Golf NEWS

“สาริศ” ปลดล็อค เอเชียน ทัวร์ คว้าแชมป์ที่จาการ์ต้า

สาริศ สุวรรณรัตน์ ปลดล็อคคว้าโทรฟีแชมป์เอเชียน ทัวร์ แรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ หลังหวด 18 หลุมสุดท้ายได้อีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 ในศึก “บีเอ็นไอ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส” ที่สนามรอแยล จาการ์ต้า กอล์ฟ คลับ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2565 โดยทำสกอร์ทิ้งห่าง อานีร์บาน ลาฮิรี  จากอินเดีย ถึง 4 สโตรค

เอเชียนทัวร์ ร่วมกับ ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ จัดการแข่งขันกอล์ฟ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการที่ 7 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 53 ล้านบาท ณ สนามรอแยล จาการ์ต้า กอล์ฟ คลับ  ระยะ 7,368 หลา พาร์ 72 ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม 2565 โดยมีเหล่าโปรชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ และนักกอล์ฟแถวหน้าของอินโดนีเซียลงแข่งขันรวม 144 คน ทั้งนี้มีนักกอล์ฟชาวไทยผ่านเข้ามาเล่นในสองวันสุดท้ายได้ 19 คน

โดยในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. มีผู้เล่นตกค้างจากรอบที่แล้วต้องลงแข่งขันรอบสามให้จบ ต่อด้วยการแข่งขันรอบสุดท้าย ปรากฎว่า โปรเซฟ-สาริศ สุวรรณรัตน์ ซึ่งเก็บ 4 หลุมที่เหลือของรอบสาม ขึ้นนำด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 200 ยังรักษาฟอร์มดีต่อเนื่องจากการหวด 1 อีเกิ้ล ที่หลุม 9 พาร์ 5 กับอีก 3 เบอร์ดี้ มาเสียหนึ่งโบกี้ที่หลุม 16 พาร์ 4 ก่อนที่การแข่งขันต้องหยุดชั่วคราวในเวลา 13.09 น. เนื่องจากมีประจุไฟฟ้าในอากาศ โดยเจ้าตัวนำโด่งอยู่ 5 สโตรค ก่อนที่กลับมาแข่งขันต่อในเวลา 14.30 น. และเซฟพาร์ในสองหลุมที่เหลือ ทำให้จบ 18 หลุมสุดท้ายเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 คว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัล 270,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.5 ล้านบาท โดยมี อานีร์บาน ลาฮิรี  อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2014 จากอินเดีย เร่งเครื่องหวด 6 อันเดอร์พาร์ 66 พุ่งจากอันดับ 8 ร่วมมารั้งรองแชมป์ด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 272

สาริศ สุวรรณรัตน์ นักกอล์ฟวัย 24 ปี เผยหลังปลดล็อคแชมป์ให้กับตัวเองว่า “ผมเกือบร้องไห้ในหลุมสุดท้าย ผมไม่รู้จะอธิบายว่ารู้สึกอย่างไร รู้เพียงแค่ว่ามีความสุข สัปดาห์ที่ผ่านมาผมคุยกับโค้ชและพบอะไรบางอย่าง ซึ่งในรอบโปรแอมกับรอบแข่งวันแรกผมเล่นได้ไม่ดีนัก เรากลับมาดูวีดีโอเพื่อหาจุดบกพร่อง และออกไปสู้ใหม่ ตลอดทั้งสัปดาห์ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร แค่สนุกกับเกมของตัวเอง และผมพอใจกับการเล่นของตัวเองในสัปดาห์นี้มาก”

ทางด้าน แกรม แม็คโดเวลล์ ดาวดังของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ กับ ชาน ชิ ชาง โปรแถวหน้าของไต้หวัน เร่งเครื่องหวดเข้ามาคนละ 3 อันเดอร์พาร์ 69 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ร่วมที่สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 273 ขณะที่สามโปรหนุ่มแถวหน้าของไทยอย่าง โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2019, โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา และ โคสุเกะ ฮามาโมโต้ จบด้วยสกอร์สกอร์รวมเท่ากันที่ 12 อันเดอร์พาร์ 276 อยู่อันดับ 6 ร่วม

ขณะที่ ลี เวสต์วูด แชมป์ 3 สมัยจากอังกฤษเก็บเพิ่มได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 71 จบด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 ตามมาที่อันดับ 9 ส่วน เออร์นี เอลส์ จอมเก๋าจากแอฟริกาใต้ ตีเกินอีก 1 โอเวอร์พาร์ 73 สกอร์รวมอีเวนพาร์ 288 อยู่อันดับ 56 ร่วม

สำหรับผลงานนักกอล์ฟไทยที่น่าสนใจรายอื่น ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต (67) สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 278 อันดับ 10 ร่วม, อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ (71) สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 อยู่อันดับ 15 ร่วม, กิรเดช อภิบาลรัตน์ (67) และ ชัพชัย นิราช (67) สกอร์รวมคนละ 7 อันเดอร์พาร์ 281 รั้งอันดับ 20 ร่วม

ทั้งนี้หลังจบการแข่งขัน บีเอ็นไอ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส ส่งผลให้ ซีฮวาน คิม โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ครองบัลลังก์มือหนึ่งเงินรางวัลสะสมของเอเชียน ทัวร์ ออร์เดอร์ออฟเมอริต ฤดูกาล 2022 ที่เงินรางวัลรวม 627,458.33 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่งขัน 14 รายการ ขณะที่แชมป์ทำเงินรางวัลสะสม อินเตอร์ เนชั่นแนล ซีรีส์ ตกเป็นของ สกอตต์ วินเซนต์ โปรกอล์ฟจากซิมบับเว จากการลงเล่นครบทั้ง 7 รายการ สะสมเงินรางวัลรวม 517,845 เหรียญสหรัฐ