‘เทย์เลอร์’ สร้างประวัติศาสตร์ศึก แคนาเดียน โอเพ่น
‘เทย์เลอร์’ สร้างประวัติศาสตร์ศึก แคนาเดียน โอเพ่น
นิก เทย์เลอร์ นักกอล์ฟแคนาเดียนลากพัตต์ระยะ 72 ฟุตลงไปที่หลุมสี่ของการเพลย์ออฟ คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการ แคนาเดียน โอเพ่น และกลายเป็นนักกอล์ฟชายชาวแคนาเดียนคนแรกในรอบเกือบ 7 ทศวรรษ ที่สามารถคว้าแชมป์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ ของประเทศมาครองสำเร็จ
ครั้งหลังสุดที่ชาวแคนาเดียนชนะเนชั่นแนล แชมเปียนชิพ เกิดขึ้นจากผลงานของ แพต เฟลตเชอร์ เมื่อปี 1954 ก่อนที่ นิก เทย์เลอร์ จะเป็นคนต่อมาที่หยุดการรอคอยอันยาวนานของแฟนกอล์ฟชาวแคนาเดียน โดยพัตต์ยาวที่สุดในอาชีพของเขายังเป็นการปฏิเสธการคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกของ ทอมมี ฟลีตวูด นักกอล์ฟจากอังกฤษด้วย
“นี่คือของขวัญสำหรับนักกอล์ฟชายทุกคนที่นี่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา นี่เป็นชัยชนะของผมต่อหน้าครอบครัวในบ้านของผมเอง” เทย์เลอร์กล่าวหลังชัยชนะ แคนาเดียน โอเพ่น “การทำลายคำสาปอันยาวนานครั้งนี้ของผมต้องบอกเลยว่าพูดไม่ออกจริงๆ”
“ผมไม่คิดว่าพัตต์นั้นมันจะลงไปจริงๆ แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องจริง”
ลูกกอล์ฟของเขาหายลงไปในหลุมหลังชนธงที่มีธงแคนาดาเป็นสัญลักษณ์ ท่ามกลางสายฝนที่พรมลงมาบนสนาม โอคเดล กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ขณะที่แฟนๆร่วมยินดีกับอีเกิ้ลพัตต์ลูกดังกล่าวที่ได้รับการจนานนามว่าเป็นหนึ่งในช็อตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟแคนาดา
“เมื่อมีฝนตกลงมา ระหว่างทางที่ลูกกอล์ฟเดินทางไปนั้นแม้จะมีสโลปและแน่นอนว่าเรารู้ดีว่าความเร็วของกรีนมันจะลดลง” เทย์เลอร์พูดถึงพัตต์เพื่อชัยชนะของเขา “ด้วยความสัตย์จริง การที่ลูกกอล์ฟวิ่งมาถึงหลุมได้จริงๆ นั้น สร้างความประหลาดใจให้กับผมเล็กน้อย”
นักกอล์ฟแคนาเดียนกล่าวต่ออีกว่า “และหลังจากที่ลูกลงหลุมไป มันคือเรื่องที่น่าประหลาดใจมากแต่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าทึ่งทีเดียว”
ในบรรดากลุ่มคนที่ชูมือแสดงความยินดีรอบกรีนหลุม 18 นั้นรวมถึง ไมค์ เวียร์ ยอดนักกอล์ฟที่เป็นชาวแคนาเดียนคนแรกและคนเดียวที่ชนะรายการระดับเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ รวมอยู่ด้วย
เวียร์ ที่เกือบจะชนะการแข่งขันรายการนี้เมื่อปี 2004 แต่สุดท้ายไปแพ้ วีเจย์ ซิงห์ จากฟิจิ ในการดวลเพลย์ออฟ กล่าวถึงชัยชนะของ เทย์เลอร์ ว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
“ผู้เล่นหลายคนเมื่อมีโอกาสได้เล่นในประเทศบ้านเกิด ต่างก็มีความกดดันแตกต่างกันออกไป แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องเล่นเพื่อบ้านเกิด ความกดดันก็จะต่างออกไป” เวียร์ เจ้าของแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส เมื่อปี 2003 กล่าว
หลังออกสตาร์ตรอบแรกของการแข่งขันด้วยการตีเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ 75 สถานการณ์ของ เทย์เลอร์ ดูสุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบมากกว่าที่จะมายืนรับถ้วยชนะเลิศบนกรีนหลุม 18 ในรอบสุดท้าย
หลังจากนั้น เขากล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับ แอนดี ภรรยาของเขา ซึ่งทำให่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
มันเป็นข้อความที่นักกอล์ฟวัย 35 ปีได้ยินอย่างชัดเจน ซึ่งเขาตอบโต้ด้วยการโชว์ผลงานอย่างยอดเยี่ยมในรอบสองด้วยการหวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 ตามด้วยการทำสถิติสนามในรอบสามด้วยสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 63 ที่ส่งเขากลับมามีลุ้น
ในขณะที่ เทน์เลอร์ ทำให้แฟนกอล์ฟชาวแคนาเดียนสิ่งสุดการรอคอย แต่สำหรับในวงการฮ็อกกี้น้ำแข็ง ก็ยังไม่มีทีมใดในลีกเอ็นเอชแอลที่เป็นทีมจากแคนาดาที่คว้าถ้วยสแตนลีย์คัพมากว่า 30 ปีแล้ว และยังคงต้องรอคอยต่อไป
กอล์ฟและฮ็อกกี้น้ำแข็งถูกนำมาเชื่อมโยงกันในการแข่งขันกอล์ฟแคนาเดียน โอเพ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หลุมพาร์ 3 ที่ได้ชื่อว่า “ริงก์โฮล” อันอักทึกที่สร้างบรรยากาศเหมือนสนามกีฬา
ที่หลุมดังกล่าว เทย์เลอร์ ร่วมร้องเพลงชาติแคนาดาที่ชื่อว่า “โอ แคนาดา” ก่อนที่จะทีช็อตออกไป
“มันเป็นบรรยากาศที่น่าทึ่งที่สุดที่ผมเคยมีส่วนร่วมเลยทีเดียว”เทย์เลอร์กล่าว “มีการปรบมือในทุกๆ แท่นทีออฟและทุกๆ กรีนที่ผมเดินผ่าน”
“ผมรู้ดีว่าพลังงานของพวกเขาสูบฉีดขนาดไหน และพวกเขาทุกคนก็พยายามส่งต่อพลังงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะช่วยให้ผมมันผ่านไปได้” เทย์เลอร์กล่าวในที่สุด
สรุปผลแคนาเดียน โอเพ่น (สนามพาร์ 72)
271 นิก เทย์เลอร์ (แคนาดา) 75-67-63-66
271 ทอมมี ฟลีตวูด (อังกฤษ) 70-70-64-67 (เทย์เลอร์ ชนะที่หลุมสี่ของการซัดเด้นเดธเพลย์ออฟ)
272 ไทเรลล์ ฮัตตัน (อังกฤษ) 72-64-72-64
272 แอรอน ไร (อังกฤษ) 67-69-69-67
272 ซี.ที. แพน (ไต้หวัน) 70-66-66-70
274 อีริก โคล (สหรัฐฯ) 69-73-69-63
274 มาร์ก ฮับบาร์ด (สหรัฐฯ) 68-70-66-70
275 จัสติน โรส (อังกฤษ) 69-69-66-71
276 แบรนดอน วู (สหรัฐฯ) 71-69-67-69
276 แอนดรูว์ โนวัก (สหรัฐฯ) 69-68-67-72
276 รอรี แมคอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 71-67-66-72
277 อดัม แฮดวิน (แคนาดา) 71-68-70-68
277 แฮร์ริสัน เอนดีค็อตต์ (ออสเตรเลีย) 72-68-69-68
277 ดัก กิม (สหรัฐฯ) 71-68-69-69
277 โจนาธาน เบิร์ด (สหรัฐฯ) 68-69-70-70
277 แฮร์รี ฮิกก์ส (สหรัฐฯ) 71-66-67-73