ส.สนามกอล์ฟไทย-ช้าง-ททท. นำคณะลุยสนามกอล์ฟมาเลย์

สมาคมสนามกอล์ฟไทย-ช้าง-ททท.
นำคณะช้าง คลับ รุกตลาดกอล์ฟในมาเลย์

สมาคมสนามกอล์ฟไทย จับมือกับ “ช้าง” และ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” นำคณะผู้ประกอบการสนามกอล์ฟไทยกว่า 31 สนาม พร้อมสื่อมวลชน และนักกอล์ฟที่ชนะการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นรายการ“ช้าง คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2015” ร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ย.58  โดยในครั้งนี้สมาคมสนามกอล์ฟไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจหวังขยายตลาดกอล์ฟในไทย

คุณพรสิทธิ์ ศรีอรทัยกุล นายกสมาคมสนามกอล์ฟไทย ในฐานะประธานจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการช้าง คลับ แชมเปี้ยนชิพ กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขัน ช้าง คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2015 ปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 ซึ่งทางสมาคมสนามกอล์ฟไทยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้นจากบรรดาสมาชิกของสมาคมฯ ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 31 สนาม โดย “ช้าง” ยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันในครั้งนี้เช่นเดิม และเป็นที่น่ายินดีที่ทางสมาคมฯ ได้พันธมิตรเพิ่มคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้ามาเสริมทัพให้การจัดการแข่งขันในปีนี้มีสีสันมากขึ้น ทั้งนี้ ได้มีการคัดนักกอล์ฟที่มีฝีมือดีและดวงดี รวม 16 คน ร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ประเทศมาเลเซีย ออกรอบที่สนามกอล์ฟชั้นนำอย่าง Kota Permai และ Saujana Golf”

“นอกจากนี้ คณะที่ร่วมเดินทางร่วมกับนักกอล์ฟยังประกอบไปด้วย คณะกรรมการบริหารสนามกอล์ฟไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ผู้บริหารสนามกอล์ฟที่เข้าร่วมโครงการ 31 สนาม และสื่อมวลชน รวมแล้วกว่า 90 ชีวิตที่ร่วมเดินทางไปกับเรา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขยายตลาดการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟของประเทศไทยและประเทศมาเลเซียให้เติบโตต่อไปในอนาคต”  คุณพรสิทธิ์ กล่าว

ทางด้าน คุณธเนศ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการสนามกอล์ฟไทย และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมาเลเซีย ในครั้งนี้เราหวังว่าจะเป็นการสร้างโอกาสขยายธุรกิจท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของบ้านเราให้เข้มแข็งและคึกคักขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและโชว์จุดขายของสนามกอล์ฟชั้นนำในบ้านเราให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเพิ่มยอดธุรกิจกอล์ฟให้กับตลาดกอล์ฟของทั้ง 2 ประเทศ”

ส่วน คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวเสริมตอนท้ายว่า “ช้าง รู้สึกขอบคุณและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากสมาคมสนามกอล์ฟไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟให้เติบโตในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรายังคงสนับสนุนและให้ความสำคัญกับการพัฒนาทัวร์นาเมนท์ในทุกระดับฝีมือ ทั้งอาชีพ, สมัครเล่น และเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการต่างๆ ที่เราร่วมกับไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ จัดการแข่งขัน 12 รายการต่อปี และ ช้าง จูเนียร์ กอล์ฟ โปรเจค ซีรีส์กอล์ฟที่พัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้ก้าวทัดเทียมนานาชาติ”

“สมาคมสนามกอล์ฟไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และช้าง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า CHANG Club Championship Exclusive Experience To Malaysia ในครั้งนี้ จะเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการธุรกิจสนามกอล์ฟและท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศเติบโตและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างไทย มาเลเซีย และนักท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนต่อไปในอนาคต” คุณสุรพล กล่าวปิดท้าย

สำหรับการเดินทางไปมาเลเซียครั้งนี้ วันแรกไปถึงเปิดโอกาศให้นักกอล์ฟไปชอปปิ้งกันก่อน เรียกว่าเอาใจขาช้อปเต็มที่ หลังจากนั้นเดินทางไปที่โรงแรมเบจจาย่า เก็บของแล้วออมารัปทานอาหารกัน

วันที่สองออกเดินทางแต่เช้าไปยังสนามกอล์ฟ Kota Permai ซึ่งเป็นสนามแข่งขันรายการมาเลเซีย โอเพ่น มาแล้ว สนามเป็นสนามสไตล์ภูเขา ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นเรื่องความใวของกรีน ทำให้นักกอล์ฟสนุกสนานกันเต็มที่ หลังจากเล่นกอล์ฟเสร็จ กลับมาโรงแรมมีการเปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการสนามกอล์ฟไทย และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งในแต่ละปีนักกอล์ฟกว่า 8 แสนคนที่เดินทางมาเล่นกอล์ฟในเมืองไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะพยายามสร้างโอกาสขยายธุรกิจท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของบ้านเราให้เข้มแข็งและคึกคักขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและโชว์จุดขายของสนามกอล์ฟชั้นนำในบ้านเราให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเพิ่มยอดธุรกิจกอล์ฟให้กับตลาดกอล์ฟของทั้ง 2 ประเทศ จนเลิกการประชุมมีงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการ

วันที่สามเดินทางแต่เช้าเช่นเดิมไปยัง สนามกอล์ฟ Saujana Golf วันนี้เราเล่นในฝั่งรีสอร์ทคอร์ส ความสมบูรณ์ ของสนามไม่เต็มที่ แต่ด้วยลักษณะที่เป็นสนามเขาเลยทำให้สนุกไปอีกแบบ หลังนั้นช่วงเย็นได้มีการนำคะแนนของทั้งสองสนามมารวม และแชมป์โลว์กรอส ได้แก่ เกษมศักดิ์  นันทารัตน์ ส่วนโลว์เนทตกเป็นของปฎิยุทธ  ปูอาจ

วันสุดท้ายเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งทุกคนที่ร่วมเดินทางต่างประทับใจทริปนี้เป็นที่สุด และยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าปีหน้าร่วมงานอีกแน่นอน

ผลการแข่งขัน
ประเภท Gross Score
ชนะเลิศ คุณเกษมศักดิ์  นันทารัตน์  คะแนน 2 วัน  76-71=147  3 โอเวอร์พาร์
รองชนะเลิศ คุณสุดสยาม  จันทราทิตย์ คะแนน 2 วัน  79-73=152  8 โอเวอร์พาร์
ประเภท Net Score (ใช้ระบบการคิดคะแนนแต้มต่อแบบ Double Peoria)
ชนะเลิศ คุณปฎิยุทธ  ปูอาจ  คะแนน 2 วัน 93-85=178 handicap 41  Net Score = 137
รองชนะเลิศ คุณสมชาย  ดอนเจดีย์  คะแนน 2 วัน 85-82=167  handicap 27  Net Score = 140