ฮาห์น เพลย์ออฟชนะ ที่ ชาร์ล็อตต์
ฮาห์น เพลย์ออฟชนะ ที่ ชาร์ล็อตต์
เจมส์ ฮาห์น เซฟพาร์ที่หลุมแรกของการซัดเด้นเดธ เพลย์ออฟ เฉือนชนะ โรเบอร์โต คาสโตร คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการเวลล์ส ฟาร์โก แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 7.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สนาม เควล ฮอลโลว์ คลับ ในเมืองชาร์ล็อตต์ มลรัฐ นอร์ธ แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
เจมส์ ฮาห์น นักกอล์ฟอเมริกัน เดินทางมาที่เควล ฮอลโลว์ ในชาร์ล็อตต์ มลรัฐนอร์ธ แคโรไลนา ด้วยสถิติที่ไม่น่าประทับใจนัก หลังจากตกรอบติดต่อกันมา 8 รายการซ้อน และนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมายังไม่เคยทำสกอร์ต่ำกว่า 70 ได้เลย
ทว่าในรายการนี้เขากลับพยายามอย่างเต็มที่และสามารถพัตต์เซฟพาร์ระยะ 4 ฟุตลงไปบนกรีนหลุม 18 ซึ่งเป็นหลุมแรกของการซัดเด้นเดธ เพลย์ออฟ พร้อมกับคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในชีวิตมาครองสำเร็จ
“มันเป็นเรื่องที่หนักหนามากกำลังการต้องตกรอบ 8 รายการติดต่อกัน” ฮาห์น กล่าว “คุณต้องเริ่มที่จะตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่าคุณดีเพียงพอกับทัวร์นี้หรือเปล่า และมันจะเกิดขึ้นอีกไหม”
ชัยชนะรายการนี้ ฮาห์นย ต้องการเพียงการเซฟพาร์เท่านั้น หลังจากทื่ คาสโตร ทีช็อตพลาด และยังมีปัญหาตามมาตลอดทาง กว่าจะขึ้นมาออนได้ก็ต้องพัตต์โบกี้แล้ว
“มันบ้ามากที่ผมสามารถเรียกตัวเองว่านักกอล์ฟเจ้าของแชมป์พีจีเอทัวร์ 2 รายการ” ฮาห์น กล่าว “การที่ทำแบบนี้ได้ที่หลุมแรกของการเพลย์ออฟ มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ”
ทั้ง ฮาห์น และ คาสโตร จบการแข่งขัน 72 หลุมนำการแข่งขันร่วมกันที่ 9 อันเดอร์พาร์ 279 นำหน้า จัสติน โรส จากอังกฤษอยู่สโตรคเดียว
ฮาห์น ที่คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกในศึกนอร์เธิร์น ทรัสต์ โอเพ่น เมื่อปี 2015 ที่ลอส แองเจลิส ก็มาจากการเพลย์ออฟเช่นเดียวกัน ในรายการนี้เขามาพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 18 ในรอบปกติทำให้จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 70 ขณะที่ คาสโตร ตีเข้ามา 1 อันเดอร์พาร์ 71
ทางด้าน โรส ที่จบสกอร์รอบสุดท้าย 1 อันเดอร์พาร์ 71 จบการแข่งขันในอันดับสามแต่เพียงผู้เดียวที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280
ส่วน ฟิล มิคเคลสัน แชมป์เมเจอร์ห้ารายการชาวอมเริกัน และ รอรี แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ นำกลุ่มนักกอล์ฟที่จบสกอร์รวมสี่วัน 7 อันเดอร์พาร์ 281 โดยทั้งคู่ขยับอันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังหวดเข้ามาอีกคนละ 6 อันเดอร์พาร์ 66
ในกลุ่มที่จบ 281 ยังรวมถึง ริคกี้ ฟาวเลอร์ นักกอล์ฟอเมริกันที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำ แต่ปรากฏว่าในวันสุดท้ายตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 74 และ แอนดรูว์ โล้ป ที่จบรอบสุดท้ายเข้ามา 1 อันเดอร์พาร์ 71
ในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน คาสโตร เป็นฝ่ายขยับขึ้นนำการแข่งขันด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 15 แต่ดันไปพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 16 และ 17 เปิดโอกาสให้ ฮาห์น เป็นฝ่ายแซงขึ้นนำ 1 สโตรค
อย่างไรก็ตาม ฮาห์น กลับลไม่สามารถปิดเกมได้ในรอบปกติเมื่อพัตต์พาร์ระยะประมาณ 7 ฟุตของเขาบนกรีนหลุมสุดท้ายไม่ลงหลุม
จากนั้นเป็น คาสโตร ที่กอบกู้สถานการณ์ขึ้นมาเซฟพาร์ได้จากรัฟฝั่งขวา จนเกมต้องยืดไปถึงช่วงซัดเด้นเดธ เพลย์ออฟ กระนั้นก็ตาม คาสโตร กลับไม่สามารถแก้สถานการณ์ซ้ำรอยที่หลุม 18 ได้อีก
หลุม 18 นับเป็นหลุมที่ยากสำหรับ แม็คอิลรอย เช่นเดียวกัน ตลอดสัปดาห์นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือเสียไปถึง 4 โอเวอร์ที่หลุมเดียวกันนี้ ซึ่งรวมถึงการเสียโบกี้ในรอบสุดท้ายด้วย
“เมื่อใดก็ตามที่คุณเดินออกจากสนามด้วยสกอร์ 66 มันไม่ควรจะมีอะไรผิดหวังแล้ว” แม็คอิลรอยกล่าว “แต่ผมมีโอกาสดีมากที่จะทำสกอร์ได้ดีในช่วงเก้าหลุมสุดท้าย แต่ผมกลับไม่สามารถทำได้”
สรุปผลเวลล์ส ฟาร์โก แชมเปี้ยนชิพ (สนามพาร์ 72)
279 เจมส์ ฮาห์น (สหรัฐฯ) 70-71-68-70
279 โรเบอร์โต คาสโตร (สหรัฐฯ) 71-66-71-71 (ฮาห์น ชนะที่หลุมแรกของการซัดเด้นเดธ เพลย์ออฟ)
280 จัสติน โรส (อังกฤษ) 70-70-69-71
281 ฟิล มิคเคลสัน (สหรัฐฯ) 69-70-76-66
281 รอรี แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 73-69-73-66
281 แอนดรูว์ โล้ป (สหรัฐฯ) 65-71-74-71
281 ริคกี้ ฟาวเลอร์ (สหรัฐฯ) 71-68-68-74
282 ลูคัส โกลเวอร์ (สหรัฐฯ) 71-70-70-71
283 แดนนี ลี (นิวซีแลนด์) 72-71-73-67
283ฟาเบียน โกเมซ (อาร์เจนติน่า) 75-69-69-70