‘คอร์ปุซ’ คว้าแชมป์แอลพีจีเอแรก ในศึกยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น
‘คอร์ปุซ’คว้าแชมป์แอลพีจีเอแรกในศึกยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น
อัลลิเซน คอร์ปุซ กลายเป็นสาวอเมริกันคนแรกในรอบ 20 ปีที่คว้าแชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น มาครองสำเร็จในฐานะแชมป์แอลพีจีเอรายการแรกในอาชีพของเธอ หลังจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 ในการแข่งขันที่ เพ็บเบิ้ลบีช ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
อัลลิเซน คอร์ปุซ สาววัย 25 ปีจากฮาวาย หนีจากกลุ่มไล่ด้วยการเซฟพาร์สำคัญและการเก็บสองเบอร์ดี้ติดต่อกันในช่วงเก้าหลุมสุดท้าย ก่อนเดินผ่านแฟร์เวย์หลุม 18 ที่มีมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นวิวสวยงามด้านซ้ายมือของเธอพร้อมกับกลายเป็นสาวคนแรกที่คว้าแชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ที่เพ็บเบิ้ลบีช
ไม่ต้องสนใจว่าเธอไม่เคยคว้าแชมป์แอลพีจีเอมาครองแม้แต่รายการเดียว หรือเรื่องราวที่เธอได้ยินมาตลอดทั้งสัปดาห์เกี่ยวกับการจัด ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ เพ็บเบิลบีช แต่เธอก็มีสมาธิจบจบการแข่งขัน
“ทุกๆ 2-3 หลุมฉันต้องมองออกไปและพูดกับตัวเองว่า เฮ้ ฉันอยู่ที่นี่ที่ เพ็บเบิลบีช ซึ่งไม่มีสถานที่ไหนจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว”คอร์ปุซกล่าว
คอร์ปุซ เปลี่ยนการดวลเดี่ยวกับ นาซ่า ฮาตาโอกะ จากญี่ปุ่นให้กลายเป็นการทิ้งห่างก่อนจะกลายเป็นสาวคนแรกที่ชนะรายการนี้ในสนามที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งนี้
สาวน้อยวัย 25 ปีจากฮาวายเล่นด้วยความสงบและเยือกเย็นไม่ว่าจะในช็อตไหนหรือสถานการณ์ใด กระทั่งเดินผ่านหลุม 18 ด้วยสกอร์ที่นำห่างถึง 3 สโตรก ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ แจ็ก นิคลอส, ทอม วัตสัน และ ไทเกอร์ วูดส์ เคยเดินมาแล้วบนเส้นทางที่พวกเขาคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ที่เพ็บเบิลบีช
“ฉันได้รู้ประวัติศาสตร์ต่างๆมากมายที่นี่ ไทเกอร์ทุบสถืติที่สนามแห่งนี้ และแน่นอนมันพิเศษจริงๆ” คอร์ปุซกล่าว “อีก 20 หรือ 30 ปีต่อจากนี้ ฉันคิดแค่ว่ายูเอส โอเพ่น มีความหมายกับฉันมากขนาดไหน และการที่มันเป็นเพฌบเบิลบีช ยิ่งทำให้ทุกอย่างหวานหอมขึ้นไปอีก”
ตอนที่เธอพัตต์พาร์ลงไปบนกรีนหลุมสุดท้าย คอร์ปุซไม่สามารถปิดบังยิ้มหวานของเธอซึ่งเธอเอามือขึ้นมาปิดไว้ ขณะที่น้ำตาเริ่มไหลเธอก็เช็ดมันด้วยผ้าจนหนูลายอาโลฮาที่มีชื่อเสียงของฮาวาย
บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นคนแรกๆที่เข้ามาแสดงความยินดีกับเธอผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ทั้งคู่ต่างเคยเรียนที่โรงเรียนพูนาฮู ในโฮโนลูลู
“ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นความจริง” คอร์ปุซกล่าว “สัปดาห์นี้มันเหมือนกับความฝันที่เป็นความจริงสำหรับฉัน”
นอกจากนั้นเธอยังเป็นสาวอเมริกันคนแรกในรอบ 20 ปีที่คว้าแชมป์รายการนี้มาครองสำเร็จ โดย ฮิลารี ลันกี เป็นสาวอเมริกันคนล่าสุดที่ชนะ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ในการแข่งขันที่ พัมกินริดจ์ เมื่อปี 2003 ซึ่งครั้งนั้นต้องเพลย์ออฟกัน 3 คนซึ่งมาเล่นกันในวันจันทร์
คอร์ปุซ จบสกอร์รวมสี่วัน 9 อันเดอร์พาร์ 279 และเป็นคนเดียวที่สามารถทำอันเดอร์ได้ทั้ง 4 วันของการแข่งขันก่อนคว้าแชมป์ด้วยชัยชนะ 3 สโตรกเหนือ ชาร์ลีย์ ฮัลล์ (66) และ ชิน จิไฮ (68) พร้อมกับคว้าเงินรางวัลไปครอง 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรางวัลที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์แชมป์เมเจอร์ของแอลพีจีเอ
คอร์ปุซแทบไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นมากนัก
ฮาตาโอกะที่นำการแข่งขัน 1 สโตรกก่อนเล่นรอบสุดท้าย แต่เธอก็เสียมันไปตั้งแต่หลุมแรกเมื่อ คอร์ปุซ ตีช็อตแอพโฑรชขึ้นไปเหลือระยะ 5 ฟุตและขึ้นไปพัตต์เบอร์ดี้ไมพลาด นอกจากนั้นนักกอล์ฟสาววัย 24 ปีจากญี่ปุ่นมาเสียสโตรกมากเกินไปในช่วงเก้าหลุมสุดท้ายของการแข่งขัน
ตอนผ่านเก้าหลุมแรกทั้งคู่ยังเสมอกัน กระทั่ง คอร์ปุซ ตีช็อตแอพโพรชขึ้นไปเหลือระยะ 10 ฟุตทำเบอร์ดี้ที่หลุม 10
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่หลุม 12 พาร์ 3 เมื่อ คอร์ปุซ ตีสั้นเกินไปตกบังเกอร์ แและต้องขึ้นไปเซฟพาร์ระยะ 15 ฟุต ส่วน ฮาตาโอกะ พัตต์เบอร์ดี้จากฟรินจ์ลูกเลยไป 5 ฟุต ซึ่ง คอร์ปุซ เก็บพาร์สำเร็จ แต่สาวญี่ปุ่นเก็บพัตต์ไม่ลงทำให้สกอร์ห่างกัน 2 สโตรก
จากที่ห่าง 2 เพิ่มเป็น 4 สโตรกจากการเล่นเวดจ์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นไปเหลือระยะ 8 ฟุตที่หลุม 14 พาร์ 5 และขึ้นไปเหลือระยะ 4 ฟุตที่หลุม 15 ซึ่งทั้งสองเบอร์ดี้นั้นทำให้แอ็คชั่นในช่วงท้ายของทัวร์นาเมนต์เป็นการสู้กันแย่งอันดับสอง
ชาร์ลีย์ ฮัลล์ ที่เริ่มต้นรอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 7 สโตรกและไล่มาเหลือ 2 แต้มในช่วงต้นของเก้าหลุมสุดท้าย และเธอยังอยู่ในเกมจากการพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 30 ฟุตลงไปที่หลุม 16
ส่วน ชิน จิไฮ สาวจากเกาหลีใต้เก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ขยับขึ้นมาจบอันดับสองร่วมกับ ฮัลล์ โดยแชมป์เมเจอร์ 2 รายการจากเกาหลีใต้แทบไม่ได้ลุ้นมากเท่าไหร่นักในรอบสุดท้าย แต่เธอก็ร่วมแสดงความยินดีกับช่วงเวลาสำคัญของ คอร์ปุซ และประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟสตรี
“สำหรับการแข่งขันที่เพ็บเบิ่ลบีช ฉันเพียงแค่ได้ดูถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเราได้มาเล่นที่นี่กันแล้ว” ชินกล่าว “สนามนี้เต็มไปด้วยประวัตศาสตร์มากมาย และในที่สุดประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟสตรีก็ได้มาจารึกไว้ที่นี่”
ประวัติศาสตร์ดังกล่าวเป็นของ คอร์ปุซ และเธอยังได้เดินตามรอย มิเชลล์ วี เวสต์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นนักกอล์ฟสาวคนเดียวจากฮาวายที่คว้าแชมป์เมเจอร์มาครองสำเร็จ วี เวสต์ ชนะ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ที่ไพน์เฮิร์สท์ นัมเบอร์ 2 เมื่อปี 2014 และมาเล่นเมเจอร์รายการสุดท้ายในอาชีพของเธอที่เพ็บเบิลบีชในสัปดาห์เดียวกันนี้
“ฉันไม่เคยคิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ ฉันเพียงได้แต่ดูมิเชลล์ เธอเปรียบเสมือนบุคคลต้นแบบสำหรับฉัน” คอร์ปุซกล่าว “แต่ฉันไม่เคยเปรียบเทียบตัวฉันกับเธอ ฉันเพียงต้องการสร้างชื่อด้วยตัวของฉันเอง แต่เธอเป็นแรงบันดาลใจที่เยี่ยมมาก”
สรุปผลยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น (สนามพาร์ 72)
279 อัลลิเซน คอร์ปุซ (สหรัฐ) 69-70-71-69
282 ชาร์ลีย์ ฮัลล์ (อังกฤษ) 73-72-71-66
282 ชิน จิไฮ (เกาหลีใต้) 71-73-70-68
285 ไบลีย์ ทาร์ดี (สหรัฐฯ) 69-68-75-73
285 นาซ่า ฮาตาโอกะ (ญี่ปุ่น) 69-74-66-76
286 อายากะ ฟูรูเอะ (ญี่ปุ่น) 74-70-73-69
286 คิม ฮโย จู (เกาหลีใต้) 68-71-73-74
28 เรียว แฮ รัน (เกาหลีใต้) 69-72-73-74
289 โรส ซาง (สหรัฐฯ) 74-71-72-72
289 มายา สตาร์ก (สวีเดน) 72-73-72-72
290 อัลลี อีวิง (สหรัฐฯ) 73-73-76-68
291 บรู๊ค เอ็ม เฮนเดอร์สัน (แคนาดา) 71-75-73-72