เขียน..เมื่อมีลมหายใจ

แม่


เขียน.. เมื่อมีลมหายใจ ๒
แม่

…แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวง ห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม ครวญคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน…

12 สิงหาคม ของทุกๆ ปี ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ ชาวไทยทุกคนก็จะทราบกันโดยถ้วนหน้า แต่ละครอบครัวต่างทำหน้าที่กันไป วัยอย่างฉันส่วนใหญ่พ่อแม่ก็จากไปเกือบหมดแล้ว…คงเหลือความรักความผูกพันที่ไม่จางหาย เมื่อครั้งที่แม่ฉันยังมีชีวิตอยู่ แม่ฉันจะตื่นตั้งแต่เช้าเตรียมหุงหาอาหารเพื่อใส่บาตรพระ โดยที่แม่ฉันจะทำเอง แม่บ้านเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น ส่วนฉันแผนกซื้ออาหารตามที่แม่ฉันต้องการ เมื่อถึงวันแม่ครั้งใด ภาพเรื่องราวเมื่อครั้งแม่ยังมีลมหายใจอยู่ก็จะย้อนกลับมา….แค่ปลาได้ยินเสียงแม่เดินไปหน้าประตูบ้านที่มีสระน้ำเล็กๆ ขุดไว้รอบๆ เพื่อเอาอาหารเม็ดไปเลี้ยงปลา ปลาก็จะมาคอยกันอยู่หน้าสลอนเรียงเป็นแถวเป็นระเบียบในทุกๆ เช้าของทุกๆ วัน เสร็จจากการให้อาหารปลา แม่ฉันก็จะนั่งพักที่เก้าอี้หวายตัวโปรด ข้างๆ ประตูมังกรที่เป็นทางเดินออกจากตัวบ้านก่อนที่ทุกคนจะไปทำงาน หรือลูกๆ จะไปโรงเรียน ก็ต้องไปนั่งกราบที่ตัก… ฉันและลูกๆ หลานๆ ก็จะได้รับพรจากแม่ของฉันซึ่งเป็นคุณยาย ส่วนฉัน แม่จะให้พรยาวกว่าใคร และจะมีประโยค “ขอให้ลูกแจ๋วรวยๆ!” ทุกครั้งไป วันนี้เป็นวันแม่ ลูกๆ กราบฉัน ทั้งทางโทรศัพท์ การ์ด หรือบนตัก ฉันทำหน้าที่แม่อย่างที่แม่ของฉันเป็นต้นแบบของความเมตตามาโดยตลอด แต่สิ่งที่ทำให้ฉันถึงน้ำตาไหลในวันแม่ปีนี้ เมื่อฉันได้อ่านข้อความที่แม่ของฉันเขียนไว้ในตู้ใบเก่า…ที่พี่ชายถ่ายส่งมาให้ทางไลน์ “…บ้านลูกสาวแจ๋วรวยๆ” ฉันจึงได้ของขวัญชิ้นใหญ่จากแม่ของฉันในวันแม่! ขอบคุณที่ฉันได้เกิดมาเป็นลูกแม่ ระยับ ช้วนกุล!

สุชาภา ผลชีวิน