ฮอฟแลนด์ ขึ้นมือสามโลก หลังชนะยูโรเปียนทัวร์
ฮอฟแลนด์ ขึ้นมือสามโลก หลังชนะยูโรเปียนทัวร์
วิกเตอร์ ฮอฟแลนด์ นักกอลฟจากนอร์เวย์มาแรงในรอบสุดท้ายก่อนเฉือน ริชาร์ด แบลนด์ ที่หลุมแรกของการซัดเด้นเดธเพลย์ออฟ คว้าแชมปยูโรเปียนทัวร์รายการดูไบ เดสเสิร์ต คลาสสิก ไปครองสำเร็จ
วิกเตอร์ ฮอฟแลนด์ นักกอล์ฟวัย 24 ปีซึ่งออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการตามหลัง จัสติน ฮาร์ดิง ผู้นำรอบสามถึง 6 สโตรก แต่หนุ่มนอร์เวย์ปิดรอบได้อย่างร้อนแรงด้วยอีเกิลที่หลุม 17 พาร์ 4 บวกกับเบอร์ดี้ที่หลุม 16 และหลุม 18 ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66
นั่นส่งให้สกอร์รวมของนักกอล์ฟหนุ่มจากเมืองออสโลขยับขึ้นไปเป็น 12 อันเดอร์พาร์และขึ้นไปนำบนคลับเฮ้าส์ ก่อนที่ ริชาร์ด แบลนด์ นักกอล์ฟจากอังกฤษที่อายุมากกว่าฮอฟแลนด์สองเท่าจะทำสกอร์ขึ้นมาเท่ากันจากเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 22 ฟุตบนกรีนหลุม 18
แบลนด์ซึ่งกำลังจะอายุครบ 49 ปีหลังจบรายการนี้เพียง 3 วัน ชิพอินเบอร์ด้ที่หลุม 9 ซึ่งเป็นหนึ่งในหลุมโหดของสนาม จากนั้นระเบิดทรายลงที่หลุม 11 พาร์ 3 ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งที่เล่นยาก
อย่างไรก็ตาม ที่สุดยอดที่สุดคือการลากพัตต์ระยะ 22 ฟุตบนกรีนหลุมสุดท้ายที่ทำให้ แบลนด์ แชมป์บริติช มาสเตอร์ส เมื่อปีที่ผ่านมาจบการแข่งขันรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68
รอรี แม็คอิลรอย มาถึงหลุม 17 มีสกอร์รวมอยู่ที่ 12 อันเดอร์พาร์ และที่สำคัญที่หลุม 17 พาร์ 4 เป็นหลุมที่สามารถทำวันออนได้ และตีช็อตของอดีตมือหนึ่งโลกจากไอร์แลนด์เหนือไปซุกพุ่มไม้ด้านขวา
แม็คอิลรอย เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 4 รายการสามารถเซฟพาร์ได้อย่างยอดเยี่ย แต่ที่หลุม 18 พาร์ 5 ตีช็อตสองด้วยหัวไม้สามลูกสไลซ์ตกน้ำแต่จบด้วยโบกี้ จบการแข่งขันในอันดับสามด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์
ที่หลุมแรกของการซัดเดนเดธเพลย์ออฟ ฮอฟแลนด์ทำสองออนสองพัตต์เก็บเบอร์ดี้ ส่วนแบลนด์นั้นตีช็อตสองไม่ออนกรีนและไม่สามารถอัพแอนด์ดาวน์ได้จากการตีช็อตจากรัฟข้างกรีน
ฮอฟแลนด์นั้นดูเหมือนจะไม่มีลุ้นแล้วหลังเสียสามพัตต์จากระยะ 33 ฟุตออกโบกี้ที่หลุม 15
แต่เขากลับลากเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 35 ฟุตลงไปที่หลุม 16 ตามด้วยการพัตต์อีเกิลระยะ 33 ฟุตลงไป และพลาดอีเกิลพัตต์ระยะ 40 ฟุตที่หลุม 18 แต่ไม่พลาดเบอร์ดี้
ชัยชนะครั้งหลังสุดของฮอฟแลนด์เกิดขึ้นในรายการฮีโร เวิลด์ ชาลเลนจ์ รายการของไทเกอร์ วูดส์ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา และไล่แซงกลับมาชนะคล้ายๆกับรายการนี้
“ผมไม่อยากจะบอกว่านั่นมันจะกลายเป็นนิสัยของผมไปแล้ว แต่บังเอิญว่าทุกอย่างมันเข้าทางและผมสามารถทำได้ อย่างการแข่งขันที่บาฮามัสนั้นทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ต้องการ และแน่นอนว่าในครั้งนี้ผมจบการแข่งขันด้วย เบอร์ดี้ อีเกิล เบอร์ดี้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น” ฮอฟแลนด์กล่าว
“แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีนักกอล์ฟคนอื่นๆที่สามารถไล่ผมทันได้ ผมเพียงพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ ผมรู้เพียงว่าผมสามารถทำสกอร์ดีๆได้ในวันนี้ ผมเล่นกอล์ฟได้ดีมาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่สิ่งที่ผมทำได้ในรอบสุดท้ายนั้นเป็นโมเมนตัมที่เยี่ยมมาก ผมทำสกอร์ได้ดีและเป็นสิ่งที่คนที่ตามผมมาต้องไล่ให้ได้”
ชัยชนะนั้นจะทำให้อันดับโลกของ ฮอฟแลนด์ ขยับสองอันดับขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหมายเลขสามของโลกเป็นรองเพียง จอน ราห์ม จากสเปน และ คอลลิน มอริกาวา จากสหรัฐอเมริกา
“ผมยังต้องพัฒนาอีกมากกว่าที่จะเอาชนะสองคนนั้นได้ แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี แล้วเราค่อนมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ฮอฟแลนด์กล่าว
“มันสุดยอดมากที่กลายมาเป็นนักกอล์ฟหมายเลขสามของโลก นั่นเป็นรางวัลตอบแทนหลังจากที่ทำงานมาอย่างหนัก”นักกอล์ฟจากนอร์เวย์กล่าว
นักกอล์ฟห้าคนจบอันดับสี่ร่วมกันด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวรวมถึง ฮาร์ดิง ผู้นำหลังจบรอบสามที่ในรอบสุดท้ายตีเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 76 และ เอเดรียน เมรองก์ จากโปแลนด์ที่ทำเข้ามา อีเวนพาร์ 72
สำหรับ อดัม สกอตต์ นักกอล์ฟจากออสเตรเลียที่หวดเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร 69 และ พาเดร็ก แฮร์ริงตัน กัปตันทีมยูโรเปียนไรเดอร์คัพ 2021 ที่หวดเข้ามา อีเวนพาร์ 72 จบการแข่งขันในอันดับเก้าร่วมหันด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 281