนด์ คลาสสิก ที่เมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2566

“พราว” ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟสาววัย 19 ปี จากจังหวัดเชียงใหม่ พลิกฟอร์มจากการไม่ผ่านตัดตัว 9 รายการติดต่อกัน กลับมาโชว์ฟอร์มร้อนแรง ทำ 7 เบอร์ดี้ 1 อีเกิ้ล โดยไม่เสียโบกี้เลย สกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 63 ในวันสุดท้ายกอล์ฟรายการพอร์ทแลนด์ คลาสสิก ที่เมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2566 สกอร์รวมสี่วัน 26 อันเดอร์พาร์ 262 แซงคว้าแชมป์ชนะ หลิน ชีอวี้ จากจีนอันดับสองไป 4 สโตรก เป็นการคว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมทำสถิติสกอร์ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ และกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ รับเงินรางวัล เงินรางวัล 225,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.8 ล้านบาท

การแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการพอร์ทแลนด์ คลาสสิก ที่โคลัมเบีย เอดจ์วอเทอร์ คันทรี คลับ เมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-3 กันยายน 2566 ชิงเงินรางวัลรวม 52.5 ล้านบาท มีนักกอล์ฟไทยร่วมแข่งขันทั้งหมด 12 คน ผ่านตัดตัวเข้าไปเล่นในสองวันสุดท้าย 8 คน

รอบสุดท้าย “พราว” ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟรุกกี้ของทัวร์ ซึ่งลงเล่นครั้งแรกในรายการนี้หลังผ่านการเล่นคัดเลือกเข้ามา รั้งอันดับสองร่วมตามหลัง เมแกน คาง โปรสาวชาวอเมริกันผู้นำอยู่หนึ่งสโตรก และวันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ชเนตตี มาแรงทำเบอร์ดี้หลุม 3,4 ก่อนจะทำอีเกิ้ลหลุม 5 และเบอร์ดี้หลุม 6-7 จากนั้นทำเบอร์ดี้หลุม 13,14 และ 17 โดยไม่เสียโบกี้เลย จบวันสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 63 สกอร์รวมสี่วัน 26 อันเดอร์พาร์ 262 คว้าแชมป์ไปครองชนะ หลิน ชีอวี้ นักกอล์ฟสาวจีนอันดับ 2 ไป 4 สโตรก และเป็นการทำสถิติสกอร์ต่ำสุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ทำลายสถิติเดิมที่ ฮันนาห์ กรีน จากออสเตรเลีย ปี 2019 และ บรู๊ค เฮนเดอร์สัน จากแคนาดา ปี 2015 สกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267

ชเนตตี คว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมกับรับเงินรางวัลไป 225,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.8 ล้านบาท เธอกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ ร่วมกับ เอรียา จุฑานุกาล (12) จัสมิน สุวัณณะปุระ (2) โมรียา จุฑานุกาล (2) ปภังกร ธวัชธนกิจ (1) ปาจรีย์ อนันต์นฤการ (2) และ อาฒยา ฐิติกุล (2)

การคว้าแชมป์ครั้งนี้ ชเนตตี กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 10 ที่คว้าแชมป์แรกของตัวเองในทัวร์ปีนี้ และได้สิทธิ์เล่นทัวร์ 2 ปี พร้อมกับเล่นรายการเปิดฤดูกาลในปี 2024/2025 นักกอล์ฟสาวจากจังหวัดเชียงใหม่เล่นในทัวร์รายการที่ 12 โดยก่อนหน้าจะแข่งขันสัปดาห์นี้เธอไม่ผ่านตัดตัวในแอลพีจีเอ มา 9 รายการติดต่อกันก่อนจะไปคว้ารองแชมป์รายการของเอปสัน ทัวร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังแพ้เพลย์ออฟนักกอล์ฟสาวจีน

เธอเผยหลังการคว้าแชมป์แรกของตัวเองในแอลพีจีเอ ว่า “วันนี้เล่นตามเกมของตัวเอง และแค๊ดดี้(โปรวิ่ง-ภรณีย์ ชุติชัย) ช่วยได้มากในการเล่น และตัวพราวเองก็คุมทุกอย่างได้หมดเลย และตอนนี้ไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรกับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ เป็นแชมป์ที่รอมานานมาก แค่รู้ว่าพราวทำได้ และในสัปดาห์นี้พราวมีความเชื่อมั่นว่าสามารถทำได้ แม้จะตีพลาดหรือทำพลาด พราวรู้ว่าสามารถสู้กลับและทำได้ดียิ่งขึ้น”

สำหรับ หลิน ชีอวี้ จากจีนจบอันดับ 2 สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ตามมาด้วยอันดับสามร่วม หยิน ยัวหนิง จากจีน จีนา คิม จากสหรัฐ การ์โลตา ชีกานดา จากสเปน ขณะที่ เมแกน คาง จากสหรัฐผู้นำหลังวันที่สามจบอันดับ 6 สกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 269

ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ “เม” เอรียา จุฑานุกาล ทำ 6 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270 จบอันดับ 7 ร่วมกับ “จีน” อาฒยา ฐิติกุล ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 “ปริญญ์” ปวริศา ยกทวน ทำ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 จบอันดับ 18 ร่วม จัสมิน สุวัณณะปุระ ทำ 6 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 จบอันดับ 21 ร่วม “แหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 จบอันดับ 34 ร่วม “โม” โมรียา จุฑานุกาล รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 จบอันดับ 45 ร่วม และ “เหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 จบอันดับ 49 ร่วม

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lpga.com

เครดิตภาพ: Getty Images