อะเมซิ่ง คิงดอม ออฟ ไทยแลนด์

อะเมซิ่ง คิงดอม ออฟ ไทยแลนด์
จัดยิ่งใหญ่ ที่ อโยธยา ลิงส์

“อะเมซิ่ง คิงดอม ออฟ  ไทยแลนด์ การแข่งขันกอล์ฟเวิลด์ คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2016” จัดยิ่งใหญ่ประกาศศักดิ์ศรีประเทศไทย ในฐานะผู้นำการท่องเที่ยวและกีฬากอล์ฟในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับการมาเยือนของเหล่าอาคันตุกะนักกอล์ฟ และนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลจากทั่วโลก 15 ชาติ ณ สนามกอล์ฟ อโยธยา ลิงส์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 3-9 ธันวาคม 2559

โครงการ “อะเมซิ่ง คิงดอม ออฟ  ไทยแลนด์  การแข่งขันกอล์ฟเวิลด์ คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2016” ถือเป็นการแข่งขันกอล์ฟระดับคลับแชมเปี้ยนชิพครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศไทย โดยมีสนามกอล์ฟ อโยธยา ลิงส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟระดับท้อป 100 ที่ดีที่สุดของโลก และเป็นเพียงสนามเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดอันดับท้อป 100 ดังกล่าว ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ และตัวแทนประเทศไทยในการจัดงาน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้แสดงศักยภาพของประเทศด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ในด้านการเป็นจุดหมายปลายทางสำคั ญของโลกด้านการท่องเที่ยว ทั้งเชิงกีฬา แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒธรรม นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากประเทศให้ เห็นถึงความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วย

นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ ประธานสนามกอล์ฟ อโยธยา ลิงส์ และประธานจัดงาน กล่าวให้รายละเอียดการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า การจัดงานโครงการ “อะเมซิ่ง คิงดอม ออฟ ไทยแลนด์  การแข่งขันกอล์ฟเวิลด์ คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2016”  เป็นการแข่งขันกอล์ฟรายการซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีนักกอล์ฟชั้นนำที่เป็นแชมเปี้ยน จากสนามกอล์ฟชื่อดังที่ติดอันดับโลก จำนวน 25 สนาม จาก 15 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, สกอตแลนด์, ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์เหนือ, อังกฤษ, เม็กซิโก, เกาหลีใต้, ฝรั่งเศส, จีน, ไอร์แลนด์, โปรตุเกส, แคนาดา, ญี่ปุ่น, สเปน และไทย (เจ้าภาพ) เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งสนามกอล์ฟที่มาร่วมแข่งขันทั้งหมดนี้ถูกจัดอันดับเป็นสนามกอล์ฟระดับท้อป 100 ของสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดของโลก โดยการแข่งขันจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-9 ธันวาคม ศกนี้

สำหรับรายละเอียดของการต้อนรับเหล่าอาคันตุกะนั้น ทางสนามกอล์ฟ อโยธยา ลิงส์ ได้เตรียมสร้างสรรค์กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อสร้างความประทับใจ ด้วยการนำเอามรดกทางศิลปวัฒนธรรมและความเจริญรุ่งเรืองทางประวั ติศาสตร์ชาติไทย  มาเป็นหลักการในการจัดการต้อนรับแก่เหล่าอาคันตุกะผู้มาเยือนด้วยมิตรไมตรีที่อบอุ่น  เหล่าอาคันตุกะจะได้สัมผัสเพี่อ เข้าถึงความเจริญรุ่งเรื่องของอาณาจักรไทย โดยสัมผัสวิถีชีวิต อาหาร สถานที่ ของสองราชธานี คือ พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร อย่างประทับใจ

มร. เดวิด วี สมิธ กรรมการ เวิลด์ คลับ แชมเปี้ยนชิพ กล่าวถึงการเลือกประเทศไทย เป็นสถานที่จัดงานว่า “ประเทศไทยถือเป็นประเทศจุดหมาย ปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยทัศนียภาพอันงดงาม และขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม อันทรงคุณค่า พร้อมการต้อนรับอันอบอุ่นด้วยมิตรไมตรีเป็นที่ประทับใจและยอมรับไปทั่วโลก การแข่งขันกอล์ฟ “เวิลด์ คลับ  แชมเปี้ยนชิพ 2016″ ถือเป็นการแข่งขันระดับคลับแชมเปี้ยนชิพระดับโลกเฉพาะกลุ่มสนาม กอล์ฟที่ติดอันดับท้อป 100 ของโลกเท่านั้น ที่จะได้มีโอกาสหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน  สำหรับปีนี้การแข่งขันได้กำหนดจัดขึ้น ณ สนามอโยธยา ลิงส์ ซึ่งเป็นสนามที่ติดอันดับโลกเช่นกัน  นักกอล์ฟที่มาแข่งขันเป็นนักกอล์ ฟฝีมือดีซึ่งมีดีกรีระดับแชมเปี้ ยนจากสนามกอล์ฟชื่อดัง และแขกผู้มีเกียรติทั้งที่เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟและนักธุรกิจผู้ ทรงอิทธิพล จาก 20 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้”

การจัดงานในการครั้งนี้จะถูกแพร่ ภาพให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตานานาประเทศโดยมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปยังผู้ชม 120 ล้านครัวเรือน ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และอีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในด้านศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย และแหล่งท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในด้านการ เป็นจุดหมายปลายทางในการจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับโลกที่มีความทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ

การแข่งขันกอล์ฟรายการ “อะเมซิ่ง คิงดอม ออฟ  ไทยแลนด์ การแข่งขันกอล์ฟเวิลด์ คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2016” ยังเปิดโอกาสให้ เหล่าอาคันตุกะได้สัมผัสวิถีชีวิต อาหาร สถานที่ ของสองราชธานี คือ พระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพมหานคร และในระหว่างการจัดงานแข่งขันฯ อยู่ในช่วงของการเฉลิมฉลอง ครองราชย์ครบ 70 ปี  ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดชฯ จึงเป็น วโรกาสอันสำคัญที่จะได้นำเสนอให้ ชาวต่างชาติ และเหล่านักกอล์ฟ อาคันตุกะ ที่มาเยือนในครั้งนี้ ได้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ของประชาชนคนไทย