กกท.หนุนต่อเนื่อง คลอลิฟายเอเชี่ยนทัวร์
กกท.หนุนต่อเนื่อง คลอลิฟายเอเชี่ยนทัวร์
การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ประกาศสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟรายการ 2016 Asian Tour Qualifying School Presented by SAT ในประเทศไทย เพื่อคัดเลือกนักกอล์ฟจากทั่วทุกทวีปของโลก เข้าไปแข่งขันในรายการแข่งขันของ Asian Tour โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งได้สนับสนุนการแข่งขันรายการนี้ต่อเนื่องกันมาทุกปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 และในแต่ละปีจะมีนักกอล์ฟจากทั่วโลกกว่า 30-40 ประเทศตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้ประมาณ 600-700 คน รวมถึงมีผู้ติดตามอีกประมาณ 800 คน
ส่งผลให้การแข่งขันรายการนี้เป็นการช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวของประเทศไทย นำเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาทเข้าในเมืองไทยในช่วงเดือนที่มีการแข่งขัน ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ ของทุกปี และยังทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในวงการกอล์ฟทั่วโลก อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
Asian Tour Qualifying School จะแข่งขันรอบสเตจที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2559 ณ สนามกอล์ฟในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสนามกอล์ฟในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 4 สนาม ได้แก่ 1.สนามกอล์ฟ สปริง ฟิลด์ รอยัล คันทรี คลับ (คอร์ส C&B)2.สนามกอล์ฟ อิมพีเรียล เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ (คอร์ส A&B)3.สนามกอล์ฟ อิมพีเรียล เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ (คอร์ส C&D)4. สนามวินเซอร์ ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟ คลับ (คอร์ส A&C)
รวมจำนวนนักกอล์ฟที่เข้าร่วมการแข่งขันในสเตจที่ 1 จำนวน 510 คน นักกอล์ฟที่สอบผ่าน สเตจที่ 1 จำนวนประมาณ 100 คน จะได้ผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบสเตจสุดท้าย ร่วมกับนักกอล์ฟจากทั่วโลกอีก 155 คน ที่ได้สิทธิ์ยกเว้นเข้าแข่งขันรอบสเตจสุดท้าย
Asian Tour Qualifying School จะแข่งขันรอบสเตจสุดท้าย ระหว่างวันที่ 13-16 มกราคม 2559 ณ สนามกอล์ฟ ในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 สนาม ได้แก่
1. สนามกอล์ฟ สปริง ฟิลด์ รอยัล คันทรี คลับ (คอร์ส C&B)
2. สนามกอล์ฟ อิมพีเรียล เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ (คอร์ส C&D)
นักกอล์ฟที่สามารถเล่นจบรอบสเตจสุดท้ายและอยู่ใน 40 อันดับแรกและเสมอ จะได้รับทัวร์ การ์ด และได้รับสิทธิ์ลงแข่งขันในรายการของ Asian Tour ฤดูกาล 2559 รวมถึงสิทธิ์ลงแข่งขัน Asian Development Tour ฤดูกาล 2559 อีกด้วย ซึ่งทั้ง 2 Tour เป็นสมาชิกหลักของสหพันธ์กอล์ฟอาชีพนานาชาติ (International Federation of PGA Tours) ซึ่งมีคะแนนสะสมในการจัดอันดับโลกอย่างเป็นทางการ
นาย สกล วรรณพงษ์ เผย “การที่รายการคัดเลือกเอเชียนทัวร์ หรือคิวสกูลมาแข่งขันในประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะเปิดโอกาสกับนักกอล์ฟไทยได้พัฒนาตัวเองได้ลุ้นเข้าไปเล่นในเอเชียนทัวร์แล้วยังเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย เพราะว่านักกอล์ฟที่เข้าแข่งขันจากสเตจแรกถึงสเตจสุดท้ายจะมีรวมกว่า 650 คน แล้วแกร่งขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทางกกท.จะยังคงสนับสนุนคิวสกูลให้อยู่ในประเทศไทยให้นานเท่านั้น เพราะเป็นประโยชน์มากไม่ใช่แค่กีฬาแต่ยังเป็นด้านประชาสัมพันธ์ประเทศไทยอีกด้วย ทางเราจะเพิ่มเงินรางวัลขึ้นแต่ไม่มากมายนัก แต่เราจะไปเน้นทางรายการของเราที่มีอยู่แล้วอย่างคิงส์คัพ และควีนส์คัพ ให้ยิ่งใหญ่ต้องเพิ่มเงินรางวัลให้เยอะๆ จะได้ดึงนักกอล์ฟระดับโลกมาแข่งขันได้”
มร.จี ฮลา ฮาน ประธานเอเชียนทัวร์เผยว่า “ทางเอเชียนทัวร์ใคร่ขอขอบคุณทางการกีฬาแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนคิวสกูลมาหลายปี เพราะเวทีนี้เป็นแหล่งสร้างนักกอล์ฟเข้าไปเล่นในเอเชียนทัวร์แล้วก็กลายไปเป็นนักกอล์ฟระดับโลกมาแล้วอย่าง ธงชัย ใจดี และ กิรเดช อภิบาลรัตน์ ก็ติดอยู่ในท็อป 40 ของโลก แล้วยังมีกลุ่มนักกอล์ฟรุ่นใหม่ของไทยที่แกร่งขึ้นมากมายปีที่แล้วก็คว้าแชมป์สองรายการที่สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ดังนั้นรายการนี้ก็เป็นเวทีสร้างนักกอล์ฟขึ้นมากมาย ต้องขอบคุณทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจริงๆ”
นายชยพันธ์ สุนายนตร์ นายกสมาคมกอลฟ์อาชีพ เผยว่า “การแข่งขันคิวสกูลเอเชียนทัวร์เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้พัฒนาตัวเองเข้าสู่เอเชียนทัวร์ และปัจจุบันทางเอเชียนทัวร์ก็ให้โควตาการเข้าไปเล่นในรายการของทัวร์ที่จัดในประเทศไทยมากขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งสำคัญในอนาคตนั้นผมอยากให้เกิดศูนย์ฝึกกอล์ฟขึ้นมาเพื่อพัฒนากอล์ฟในไทย”
นาย จิตติศักดิ์ แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันได้เผยถึงการแข่งขันจากสเตจแรกและสเตจสุดท้ายนี้ว่า ในแต่ละสนามของสเตจแรกก็จะมีการแข่งขันคิดเปอร์ 18-20 เปอร์เซ็นต์เข้าไปเล่นในสเตจสุดท้ายก็จะประมาณ 100 คน และรวมกับผู้ที่ได้สิทธิ์เล่นสเตจสุดท้ายเลยอีก 156 คนเพื่อไปลุ้นแย่งโควตาได้คาร์ดทัวร์ 40 อันดับแรกหรือร่วมจะได้สิทธิ์เล่นเอเชียนทัวร์เต็มฤดูกาล 2016 ต่อไป