ไม่มีหมวดหมู่

แม็คอิลรอย ดับเบิ้ลแชมป์ ปิดฤดูกาลยูโรเปี้ยนทัวร์

แม็คอิลรอยดับเบิ้ลแชมป์
ปิดฤดูกาลยูโรเปี้ยนทัวร์

รอรี แม็คอิลรอย คว้าแชมป์แมทช์ปิดฤดูกาลยูโรเปี้ยนทัวร์ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมรักษษตำแหน่งเรซ ทู ดูไบ สำเร็จหลังจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 ในการแข่งขันที่จูไมราห์ กอล์ฟ เอสเตรท ในนครดูไบ สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์

รอรี แม็คอิลรอย นักกอล์ฟหมายเลขสามของโลกจากไอร์แลนด์เหนือต้องดิ้นรนอย่างหนักหลังทีช็อตผิดพลาดที่หลุม 17 จนลูกตกน้ำ แต่สุดท้ายก็ยังเฉือนชนะ แอนดี้ ซัลลิแวน ที่สู้กันมาทั้งวันอย่างสนุก

ชัยชนะในรายการนี้มี่มูลค่าสูงถึง 3.208 ล้านเหรียญสหรัฐฯสำหรับ แม็คอิลรอย โดยตำแหน่งแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ นั้นนักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือรับไป 1.33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเขายังมาได้โบนัสจากการจบอันดับหนึ่งของเดอะ เรซ ทู ดูไบ อีก 1.875 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม แม้จะโกยเงินรางวัลมากมายจากการแข่งขันที่ดูไบรายการนี้ แต่การประกาศอันดับโลกหลังรายการนี้ แม็คอิลรอย ที่จบรายการนี้ด้วยสกอร์ 21 อันเดอร์พาร์ 267 ยังคงอยู่ในอันดับสามของโลกตามหลัง เจสัน เดย์ จากออสเตรเลีย และ จอร์แดน สปีธ จากสหรัฐอเมริกา

มันเป็นชัยชนะเพียงหนึ่งสโตรคเหนือ แอนดี้ ซัลลิแวน จากอังกฤษที่ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 เป็นวันที่สองติดต่อกันก่อนจบสกอร์รวมสี่วันที่ 20 อันเดอร์พาร์ 268

จากชัยชนะทำให้นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือยังสามารถรักษาตำแหน่งหมายเลขหนึ่งของเรซ ทู ดูไบ เอาไว้ได้โดยไม่ต้องไปสนใจนักกอล์ฟอีก 6 คนที่ก่อนการแข่งขันรายการนี้จะเปิดฉากยังมีลุ้นที่จะแซงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง

แดนนี วิลเล็ทท์ ที่จบสกอร์รอบสุดท้ายมา 2 อันเดอร์พาร์ 70 พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่การพลาดเสียสองโบกี้ในช่วงท้ายทำให้เขาจบการแข่งขันในอันดับสี่ร่วมที่สกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ 275 จบอันดับสองในเรซ ทู ดูไบ

แบรนเดน เกรซ นักกอล์ฟจากแอฟริกาใต้ที่เร่งเครื่องด้วยการหวดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 จบอันดับสามแต่เพียงผู้เดียวที่สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 273 และจบอันดับสามในเดอะ เรซ ทู ดูไบ

กลับไปที่ แม็คอิลรอย หลังจากที่เขาตกเป็นฝ่ายตามหลัง ซัลลิแวน มาเกือบตลอดทั้งวัน และที่สุดแล้วนักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือก็ขยับแซงนักกอล์ฟอันดับ 53 ของโลกจากอังกฤษที่กำลังลุ้นแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์รายการที่สี่ในชีวิต ด้วยการเก็บสองเบอร์ดี้ซ้อนที่หลุม 14 และ 15

หลังจากขึ้นนำการแข่งขันแล้ว แม็คอิลรอย กลับมาพลาดที่หลุม 17 ที่เขาพยายามตีดรอว์จากแท่นทีออฟ แต่ลูกไม่ไปในทางที่เขาคิดก่อนจะหลุดตกน้ำไป

จากตำแหน่งดร็อป แม็คอิลรอย พิทช์ลูกขึ้นไปออนกรีนแต่ยังห่างธงเกือบ 40 ฟุต ในขณะที่ ซัลลิแวน เซฟพาร์สำเร็จแต่โอกาสที่จะได้สองสโตรคจากคู่แข่งมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม แม็คอิลรอย สามารถเซฟโบกี้จากระยะ 40 ฟุตสำเร็จ ซึ่งเขาถึงกับบอกว่าเป็นโบกี้ที่เยี่ยมสุดในชีวิตของเขา เพราะจากความผิดพลาดแต่เขาแก้ไจก็เสียไปเพียงสโตรคเดียวเท่านั้น ก่อนจะมาคว้าแชมป์ไปครองสำเร็จด้วยการเซฟพาร์ที่หลุม 18

“นั่นอาจจะเป็นการพัตต์เซฟโบกี้ที่ระยะไกลที่สุดในชีวิตของผมเลยทีเดียว ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้ดีกว่านี้อีกแล้ว แต่มันก็ลงไป นั่นน่าจะเป็นโบกี้ที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลย” แม็คอิลรอย กล่าวหลังคว้าแชมป์เดอะ เรซ ทู ดูไบ เป็นสมัยที่สามในรอบ 4 ปีหลังสุด

แม็คอิลรอย ยังกล่าวต่ออีกว่า “การเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของยุโรป แน่นอนมันอยู่ในใจของผมมาตั้งแต่ตอนเริ่มสตาร์ทฤดูกาล และเมื่อผ่านครึ่งปีมันก็ยังเป็นเป้าหมายของเขา และแน่นอนว่าในที่สุดแล้วในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังสุด นี่เป็นเป้าหมายหลักของผมเลย”

“แน่นอนที่สุด ผมต้องขอขอบคุณยูโรเปี้ยนทัวร์ที่เปิดโอกาสให้ผมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเดอะ เรซ ทู ดูไบ และเปิดโอกาสให้ผมได้ลงเล่นที่นี่ในสัปดาห์นี้ ทั้งๆที่จริงแล้วผมไม่ได้เล่นทัวร์นาเม้นท์ครบตามกำหนดเนื่องจากอาการบาดเจ็บ”

“มันเป็นการจบฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้ผมตั้งหน้าตั้งตารอการลงเล่นในยูโรเปี้ยนทัวร์ฤดูกาลหน้าแบบไม่ต้องมีการสะดุดอะไรอีกแล้ว” นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือกล่าวในที่สุด

ทางด้าน อัน เบียง-ฮุน นักกอล์ฟจากเกาหลีใต้คว้ารางวัลเวอร์ เฮนรี ค็อตต้อน รุ๊คกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ ของยูโรเปี้ยนทัวร์ไปครองสำเร็จ หลังทำอันดับในเดอะ เรซ ทู ดูไบ เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง แมทธิว ฟิทซ์แพทริก จากอังกฤษ

ส่วน เฮนริก สเตนสัน นักกอล์ฟหมายเลขหกของโลกจากสวีเดน เจ้าของแชมป์เรซ ทู ดูไบ เมื่อสองปีที่แล้ว ไม่สามารถหนีจากอันดับบ๊วยของรายการนี้ได้หลังจบสกอร์รอบสุดท้ายเกินไปอีก 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสี่วัน 3 โอเวอร์พาร์ 291

สรุปผลดีพี เวิลด์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ (สนามพาร์ 72)
267  รอรี แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 68-68-65-66
268  แอนดี้ ซัลลิแวน (อังกฤษ) 66-66-68-68
273  แบรนเดน เกรซ (แอฟริกาใต้) 68-69-69-67
275  ฟรานเชสโก มอลินารี (อิตาลี) 67-71-69-68
275  ชาร์ล ชวาร์ทเซล (แอรฟิกาใต้) 71-65-70-69
275  แดนนี วิลเล็ทท์ (อังกฤษ) 68-70-67-70
275  แมทธิว ฟิทซ์แพทริก (อังกฤษ) 68-69-68-70
275  เอมิเลียโน กริลโล (อาร์เจนติน่า) 69-64-71-71
275  อัน เบียง-ฮุน (เกาหลีใต้) 70-68-66-71
276 มาร์ติน คายเมอร์ (เยอรมนี) 66-71-71-68
276  ซอเรน เจลด์เซ่น (เดนมาร์ก) 71-70-67-68
276  แพทริก รีด (สหรัฐฯ) 70-65-68-73