เพื่อนร่วมอาชีพยก ‘เชฟเฟลอร์’ กอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี
เพื่อนร่วมอาชีพยก ‘เชฟเฟลอร์’ กอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี
สกอตตี เชฟเฟลอร์ ลงเล่น 58 รายการในรอบกว่า 2 ปีที่ได้รับพีจีเอทัวร์คาร์ดและคว้าแชมป์รายการแรกในศึกฟีนิกซ์ โอเพ่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลที่ยิ่งใหญของเขาในวงการกอล์ฟพีจีเอทัวร์
หนึ่งเดือนหลังจากนั้นเขาขยับขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก และอีกสองสัปดาห์ถัดจากนั้นเขาก็กลายเป็นแชมป์เมเจอร์จากการคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสต้า และเมื่อวันที่วันเสาร์ที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมาเขาก็ได้รับการประกาศให้เป็นนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี พีจีเอทัวร์ เพฃเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์
เชฟเฟลอร์สามารถสร้างผลงานได้อย่างมากมายในช่วงเวลาสั้นๆ ในอาชีพของเขา
เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกนับตั้งแต่มีการประกาศรางวัลเมื่อปี 1990 ที่สามารถคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของ คอร์นเฟอร์รีทัวร์, รุ๊คกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ ของพีจีเอทัวร์ และนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของพีจีเอทัวร์ ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาเพียง 4 ฤดูกาล
รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของพีจีเอทัวร์ได้รับการโหวตจากสมาชิกของพีจีเอทัวร์ที่ลงเล่นอย่างน้อย 15 รายการในซีซั่นนั้นๆ ซึ่ง เชฟเฟลอร์ ได้รับคะแนนสูงถึง 89 เปอร์เซ็นต์ เหนือ แคม สมิธ แชมป์บริติช โอเพ่น และ รอรี แม็คอิลรอย แชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ
ในสมัยเล่นระดับมหาวิทยาลัยนั้น เชฟเฟลอร์ คว้ารางวัล แจ๊ค นิคลอส อวอร์ด ระหว่างร่วมรายการคอลเลจ เกมเดย์ ของอีเอสพีเอ็น ในออสติน รัฐเท็กซัส โดย เชฟเฟลอร์ จบปริญญาตรีด้านการเงินจาก แม็คคอมบ์ส สคูล ออฟ บิซิเนส ในเท็กซัส ภายใน 4 ปี โดยไม่เคยไปซัมเมอร์สคูลแม้แต่ครั้งเดียว
เขาอยู่บนเวทีกับ เท็กซัส กอล์ฟทีม ซึ่งคว้าแชมป์ระดับมหาวิทยาลัยเอ็นบีดับเบิลเอในปีนี้ โดย จอห์น ฟิลด์ส โค้ชทีมลองฮอร์นส์ นำของขวัญพิเศษมามอบให้เขา มันคือถ้วยทองแดง และบรรดาแฟนๆต่างก็เริ่มตะโกนเรียกชื่อเขา
“นั่นมันเป็นเรื่องที่เท่มาก” เชฟเฟลอร์กล่าว “ผมไม่รู้จะพูดอะไรมากมาได้มากนัก เนื่องจากผมไม่ได้เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้เลย แต่มันมีความหมายเป็นอย่างมากสำหรับผม”
เดอะ มาสเตอร์ส เป็นการคว้าแชมป์ที่สี่ในหกทัวร์นาเมนต์ของเชฟเฟลอร์ ทว่า นับจากนั้นเป็นต้นมาก็ยังไม่ชนะอีกเลย แต่ก็ใกล้เคียงมาก แซม เบิร์นส์ เพื่อนสนิทของเขาเฉือนเขาในการเพลย์ออฟที่โคโลเนียล และในศึกยูเอส โอเพ่น เขาแพ้ แมตต์ ฟิตซ์แพทริก ไปเพียงสโตรกเดียวเท่านั้น
จากนั้นเขาเกือบจะปิดฤดูกาลด้วยการชนะเฟดเอ็กซ์คัพ ก่อนที่จะโดน รอรี แม็คอิลรอย มาโชว์ผลงานอย่างยอดเยี่ยมในรอบสุดท้ายของ เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ ที่แอตแลนตา
เชฟเฟลอร์จบอันดับสองร่วมพร้อมรับโบนัสไปครองเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เขายังได้โบนัสอีก 4 ล้านเหรียญที่นำอยู่บนตารางเฟดเอ็กซ์คัพในช่วงฤดูกาลปกติ
เขาอยู่ในตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกในช่วง 23 สัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล และรับเงินโบนัสอีก 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯจาก เอออน ริคส์-รีวอร์ด ชาลเลนจ์
เงินรางวัลที่เขาทำได้ในช่วงฤดูกาลปกตินั้น 14,046,910 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทำให้รายได้ทั้งฤดูกาลของเขาขาด 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปไม่เท่าไหร่
“อย่างไม่ต้องสงสัย หนึ่งในคำชมสูงสุดที่ผู้เล่นจะได้รับคือคำชื่นชมจากบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพ และในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ฤดูกาลนี้ของ เชฟเฟลอร์ นั้นมีทั้งความโดดเด่นและความสม่ำเสมอ” เจย์ โมนาฮาน คอมมิชชั่นเนอร์ของพีจีเอทัวร์กล่าวผ่านแถลงการณ์
แคม สมิธ นั้นในฤดูกาลนี้คว้าแชมป์มาครอง 3 รายการ ในศึกเซนทรี ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์, เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ และ บริติช โอเพ่น ที่เซนต์แอนดรูว์ส ซึ่งในช่วงเก้าหลุมสุดท้ายเขาหวดเข้ามา 30
รอรี แม็คอิลรอย คว้าแชมป์ซีเจคัพในท้ายฤดูใบไม้ร่วง ตามด้วยแชมป์อาร์บีซี แคนาเดียน โอเพ่น ในเดือนมิถุนายน และแชมป์แมตช์ปิดซีซั่น เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ โดยเขาเป็นผู้เล่นคนเดียวที่จบท็อปเทนในเมเจอร์ทั้ง 4 รายการ และปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์เฟดเอ๋กซ์คัพไปครองเป็นสมัยที่สามในอาชีพ
แม็คอิลรอบยังได้กล่าวยกย่อง เชฟเฟลอร์ ที่คว้ารางวัลพีจีเอทัวร์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ไปครองอีกด้วย
“บางทีเขาเหมาะสมสำหรับรางวัลนี้มากกว่าผมที่ควรจะได้รับ ซีซั่นนี้เป็นฤดูกาลที่เหลือเชื่อของเขา” แม็คอิลรอยกล่าว “เขาเป็นสุดยอดผู้เล่น เป็นสุดยอดนักสู้ และเหนืออื่นใด เขาเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ