‘ฮาร์แมน’ ผงาดแชมป์ บริติช โอเพ่น

‘ฮาร์แมน’ ผงาดแชมป์ บริติช โอเพ่น

ไบรอัน ฮาร์แมน นักกอล์ฟอเมริกันคว้าแชมป์เมเจอร์รายการแรกในชีวิตด้วยชัยชนะ 6 สโตรกในศึกบริติช โอเพ่น ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ที่รอยัล ลิเวอร์พูล ในประเทศอังกฤษ

ไบรอัน ฮาร์แมน นักกอล์ฟวัย 36 ปีจากจอร์เจีย ที่แม้จะปิดพลาดเพียงเล็กน้อยในช่วงต้นของรอบสุดท้าย แต่ก็สามารถจบได้อย่างสวยงามใน ดิ โอเพ่น แชมเปียนชิพ หรือ บริติช โอเพ่น ครั้งที่ 151

นักกอล์ฟถนัดซ้ายที่กำลังลุ้นแชมป์เมเจอร?์ แชมเปียนชิพ รายการแรกในชีวิตได้พิสูจน์แล้วว่าเมื่อเป็นผู้นำก็เป็นงานยากสำหรับผู้ไล่ล่าก่อนจะจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 1 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสี่วัน 13 อันเดอร์พาร์ 271

ไม่บ่อยนักที่ บริติช โอเพ่น จะจบลงด้วยสภาพอากาศที่น่าตกใจแบบนี้ แต่ ฮาร์แมน ก็ปฏิเสธข้อเสนอที่จะรับคลาเรตจั๊ก สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของรายการนี้ภายใต้ร่ม แจ่ขอซึบซับบรรยากาศท่ามกลางสายฝน

“ผมกำลังดูพยากรณ์อากาศและก็ต้องออกไปเล่น และบรรยากาศมันเหมือนอาร์มาเกดดอนเลย มันทำให้ทุกอย่างยากจริงๆ” ฮาร์แมนกล่าว

“ในอดีตที่ผ่านมาผมมักจะทำผลงานไม่ดีนักเมื่อต้องเล่นท่ามกลางสายฝน ซึ่งสร้างความหงุดหวิดให้กับผมอยู่เสมอ แต่ผมก็ภูมิใจมากกับวิธีการที่ผมตีลูกกอล์ฟในวันนี้”

นักกอล์ฟอเมริกันยังกล่าวต่ออีกว่า “ต้องคารวะแฟนกอล์ฟที่นี่จริงๆ ให้จายเถอะ ถ้าหากเป็นผมเมื่อต้องเจอสภาพอากาศแบบนี้ ผมคงไม่ออกไปเดินดูกอล์ฟหรอก”

แฟนกอล์ฟเป็นพันซึ่งเบียดเสียดภายใต้ทะเลร่ม ที่จะเข้ามาเป็นสักขีพยานในการคว้าแชมป์เมเจอร์รายการแรกในชีวิตของฮาร์แมน

และนักกอล์ฟอเมริกันก็แสดงให้เห็นถึงสุภาษิตโบราณของวงการกอล์ฟที่ระบุว่า “ไดร์ฟมีเอาไว้โชว์ แต่พัตต์จะทำให้คว้าชัยชนะ” ซึ่งบนงานอัดยอดเยี่ยมบนกรีนทำให้ไม่มีใครไล่เขาได้ทัน

จอน ราห์ม จากสเปน, เซปป์ สตรากา จากออสเตรีย, ทอม คิม จากเกาหลีใต้ และ เจสัน เดย์? จากออสเตรเลีย จบอันดับสองร่วมกันโดยตามหลังถึง 6 สโตรก ขณะที่ตัวเต็งก่อนรายการเริ่มอย่าง รอรี แมคอิลรอย และ เอมิเลียโน กริลโล แพ้ไป 7 สโตรก

ฮาร์แมน เริ่มได้เปรียบหลังโชว์ผลงานในรอบสองด้วยการหวดเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์65 และจากตรงนั้นก็ไม่เคยหลุดจากตำแหน่ง โดยเขาเริ่มต้นรอบสุดท้ายในวันอาทิตย์ด้วยการนำหน้า คาเมรอน ยัง เพื่อนร่วมชาติ 5 สโตรก และนำหน้า ราห์ม 6 สโตรก โดยนักกอล์ฟจากสเปนขึ้นมามีลุ้นหลังทำสถิติสนาม 63 ในรอบที่สาม

อย่างไรก็ตาม การจะมีใครสักคนแซงหน้าได้นั้นจะต้องทำสกอร์ที่ต่ำมากแต่ แต่ ฮาร์แมน ก็ทำให้ทัวร์นาเมนต์กลับมาน่าสนใจหลังพลาดออกโบกี้ที่หลุม 2 และหลุม 5 หลังไดร์ฟผิดพลาดจนทำให้ ราห์ม แชมป์มาสเตอร์สขยับเข้ามาใกล้เพียง 3 สโตรก

ผลงานที่ดีที่สุดในเมเจอร์ของ ฮาร์แมน เกิดขึ้นมารายการยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2017 ที่เขานำ 1 สโตรกหลังผ่าน 54 หลุม แต่สุดท้ายโดย บรูกส์ เคปกา เพื่อนร่วมชาติอเมริกันแซงคว้าแชมป์ไปครอง

แต่ครั้งนี้เขาเริ่มต้นรอบสุดท้ายด้วยการนำบริติช โอเพ่น หลังจบรอบสามมากที่สุดนับตั้งแต่ แมคอิลรอย เคยทำไว้ในสนามเดียวกันนี้เมื่อปี 2014 และ ฮาร์แมน ก็ตอบโต้ทุกการจู่โจมด้วยพัตเตอร์คู่ใจที่กลายเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดที่เขาเลือก

เบอร์ดี้ที่หลุม 6 และหลุม 7 ทำให้สถานการณ์เริ่มผ่อนคลายและ ฮาร์แมน ผ่านเก้าหลุมแรกด้วยการนำ 5 สโตรก โดยคนที่มีลุ้นมากที่สุดเปลี่ยนมาเป็น สตรากา จากออสเตรีย และ คอม จากเกาหลีใต้

สายฝนที่ยังโปรยปรายลงมาไม่หยุดหย่อน ขณะที่ แมคอิลรอย แชมป์เมเจอร์ 4 รายการพยายามไล่กดดันด้วยการเก็บ 3 เบอร์ดี้ในห้าหลุมแรกของเขา

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่การไล่กดดันของนักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือไม่เป็นผลสำเร็จ และเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้วที่ แมคอิลรอย รอคอยแชมป์เมเจอร์ แชมเปียนชิพ รายการที่ห้าในอาชีพ

ในขณะที่ ยัง, ราห์ม, เดย์ รวมถึงหนุ่มอังกฤษอย่าง ฟลีตวูด ต่างก็ยังมีลุ้น แต่ที่เหมือนกันหมดคือทุกคนพัตต์แทบไม่ได้

แมคอิลรอย ทำได้ดีที่สุดคือการหวด 3 อันเดอร์พาร์ 68 ที่ถือเป็นสกอร์ที่ดีที่สุดประจำสัปดาห์ของเขา ส่วนขวัญใจเจ้าถิ่นอย่าง ฟลีตวูด ถูกดับฝันด้วยทริปเปิ้ลโบกี้ หลังตีไปตกเนินทรายด้านหลังหลุม 17

ฮาร์แมน เปิดโอกาสให้คนอื่นเล็กน้อยเมื่อเสียโบกี้ที่สามของวันที่หลุม 13 และ สตรากา ก็ขยับเข้ามาใกล้ 3 สโตรกหลังได้เบอร์ดี้ที่ 5 ของวันที่หลุม 16

แต่ ฮาร์แมน ก็ตอบโต้ด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 14 และเมื่อพัตต์ลงอีกครั้งที่หลุม 15 คลาเร็ตจั๊กก็แทบจะอยู่ในกระเป๋า

หลุม 17 พาร์ 3 แสนเจ้าเล่ห์ และหลุม 18 ซึ่งเป็นหลุมที่ยาวอาจสร้างความประหม่าให้นักกอล์ฟที่ไม่เคบสัมผัสแชมป์รายการใดๆมานับตั้งแต่ปี 2017 ทว่า มรสุมของเมอร์ซีย์ไซด์ไม่สามารถทำลายขบวนพาเหรดฉลองชัยที่หลุมสุดท้ายของ ฮาร์แมน ได้

ฮาร์แมน อาจจะพลาดสถิติทำสกอร์ต่ำกว่า 70 เป็นรอบที่สี่ติดต่อกันใน ดิ โอเพ่น แชมเปียนชิพ แต่ทันทีที่เขาพัตต์พาร์บนกรีนหลุมสุดท้ายลงไป ใบหน้าที่เยือกเย็ยก็แต้มรอยยิ้ม ก่อนที่จะชูกกำปั้นและเข้าไปสวมกอดกับ สกอตต์ ทเวย์ แค็ดดี้ของเขส

ชูบานการ์ ชาร์มา จบการแข่งขันในอันดับที่แปดร่วม นับเป็นผลงานของนักกอล์ฟอินเดียที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์บริติช โอเพ่น และเป็นเพียงหนึ่งใน 22 คนที่สามารถทำอันเดอร์พาร์ได้ใน ดิ โอเพ่น ครั้งนี้

สรุปผลบริติช โอเพ่น (สนามพาร์ 71)
271 ไบรอัน ฮาร์แมน (สหรัฐฯ) 67-65-69-70
277 ทอม คิม (เกาหลีใต้) 74-68-68-67
277 เซปป์ สตรากา (ออสเตรีย) 71-67-70-69
277 เจสัน เดย์ (ออสเตรเลีย) 72-67-69-69
277 จอน ราห์ม (สเปน) 74-70-63-70
278 เอมิเลียโน กริลโล (อาร์เจนตินา) 66-74-70-68
278 รอรี แมคอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 71-70-69-68
278 ชูบานการ์ ชาร์มา (อินเดีย) 68-71-70-70
278 คาเมรอน ยัง (สหรัฐฯ) 72-68-66-73
280 แม็กซ์ โฮมา (สหรัฐฯ) 68-73-70-69
280 แมทธิว จอร์แดน (อังกฤษ) 69-72-69-70
280 ทอมมี ฟลีตวูด (อังกฤษ) 66-71-71-72