ไม่มีหมวดหมู่

น็อกซ์ ชนะครั้งแรกในชีวิต ศึก เอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส์

น็อกซ์ ชนะครั้งแรกในชีวิต
ศึกเอชเอสบีซีแชมเปี้ยนส์

รัสเซลล์ น็อกซ์ กลายเป็นนักกอล์ฟจากสก็อตแลนด์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพมาครองสำเร็จ หลังชัยชนะ 2 สโตรคเหนือยอดนักกอล์ฟระดับเวิลด์คลาส ในการแข่งขันเอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส์ ชิงเงินรางวัลรวม 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่เซี่ยงไฮ้  ประเทศจีน

ในรอบสุดท้ายที่เส่อซาน อินเตอร์เนชันแนล กอล์ฟ คลับ รัสเซลล์ น็อกซ์ ทำสกอร์เข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 และคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 อันดับสองเป็น เควิน คิสเนอร์ จากสหรัฐอเมริกาที่สกอร์ 18 อันเดอร์พาร์ 270 ขณะที่สองนักกอล์ฟอังกฤษ แดนนี วิลเล็ทท์ และ รอสส์ ฟิชเชอร์ จบอันดับสามร่วมกันที่สกอร์ 271

รัสเซลล์ น็อกซ์ ออกสตาร์ทการแข่งขันวันสุดท้ายด้วยการเป็นนักกอล์ฟอันดับ 85 ของโลก แต่หลังชัยชนะในรายการใหญ่รายการนี้ ส่งผลให้อันดับโลกของเขาขยับขึ้นไปอยู่ใน 30 อันดับแรกของโลกแน่นอนแล้ว

น็อกซ์ นักกอล์ฟวัย 30 ปีจากอินเวอร์เนส ที่ย้ายไปปักหลักอยู่ในสหรัฐอเมริกาและเล่นอยู่ในยูเอสพีจีเอทัวร์ ต้องกลับมาเล่นหลุมสุดท้ายของรอบสามในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เนื่องจากในวันเสาร์นั้นท้องฟ้าที่เส่อซาน  อินเตอร์เนชันแนล กอล์ฟ คลับ มืดลงเสียก่อน

และนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาด ด้วยสภาพอากาศและมุมมองที่ชัดเจนกว่าทำให้ รัสเซลล์ น็อกซ์ เก็บเบอร์ดี้ลงไปสำเร็จพร้อมขยับขึ้นเป็นผู้นำร่วม

นักกอล์ฟจากสก็ฮตแลนด์ยังคงรักษาโมเมนตั้มต่อมาถึงรอบสุดท้าย ด้วยการเก็บเพิ่มเข้ามาอีก 6 เบอร์ดี้ แม้จะเสียไป 2 โบกี้ แต่ยังเพียงพอที่จะทำให้เขาคว้าแชมป์แรกในชีวิตพร้อมเงินรางวัล 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่นับเป็นรางวัลก้อนโตที่สุดที่เขาได้รับจากการแข่งขัน

“มันอาจจะฟังดูเหมือนเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่สำหรับผมแล้วคิดอยู่เสมอว่าสามารถออกไปชนะรายการใหญ่รายการนี้เป็นชัยชนะครั้งแรกของผมได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม” น็อกซ์ กล่าวถึงชัยชนะในรายการระดับเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ ที่เป็นรองเพียงรายการระดับเมเจอร์เท่านั้น และ เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ เอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส์ ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเมเจอร์แห่งเอเชีย

“ผมเคยขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์มาแล้ว 2-3 ครั้ง และคราวนี้ผมก็สามารถทำได้สำเร็จ” น็อกซ์ กล่าว

จอร์แดน สปีธ นักกอล์ฟอเมริกันที่เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ร้อนแรงที่สุดในปีนี้กลับมามีลุ้นหลังรีดฟอร์มเก่งในรอบสามด้วยการหวด 9 อันเดอร์พาร์ 63 ทว่าพอเข้ารอบสุดท้ายในวันอาทิตยืกลับไม่สามารถร้อนแรงต่อเนื่องได้

สปีธ จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีกเพียง 2 อันเดอร์พาร์ 70 จบอันดับเจ็ดร่วมที่ 15 อันเดอร์พาร์ เท่ากับ ลี เห่าตง นักกอล์ฟชาวจีนวัยเพียง 20 ปี

อย่างไรก็ตาม อันดับดังกล่าวนั้นเพียงพอที่จะส่ง จอร์แดน สปีธ แชมป์มาสเตอร์ส และ ยูเอส.โอเพ่น ในปีนี้แซง เจสัน เดย์ นักกอล์ฟจากออสเตรเลีย ขยับขึ้นไปอยบู่ในอันดับหนึ่งของโลกได้อีกครั้ง โดยในรายการนี้ เดย์ ไม่ได้ร่วมแข่งขันเนื่องจากภรรยาของเขาคลอดลูกชายคนที่สองพอดี

“แน่นอนที่สุดว่าเป้าหมายของผมก่อนที่จะลงเล่นสัปดาห์นี้คือการกลับขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกอีกครั้ง” สปีธ กล่าวหลังจบรอบ “เมื่อตำแหน่งนักกอล์ฟหมาบเลขหนึ่งของโลกหลุดลอยออกไป มันเริ่มเป็นต้นต่อของอะไรที่ไม่ปกติ ดังนั้นคุณจึงต้องพยายามอย่างเต้มที่เพื่อจะคว้ามันกลับคืนมาให้ได้”

สปีธ ยังบอกด้วยว่ารู้สึกทึ่งที่สกอร์กับสกอร์ของผู้ชนะหลังจากที่ต้องเล่นฝ่าสายฝนและกระแสลมหมุนในรอบสามของการแข่งขัน

“การทำสกอร์ 20 อันเดอร์พาร์ที่สนามแห่งนี้ในสภาพอากาศอย่างที่พวกเราเจอมันเป็นเรื่องที่แทบไม่น่าเชื่อ” สปีธ กล่าว “คุณรุ้ไหมว่าแต่ละคนต่างพยายามกดดันซึ่งกันและกัน เป็นการเล่นกอล์ฟที่ถูกสถานที่ และพวกเขาดูเหมือนจะเล่นได้ดีกว่าที่เคยเป็น”

ลี เห่าตง นักกอล์ฟเจ้าถิ่นที่ออกก๊วนเดียวกับ จอร์แดน สปีธ ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายได้อย่างน่าผิดหวัง

ในการเล่น 5 หลุมแรกของรอบสุดท้าย นักกอล์ฟชาวจีนวัย 20 ปีเสียไป 1 ดับเบิ้ลโบกี้ 3 โบกี้ ซึ่งดูแล้วเขาไม่น่ากลับมามีลุ้นอะไรได้อีก แต่ ลี ก็แสดงให้เห็นว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วยการค่อยไคลานกลับมาจบรอบสุดท้ายที่ อีเวนพาร์ 72 ซึ่งรวมถึงการชิพอินเซฟพาร์ที่หลุม 9 ด้วย

“คุณรู้ไหมว่าหัวใจของเขาสุดยอดขนาดไหน” สปีธ กล่าวยกย่อง ลี

“แต่ละช็อตที่เขางัดออกมาใช้มันช่างน่าเหลือเชื่อ”

“มีครั้งหนึ่งที่ผมหันไปมองที่แค็ดดี้ของผม (ไมเคิ้ล เกรลเลอร์) แล้วบอกกับเขาว่า ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมเอาชนะเขาได้สัก 8 สโตรคได้ แต่สุดท้ายกลับมาจบการแข่งขันในอันดับเดียวกันของทัวร์นาเม้นท์” สปีธ กล่าวในที่สุด

สรุปผลเอชเอสบีซี  แชมเปี้ยนส์ (สนามพาร์ 72)
268  รัสเซลล์ น็อกซ์ (สก็อตแลนด์) 67-65-68-68
270  เควิน คิสเนอร์ (สหรัฐฯ) 64-66-70-70
271  แดนนี วิลเล็ทท์ (อังกฤษ) 65-74-70-62
271  รอส ฟิชเชอร์ (อังกฤษ)  69-69-65-68
272  แบรนเดน เกรซ (แอฟริกาใต้)  63-71-70-68
272  ดัสติน จอห์นสัน (สหรัฐฯ)  65-71-65-71
273  แมทธิว ฟิซท์แพทริก (อังกฤษ) 68-69-69-67
273  แพทริก รีด (สหรัฐฯ)  65-70-68-70
273  ลี เห่าตง (จีน) 66-69-66-72
273  จอร์ แดน  สปีธ (สหรัฐฯ)  68-72-63-70