แคนท์เลย์ แชมป์โซโซ ที่เชอร์วูด
แคนท์เลย์ แชมป์โซโซ ที่เชอร์วูด
แพทริก แคนท์เลย์ โปรชาวอเมริกันต้านแรงกดดันจาก จอน ราห์ม มือสองของโลกจากสเปน และ จัสติน โธมัส มือสามของโลกชาวอเมริกัน คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่สามในอาชีพไปครอง ในศึกโซโซ แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 250 บาท ณ สนามเชอร์วูด คันทรี่คลับ ในเธาแซนด์โอ๊คส์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ในรอบสุดท้ายที่เชอร์วูด คันทรี่คลับ แพทริก แคนท์เลย์ โปรอเมริกันวัย 28 ปี ทำไปเก้าเบอร์ดี้ดีที่สุดในอาชีพ ก่อนจบรอบ 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสี่วันคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 23 อันเดอร์พาร์ 265
“ชัยชนะรายการนี้มีความหมายกับผมเป็นอย่างมาก ผมมีความสุขมากจริงๆที่ชะการแข่งขันในสัปดาห์นี้” แคนท์เลย์ กล่าว “ตลอดทั้งสัปดาห์ผมตีช็อตสวยๆได้หลายครั้งทีเดียว ผมค่อนข้างชอบฟิลลิงของวงสวิงของผมในช่วงนี้”
โธมัส และ ราห์ม จบอันดับสองร่วมกันด้วยสกอร์ 22 อันเดอร์พาร์ 266 โดย โธมัส จบรอบด้วยการพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 4 ฟุตลงไปทำให้จบอันดับสองร่วมกับ ราห์ม ที่ทำให้นักกอล์ฟจากสเปนยังไม่สามารถแย่งมือหนึ่งของโลกมาจาก ดัสติน จอห์นสัน
แคนท์เลย์ เปิดฉากด้วยการเก็บ 4 เบอร์ดี้ในการเล่น 6 หลุมแรก ก่อนจะเสียโบกี้แรกและโบกี้เดียวของสัปดาห์ที่หลุม 8 แต่ก็แก้ตัวทันทีด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 9 และหลุม 11 พาร์ 5 ตามด้วยสามเบอร์ดี้ซ้อนเริ่มตั้งแต่หลุม 13 พาร์ 3
“ผมเล่นได้ค่อนข้างดีโดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ” แคนท์เลย์ กล่าว “เกมอาจจะไม่ได้ลื่นไหลตลอดทั้งสัปดาห์ แต่เป็นวีคที่มีความแตกต่างค่อนข้างมาก สำหรับผมแล้วต้องถือว่าเป็นการออกสตาร์ทได้ค่อนข้างดี”
จากผลการแข่งขันที่ออกมาทำให้ โธมัส เจ้าของแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิพ เมื่อปี 2017 และ ราห์ม ต่างพลาดที่จะคว้าแชมป์รายการที่สามของปีนี้ไปครอง
“มันค่อนข้างโชคร้ายที่ผมเล่นได้ไม่ดีเพียงพอ” โธมัส กล่าว “การเล่นที่หลุมพาร์ 5 ได้เพียงแค่ 1 อันเดอร์พาร์เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังลุ้นที่จะคว้าชัยชนะ”
สำหรับ แคนท์เลย์ นั้นชัยชนะในยูเอสพีจีเอทัวร์สองรายการก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในการแข่งขันที่ ลาสเวกัส เมื่อปี 2017 และรายการเดอะ เมมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ เมื่อปี 2019
“ผมรู้สึกว่าสามารถยกระดับเกมของตัวเองได้ขึ้นมาอีกระดับ” แคนท์เลย์ กล่าว “ทุกอย่างมาพร้อมกันหมดทันเวลาพอดีสำหรับรายการเมเจอร์อย่าง เดอะ มาสเตอร์ส”
แคนท์เลย์ นักกอล์ฟอันดับ 14 ของโลก พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 15 ฟุตลงไปที่หลุม 9 พาร์ 4 ตามด้วยการพัตต์ระยะ 5 ฟุตลงไปที่หลุม 11 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับสามด้วยสกอร์ 21 อันเดอร์พาร์
จากนั้น แคนท์เลย์ ไปได้สกอร์เพิ่มอีก เริ่มด้วยการทำสองพัตต์จากระยะ 45 หลา ที่หลุม 13 พาร์ 5 ตามด้วยเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 17 ฟุตที่หลุม 14 พาร์ 4 และเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 10 ฟุตที่หลุม 15 พาร์ 3 ทำให้คะแนนรวมขยับเป็น 24 อันเดอร์พาร์ นำหน้า โธมัส และ ราห์ม 2 สโตรก กับการเล่น 3 หลุมสุดท้าย
ด้าน โธมัส มาเล่นผิดพลาดที่หลุม 15 จนกระทั่งพลาดออกโบกี้เป็นครั้งแรกในรอบ 24 หลุม ทำให้เขาตกไปตามหลัง แคนท์เลย์ 2 สโตรกกับ 3หลุมสุดท้ายของการแข่งขัน
ส่วนช็อตแอพโพรชที่หลุม 16 พาร์ 5 ของ แคนท์เลย์ พลาดไม่เจอกรีนและออกโบกี้ ทำให้สกอร์นำของเขาตกมาเหลือ 2 แต้ม ขณะที่ ราห์ม ตีช็อตแอพโพรชขึ้นไปเหลือระยะ 3 ฟุตและเก็บเบอร์ดี้ไม่พลาดไล่เหลือห่างสโตรกเดียว
สำหรับ โธมัส ดันมาตีช็อตแอพโพรชตกน้ำด้านขวาของกรีนหลุม 16 และออกโบกี้ ทำให้ตกเป็นฝ่ายตามหลัง 2 แต้มอีกครั้ง ซึ่ง โธมัส บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าเวทนา เพราะผมดันกลัวที่จะเล็งไปทางด้านซ้าย”
ราห์ม นั้นมีโอกาสอีกสองครั้งที่จะไล่ตาม แคนท์เลย์ ทว่านักกอล์ฟจากสเปนพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 15 ฟุตที่หลุม 17 พาร์ 3 ไม่ลง ตามด้วยการพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 19 ฟุตไม่ลงที่หลุมสุดท้าย เป็นการการันตีชัยชนะของ แคนท์เลย์
“ผมคิดว่าจุดเปลี่ยนอยู่ที่หลุม 17 ที่ผมให้ไลน์มากเกินไป” ราห์ม กล่าว “แต่นี่มันคือเกมกอล์ฟซึ่งอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ”
ทางด้าน รอรี แม็คอิลรอย นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือซึ่งกำลังลุ้นจะชนะเมเจอร์ให้ครบทั้ง 4 รายการใน เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสต้าในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งในสัปดาห์นี้เขาทำเข้ามาถึง 29 เบอร์ดี้มากที่สุดในอาชีพ แต่กลับมาจบการแข่งขันอันดับสิบเจ็ดร่วมด้วยสกอร์รวม 273
“ผมทำไปทั้งหมด 29 เบอร์ดี้ซึ่งมากเพียงพอที่จะคว้าชัยชนะมาครองได้” แม็คอิลรอย กล่าว “ผมเพียงต้องพยายามลดการเล่นผิดพลาดให้น้อยลงกว่านี้”
“อย่างไรก็ตาม ถ้าผมยังสามารถทำเบอร์ดี้ได้เยอะขนาดนี้ในทุกรายการที่ลงเล่น ไม่นานนักผมคงสามารถลดความผิดพลาดลงได้ และทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง” อดีตมือหนึ่งของโลกจากไอร์แลนด์เหนือกล่าว
สำหรับ ไทเกอร์ วูดส์ แชมป์มาสเตอร์สคนปัจจุบันที่ลงเล่นในฐานะแชมป์เก่า โดย ไทเกอร์ ชนะ โซโซ ที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่ในปีนี้จะย้ายมาแข่งขันในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดย ไทเกอร์ จบรอบสุดท้าย 74 จบการแข่งขันอันดับที่เจ็ดสิบสองร่วมจากนักกอล์ฟที่เข้ารอบมาทั้งหมด 77 คน ด้วยสกอร์ 287
“สิ่งเดียวที่ผมทำได้อย่างยอดเยี่ยมในสัปดาห์นี้คือ พัตต์ ผมรู้สึกได้เลยว่าสโตรกพัตต์ออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม” ไทเกอร์ กล่าว “โชคไม่ค่อยดีที่ส่วนมากมันเป็นการพัตต์เพื่อเซฟพาร์ และหลายครั้งที่ต้องเซฟโบกี้”
ไทเกอร์ วูดส์ แชมป์เมเจอร์ 15 รายการ จบการแข่งขันด้วยคะแนนดีที่กว่า ฟิล มิคเคลสัน แชมป์เมเจอร์ 5 รายการอยู่ 4 สโตรก โดย มิคเคลสัน จบรอบสุดท้าย 78 จบการแข่งขันในอันดับเจ็ดสิบหกร่วม
สรุปผลโซโซ แชมเปียนชิพ (สนามพาร์ 72)
265 แพทริก แคนท์เลย์ (สหรัฐฯ) 67-65-68-65
266 จอน ราห์ม (สเปน) 68-67-63-68,
266 จัสติน โธมัส (สหรัฐฯ) 65-65-67-69
269 รัสเซลล์ เฮนลีย์ (สหรัฐฯ) 68-72-63-66
269 คาเมรอน สมิธ (ออสเตรเลีย) 67-69-66-67
269 บับบา วัตสัน (สหรัฐฯ) 70-63-68-68
269 ไรอัน พาลเมอร์ (สหรัฐฯ) 69-65-66-69
270 คอรีย์ คอนเนอร์ส (แคนาดา) 69-67-68-66
270 โจเอล ดาห์เมน (สหรัฐฯ) 68-70-65-67
270 คาเมรอน แชมป์ (สหรัฐฯ) 70-68-65-67
271 โทนี ฟิเนา (สหรัฐฯ) 69-64-69-69
271 ดีแลน ฟริตเตลลิ (แอฟริกาใต้) 66-65-70-70
271 แลนโต กริฟฟิน (สหรัฐฯ) 66-65-68-72