‘แบร็ดลีย์’ ปลื้มชนะพีจีเอทัวร์ในรัฐบ้านเกิด
‘แบร็ดลีย์’ ปลื้มชนะพีจีเอทัวร์ในรัฐบ้านเกิด
คีแกน แบร็ดลีย์ หนุ่มจากเวอร์มอนต์คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการทราเวลเลอร์ส แชมเปียนชิพ ด้วยการทำสกอร์ทุบสถิติของทัวร์นาเมนต์ 1 ช็อต ในการแข่งขันที่ครอมเวลล์ รัฐอนเคติคัต สหรัฐอเมริกา
คีแกน แบร็ดลีย์ เด็กที่เกิดและเติบโตในนิวอิงแลนด์ กล่าวว่าเขาไม่เคยได้รับเชิญให้ไปเล่นรายการใหญ่ในระดับจูเนียร์ที่เล่นกันในฟลอริดา ดังนั้นชัยชนะครั้งนี้เหนือแฟนๆชาวนิวอิงแลนด์ ของหนุ่มจากเวอร์มอนต์จึงเป็นอะไรที่พิเศษกว่าปกตื
แม้จะจบด้วยความสั่นคลอน ซึ่งเขากล่าวยอมรับว่ามาจากความประหม่าที่ต้องการชัยชนะเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายหนุ่มอเมริกันวัย 37 ปีก็สามารถทำสกอร์ทุบสถิติ คว้าแชมป์ทราเวลเลอร์ส แชมเปียนชิพ สำหรับแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่หกของเขา
แบร็ดลีย์ จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วันคว้าแชมป์โดยทิ้งอันดับสอง 3 สโตรก ที่ประกอบด้วย แซก แบลร์ ที่รอบสุดท้ายหวดเข้ามา 62 และ ไบรอัน ฮาร์แมน ที่จบรอบสุดท้าย 64
“นี่สำหรับเด็กทุกๆคนแบบผมที่เกิดและเติบโดในแถบนี้ที่ได้แค่ดูเด็กจากฟลอริดาลงเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ผมไม่เคยได้มีโอกาสได้รับเชิญเข้าไปเล่น” แบร็ดลีย์กล่าว “ผมหวังว่า พวกเขาจะรู้ว่าสามารถมาจัดกอล์ฟรายการใหญ่ในแถบนี้ได้”
แบร็ดลีย์ ที่ในสามวันแรกทำสกอร์ 62, 63 และ 64 ตามลำดับ และทำสกอร์รวมสี่วันที่ ทีพีซี ริเวอร์ ไฮแลนด์ส 23 อันเดอร์พาร์ 257 ดีกว่าสถิติเดิมที่ เคนนี เพอร์รี เคยทำไว้เมื่อปี 2009 หนึ่งสโตรก
เมื่อแฟนๆตะโกนเรียกชื่อเขา หนุ่มอเมริกันวัย 37 ปีเดินไปที่ลูกของเขาซึ่งอยู่บนกรีนหลุม 18 และพัตต์พาร์ระยะ 2 ฟุตลงไปพร้อมกับชูแขนขึ้นฟ้าพร้อมเสียงโห่ร้องของแฟนๆ
“ผมอธิบายไม่ถูกด้วยซ้ำว่าความรู้สึกมันเป็นอย่างไร” แบร็ดลีย์กล่าว “ผมฝันมาทั้งชีวิตที่จะได้เล่นใน เฟนเวย์พาร์ก ยิลเล็ตต์ สเตเดี้ยม และนี่คงเป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว ผมได้ยินหลายคนบอกว่าเขาไม่เคยได้ยินเสียงแบบนั้นที่หลุม 18 มาก่อนเลย”
ตลอดทั้งสัปดาห์ แบร็ดลีย์ เสียไปเพียงแค่โบกี้เดียว กระทั่งมาเสีย 3 สโตรกในการเล่นหกหลุมสุดท้าย ซึ่งดูเหมือนความประหม่าจะเริ่มเล่นงานเขา
รายการนี้เป็นรายการพีจีเอทัวร์ที่แบร็ดลีย์ต้องการควาชัยชนะมากที่สุดนอกเหนือจากรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ และนับเป็นการคว้าแชมป์รายการที่สองในฤดูกาลนี้ของเขาต่อจากชัยชนะในรายการโซโซ แชมเปียนชิพ ที่ญี่ปุ่น เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
แบร็ดลีย์ ได้เบอร์ดี้ที่หลุม 12 พาร์ 4 ที่ทำให้สกอร์ของวันขยับเป็น 5 อันเดอร์พาร์และสกอร์รวมนำหน้า 6 สโตรก ทว่า ที่หลุมถัดไปเขาทีช็อตสไลซ์ตกน้ำออกโบกี้ จากนั้นไปเสียอีกสองโบกี้ที่หลุม 14 และหลุม 16
การเซฟพาร์ที่หลุม 17 ทำให้สถานการ์ดีขึ้น ก่อนจะการันตีชัยชนะด้วยพาร์บนกรีนหลุมสุดท้าย
“ผมเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งถึงห้าหรือหกหลุมสุดท้าย โชคดีที่ผมนำอยู่มากเพียงพอ” แบร็ดลีย์กล่าว
แบร็ดลีย์ กลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกจากนิวอิงแลนด์ที่คว้าแชมป์รายการนี้มาครองสำเร็จ นับตั้งแต่ เจ.เจ.เฮนรี นักกอล์ฟคอนเนคติคัตที่เคยชนะเมื่อปี 2006
จากชัยชนะรายการนี้ทำให้อันดับบนตารางไรเดอร์คัพของแบร็ดลีย์ขยับขึ้นมาอยู่ที่เต็ด ซึ่งหกอันดับแรกจะติดทีมโดยอัตโนมัติ ขณะที่ แซก จอห์นสัน กัปตันทีมสหรัฐอเมริกาจะใช้สิทธิเลือกผู้เล่นไวลด์คาร์ดอีก 6 คน ซึ่งเขาบอกว่านั่นเป็นเรื่องแรกที่เขาคุยกับภรรยาตอนเดินออกจากสนามกอล์ฟ
“ผมยังมีอะไรอีกมากที่จะแสดงให้กัปตันได้เห็น และผมอยากจะเดินทางไปโรมในฐานะส่วนหนึ่งของทีมยูเอสไรเดอร์คัพ” แบร็ดลีย์กล่าว
ชัยชนะรายการนี้ แบร็ดลีย์ คว้าเงินรางวัลไปครอง 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ทำให้จำนวนเงินสะสมในฤดูกาลนี้ของเขาขยับไปเป็น 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทางด้าน รอรี แม็คอิลรอย ตีเข้ามา 64 และทำสกอร์รวม 18 อันเดอร์ หลังออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยความร้อนแรง ท่ามกลางแฟนกอล์ฟที่แห่ตามเชียร์ แม็คอิลรอย ทำ 5 เบอร์ดี้ในการเล่นเจ็ดหลุมแรก
แต่นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือมาเสียสโตรกที่หลุมเก้า หลังจากทีช็อตระยะ 352 หลาของเขาหลุดไปอยู่ในรัฟยาว จากนั้นที่หลุม 12 ไปพลาดเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 8 ฟุตอย่างน่าเสียดาย
ส่วน วินด์แฮม คลาร์ก แชมป์ยูเอส โอเพ่น คนล่าสุดที่เฉือนชนะ แม็คอิลรอย 1 สโตรก ในการแข่งขันที่ ลอสแองเจลิส คันทรีคลับ ก่อนรายการนี้หนึ่งสัปดาห์ ในทัวร์นาเมนต์นี้ คลาร์ก จบรอบสุดท้าย 66 จบการแข่งขันในอันดับที่ยี่สิบเก้าร่วมด้วยสกอร์ 12 อันเดอร์พาร์
สรุปผลทราเวลเลอร์ส แชมเปียนชิพ (สนามพาร์ 70)
257 คีแกน แบร็ดลีย์ (สหรัฐฯ) 62-63-64-68
260 แซค แบลร์ (สหรัฐฯ) 65-65-68-62
260 ไบรอัน ฮาร์แมน (สหรัฐฯ) 66-66-64-64
261 สกอตตี เชฟเฟลอร์ (สหรัฐฯ) 63-70-63-65
261 แพทริก แคนต์เลย์ (สหรัฐฯ) 65-68-61-67
261 เชซ รีวี (สหรัฐฯ) 64-63-63-71
262 รอรี แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 68-64-66-64
262 เดนนี แม็คคาร์ธีย์ (สหรัฐฯ) 60-65-70-67
263 มิน วู ลี (ออสเตรเลีย) 66-65-65-67
263 คอรีย์ คอนเนอร์ส (แคนาดา) 67-65-65-66
263 อเล็กซ์ สมอลเลย์ (สหรัฐฯ) 70-62-64-67
263 จัสติน โธมัส (สหรัฐฯ) 70-64-62-67
264 ฮิเดกิ มัตซึยามา (ญี่ปุ่น) 69-64-65-66
264 ริคกี ฟาวเลอร์ (สหรัฐฯ) 70-65-60-69