Golf NEWS

‘ราห์ม’ อุทิศแชมป์มาสเตอร์สแด่ เซวี

‘ราห์ม’ อุทิศแชมป์มาสเตอร์สแด่ เซวี

จอน ราห์ม ยอดนักกอล์ฟจากสเปนยืนหยัดในรอบสุดท้ายที่ต้องเล่นแบบมาราธอนก่อนคว้าชัยชนะในวันคล้ายวันเกิดของฮีโร่ผู็ล่วงลับอย่าง เซวี บาเยสเตอรอส ตำนานชาวสแปนิช คว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ศ เมเจอร์แรกของปีที่ ออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟคลับ ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

จอน ราห์ม ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 4 สโตรก ก่อนไล่แซงด้วยการหวดเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วัน 12 อันเดอร์พาร์ 276 คว้าแชมป์ด้วยชัยชนะ 4 สโตรกเหนือสองดาวดังจาก ลีฟกอล์ฟ อย่าง บรู๊คส์ เคปกา และ ฟิล มิกเกลสัน

นับเป็นการคว้าแชมป์รายการที่สี่ในฤดูกาลนี้ของ จอน ราห์ม โดยเป็นการคว้าชัยชนะรายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ รายการที่สองในอาชีพต่อจากชัยชนะในรายการ ยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2021

นอกจากนั้น ราห์ม ยังทวงตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกคืนมาจาก สกอตตี เชฟเฟลอร์ นักกอล์ฟอเมริกันที่ลงเล่นในฐานะแชมป์เก่าด้วย

“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะเสียน้ำตาจากการชนะการแข่งขันกอล์ฟ แต่ก็เกือบจะหลั่งน้ำตาที่หลุม 18” ราห์มกล่าว โดยเขาเป็นนักกอล์ฟสเปนคนที่สี่ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์มาสเตอร์สต่อจาก บาเยสเตอรอส, โฆเซ มาเรีย โฮลาซาบัล และ เซอร์จิโอ การ์เซีย

“ผมภูมิใจมาก ผมภูมิใจทั้งในตัวเอลและในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป” ราห์มกล่าว

ทางด้าน บรู๊คส์ เคปกา นักกอล์ฟอเมริกันที่นำการแข่งขันหลังผ่าน 54 หลุม แต่ในรอบสุดท้ายเขาไม่สามารถเร่งเครื่องได้ ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้ายเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ 75

ขณะที่ ฟิล มิกเกลสัน นักกอล์ฟอเมริกันวัย 52 ปีเจ้าของกรีนแจ็คเก็ตสามตัวโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำสกอร์รอบสุดท้าย 7 อันเดอร์พาร์ 65 ที่นับเป็นสกอร์รอบสุดท้ายของมาสเตอร์สที่ต่ำที่สุดโดยนักกอล์ฟอายุมากกว่า 50 ปี ส่งให้ มิกเกลสัน ขึ้นมาจบอันดับสองร่วมกับ เคปกา ด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280

สองอดีตแชมป์มาสเตอร์ส จอร์แดน สปีธ (66) และ แพทริก รีด (68) รวมถึง รัสเซลล์ เฮนลีย์ (70) จบอันดับสี่ร่วมกันด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281

เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปีของ บาเบสเตอรอส และครบ 40 ปีของการคว้าแชมป์มาสเตอร์สสมัยที่สองของตำนานชาวสเปน ทำให้ ราห์ม ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องระหว่างที่เขาเดินอยู่บนแฟร์เวย์หลุม 18 ด้วยสกอร์ที่นำอยู่ 4 สโตรก

นักกอล์ฟจากสเปนพยายามทำตัวให้สงบที่สุด และในที่สุดหนุ่มวัย 28 ปีก็คว้าชัยชนะไปครองหลังพัตต์พาร์ระยะ 4 ฟุตลงไปบนกรีนหลุมสุดท้าย เป็นการจบวันที่เริ่มต้นตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นและจบลงในช่วงเกือบค่ำของรัฐจอร์เจีย

“ประวัติศาสตร์ของวงการกอล์ฟเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมเล่นกอล์ฟ และ เซวี บาเยสเตอรอส ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลนั้น” ราห์มกล่าว “สำหรับผมแล้วการที่ผมสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในปีที่ครบรอบ 40 ปีแห่งชัยชนะของเขา ในวันคล้ายวันเกิดเขา แล้วในวันอีสเตอร์ มันมีความหมายอย่างเหลือเชื่อ”

“การจบทัวร์นาเมนต์ในแบบที่ผมทำ การเซวีพาร์ มันเป็นข้อพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดว่าผมนึกถึงเขา และผมรู้ดีว่าเป็นเขาที่ดึงตัวผมขึ้นมาในวันนี้”​ราห์มกล่าว​“ชัยชนะรายการนี้สำหรับเซวี เขาอยู่ที่นั่นและคอยช่วยเหลือผม”

หลังจากการแข่งขันสองวันที่ออกัสต้าต้องถูกขัดจังหวะด้วยสายฝนที่ซัดกระหน่ำและกระแสลมแรงที่โค้นต้นไม้ในสนามส่ผลให้นักกอล์ 53 คนต้องกลับมาเล่นในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่สนามเจิ่งไปด้วยน้ำเพื่อจบรอบสามของตนเองให้ได้

ก่อนลงเล่นในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ บรู๊คส์ เคปกา ที่นำหน้า ราห์ม 4 สโตรก แต่เมื่อจบรอบสามเหลือนำหน้าเพียง 2 สโตรก

รายการในลีฟกอล์ฟนั้นเล่นกันเพียงทัวร์นาเมนต์ล่ะ 54 หลุม ซึ่งถ้าหากการแข่งขันที่ ออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟคลับ เล่นในรูปแบบเดียวกับลีฟกอล์ฟ เคปกา ก็คงจะได้กรันแจ๊คเก็ตไปครองแล้ว

แต่โชคไม่ดีสำหรับ เคปกา เนื่องจากแชมป์รายการระดับเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ต้องเล่นกัน 72 หลุม

การแข่งขันในรอบที่สี่หลังผ่านเก้าหลุมแรกไปนั้นเป็น ราห์ม นักกอล์ฟจากสเปนที่เป็นฝ่ายออกนำ 2 สโตรก และดูเหมือนจะควบคุมสถาการณ์ได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ เคปกา เล่นไป 22 หลุมโดยไม่สามารถทำเบอร์ดี้ได้แม้แต่หลุมเดียว ราห์มก็ส่งหมัดน็อกด้วยการทำสองเบอร์ดี้ติดต่อกันที่หลุม 13 และหลุม 14 พร้อมกับขึ้นนำ 5 สโตรกกับอีกสี่หลุมสุดท้ายของการแข่งขัน

ถึงแม้ว่า เตปกา และ มิกเกลสัน จะไม่สามารถคว้าชัยชนะมาครองได้ แต่ ลีฟกอล์ฟ ก็ยังมองว่าการแข่งขัน เดอะ มาสเตอร์ส เป็นความสำเร็จที่สำคัญหลังจากผู้เล่นจากลีฟกอล์ฟถึง 3 คนที่ขึ้นมาจบใน 5 อันดับแรก

อย่างไรก็ตาม มิกเกลสัน กล่าวว่า “การแข่งขันรายการนี้ไม่ได้เกี่ยวกับทัวร์ที่คุณเล่น แต่เป็นรายการที่มีผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลก จากทัวร์ต่างๆมากมายมาแข่งขันกันเนื่องจากเป็นรายการระดับเมเจอร์ นั่นคือเรื่องราวทั้งหมด”

สรุปผลเดอะ มาสเตอร์ส (สนามพาร์ 72)
276 จอน ราห์ม (สเปน) 65-69-73-69
280 ฟิล มิกเกลสัน (สหรัฐฯ) 71-69-75-65
280 บรู๊คส์ เคปกา (สหรัฐฯ) 65-67-73-75
281 จอร์แดน สปีธ (สหรัฐฯ) 69-70-76-66
281 แพทริก รีด (สหรัฐฯ) 71-70-72-68
281 รัสเซลล์ เฮนลีย์ (สหรัฐฯ) 73-67-71-70
282 คาเมรอน ยัง (สหรัฐฯ) 67-72-75-68
282 วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ (นอร์เวย์) 65-73-70-74
283 ซาฮิธ ธีกาลา (สหรัฐฯ) 73-70-73-67
284 แมทธิว ฟิตซ์แพทริก (อังกฤษ) 70-72-72-70
284 สกอตตี เชฟเฟลอร์ (สหรัฐฯ) 68-75-71-70
284 ซานเดอร์ ชอฟเฟเล (สหรัฐฯ) 68-74-71-71
284 คอลลิน มอริกาวา (สหรัฐฯ) 69-69-74-72