พีจีเอทัวร์ เพิ่มเงินรางวัลอีก 4 รายการ
พีจีเอทัวร์ ประกาศเพิ่มเงินรางวัลแข่งขันอีก 4 รายการ
พีจีเอทัวร์ ประกาศแจ้งข่าวดีกับสมาชิกในทัวร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า จะมีการเพิ่มเงินรางวัลการแข่งขันอีก 4 รายการ เพิ่มเติมจาก 13 รายการที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ และเหล่าโปรกอล์ฟชั้นนำของทัวร์ต่างยืนยันเข้าร่วมชิงชัยในฤดูกาล 2023
ก่อนหน้านี้ เจย์ โมนาฮา ประธานบริหารพีจีเอทัวร์ ประกาศในรายการทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ เรื่องการยกระดับการแข่งขันเพิ่มเงินรางวัลชิงชัย 13 รายการ ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา พีจีเอทัวร์เดินหน้าปรับกลยุทธ์ประกาศเพิ่มเงินรางวัลแข่งขันอีก 4 รายการ ชิงเงินรางวัลรวมรายการละ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วยรายการ ดับเบิลยูเอ็ม ฟีนิกซ์ โอเพ่น, อาร์บีซี เฮอริเทจ, เวลส์ ฟาร์โก แชมเปี้ยนชิพ และทราเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ
ส่วนโปรแกรมการแข่งขันที่ประกาศเพิ่มเงินรางวัลชิงชัยก่อนหน้านี้ และได้รับการยืนยันจากยอดโปรกอล์ฟชั้นนำของทัวร์ว่าจะเข้าร่วมแข่งขันทั้ง 13 รายการ ประกอบด้วย
- 4 รายการเมเจอร์ และเดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ
- 3 รายการเฟดเอ็กซ์คัพ เพลย์ออฟ ได้แก่ เฟดเอ็กซ์ เซนต์ จู้ด แชมเปี้ยนชิพ, บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปี้ยนชิพ, ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ
- 3 รายการอินวิเตชันแนลที่จัดโดยนักกอล์ฟระดับตำนาน ได้แก่ รายการ เจเนซิส อินวิเตชันแนล, อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชันแนล พรีเซนเต็ดบาย มาสเตอร์การ์ด, เมมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ พรีเซนเต็ดบาย เวิร์กเดย์
- รายการเซนทรี ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์
- รายการเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ-เดล เทคโนโลยีส์ แมตช์เพลย์
นักกอล์ฟที่ทำผลงานจบใน 20 อันดับแรกในเพลเยอร์ อิมแพค โปรแกรม ปี 2022 ( Player Impact Program ) ต้องเข้าร่วมแข่งขันทั้ง 13 รายการ และร่วมโปรแกรมการแข่งขันที่ประกาศเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 3 รายการ
เจย์ โมนาฮาน ประธานบริหารพีจีเอทัวร์ กล่าวหลังจาก รอรี่ แม็กอิลรอย คว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ สมัยที่ 3 ว่า “ผู้เล่นชั้นนำของเราให้การสนับสนุนทัวร์อย่างเหนียวแน่น ช่วยให้เราจัดรายการแข่งขันที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับแฟนๆ ของเรา ซึ่งรับประกันได้ว่าจะได้เห็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดประชันฝีมือกันในการแข่งขัน 20 รายการขึ้นไปตลอดทั้งฤดูกาล นี่เป็นความมุ่งมั่นที่โดดเด่นและไม่เคยมีมาก่อน เป็นเครื่องพิสูจน์ศักดิ์ศรีของบรรดานักกอล์ฟกลุ่มนี้และสิ่งที่พวกเขาเชื่อ
ด้านรอรี่ แม็กอิลรอย ยอดโปรกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือ เชื่อว่าการนำผู้เล่นระดับท็อปมารวมตัวกันบ่อยขึ้นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับแฟนกีฬากอล์ฟและพันธมิตรของทัวร์ โดยเจ้าตัวเผยหลังจบการแข่งขันทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ว่า “เวลาผมไปดูเทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ผมคาดหวังว่าจะได้เห็น ทอม เบรดี้ ลงสนามขว้างบอล และเมื่อไปดูการแข่งขันศึกฟอร์มูล่า วัน ผมก็หวังจะได้เห็น ลูอิส แฮมินตัน ควบรถคู่ใจลงซิ่งในสนาม”
สำหรับการแข่งขัน 4 รายการที่มีการประกาศเพิ่มเงินรางวัลชิงชัย เป็นรายการที่มีมายาวนานในพีจีเอทัวร์ และแข่งขันในสนามที่มีชื่อเสียง โดยรายการดับเบิลยูเอ็ม ฟีนิกซ์ โอเพ่น เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1932 ขณะที่รายการ อาร์บีซี เฮอริเทจ เปิดตัวในปี 1969 และทราเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ในปี 1952 ส่วนสนาม ทีพีซี สกอตเดล เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมชมการแข่งขันมากที่สุด และมีหลุม 16 พาร์ 3 ที่โด่งดัง ทางด้านฮาร์เบอร์ทาวน์ กอล์ฟ ลิงค์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการอาร์บีซี เฮอริเทจ ทุกปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เป็นสนามที่ออกแบบโดยสองนักกอล์ฟในทำเนียบเวิลด์ กอล์ฟ ฮอล ออฟ เฟม อย่าง พีท ดาย และ แจ๊ค นิคลอส ขณะที่สนามพีทีซี ริเวอร์ ไฮแลนด์ส สังเวียนประชันวงสวิงรายการ ทราเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการพีจีเอทัวร์ มายาวนานเกือบ 40 ปี และเป็นหนึ่งในสนามที่ลุ้นสนุกในการแข่งขันรอบสุดท้าย ส่วนรายการ เวลส์ ฟาร์โ กแชมเปี้ยนชิพ เปิดตัวเมื่อ 20 ปีก่อน แข่งขันที่สนามเควล ฮอลโลว์ คลับ ซึ่งเริ่มเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันพีจีเอทัวร์ ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1960 และในปีนี้ก็เป็นสนามแข่งขันรายการเมเจอร์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ และกอล์ฟประเภททีมรายการ เพรสซิเดนท์ส คัพ ด้วย
ขณะเดียวกันการแข่งขัน 4 รายการที่ประกาศเพิ่มเงินรางวัลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีคะแนนสะสมเฟดเอ็กซ์คัพ 500 คะแนน สำหรับผู้คว้าแชมป์ ส่วนแชมป์รายการเซนทรี ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยนส, เจเนซิส อินวิเตชันแนล, อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชันแนล พรีเซนเต็ดบาย มาสเตอร์การ์ด และเมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ พรีเซนเต็ดบาย เวิร์กเดย์ จะได้รับคะแนนสะสม 550 คะแนน
การยกระดับการแข่งขันด้วยการเพิ่มเงินรางวัลและการการันตีร่วมแข่งขันของนักกอล์ฟชั้นนำในทัวร์ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทำงานอย่างต่อเนื่องระหว่างพีจีเอทัวร์กับผู้เล่นชั้นนำ ซึ่งรวมถึงการประชุมระหว่างผู้เล่นด้วยกันในรายการบีเอ็มดับเบิลยู แชมเปี้ยนชิพ ที่วิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ โดยนักกอล์ฟกว่า 120 คนมีโอกาสร่วมแข่งขันเพื่อลุ้นเงินรางวัลที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกสัปดาห์ และมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ทุกสัปดาห์ที่ลงแข่งขันในพีจีเอทัวร์ เช่นเดียวกับที่ ทอม คิม โปรกอล์ฟวัย 20 ปีจากเกาหลีใต้ที่เพิ่งคว้าแชมป์วินด์แฮม แชมเปี้ยนชิพ และกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ได้แชมป์พีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งสอง ก่อนหน้านี้มีเพียง จอร์แดน สปีธ ที่อายุน้อยกว่าเมื่อครั้งคว้าแชมป์จอห์นเดียร์ คลาสสิค ปี 2013 ในวัย 19 ปี
สำหรับการเปลี่ยนแปลงในปี 2023 ที่ประกาศโดยประธานพีจีเอทัวร์ ในการแข่งขันทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ยังรวมถึงการขยายโปรแกรม เพลเยอร์ อิมแพค และรายได้ขั้นต่ำ 500,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับนักกอล์ฟทุกคนที่มีทัวร์การ์ด เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่นๆ
นอกจากนี้พีจีเอทัวร์ ยังคงประเมินสถานการณ์และพร้อมยกระดับการแข่งขันในทัวร์เพิ่มขึ้นอีกเพื่อรักษาความเป็นทัวร์ระดับชั้นนำของโลกและประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขันทุกทัวร์นาเมนต์ตามตารางที่กำหนดไว้