เทศกาลที่ต้องคิดกันใหม่
เรื่องของเทศกาลบ้านเราเนี่ยนะมีอยู่มากมายหลายหลาก แทบจะทุกเดือน แต่ที่เป็นจุดเด่นสุดของบ้านเรานั้นมันต้องเทศกาล “สงกรานต์”เท่านั้น จากอดีตสงกรานต์คือวันปีใหม่ของเราชาวไทยการที่เราจะไปรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพรักก็กระทำกันหลังกิจกรรมทาง “ศาสนา”อันเป็นจารีตประเพณีที่เราปฏิบัติกันมาเนิ่นนาน หรือจะเป็นการก่อเจดีย์ทรายหรือการขนทรายเข้าวัดอันเป็นความเชื่อที่ว่า “เมื่อเราเข้าวัดมาทำบุญทำทานดินทรายที่ติดเท้าออกไปโดยไม่ตั้งใจ เมื่อถึงเวลาก็ทำการนำกลับมาบ้าง” นับเป็นเรื่องที่ใครๆก็อาจคิดไม่ถึงว่า “ทั้งเจดีย์ทราย หรือขนทรายเข้าวัดมี…เพื่อ…”
ทีนี้กลับมายังโลกที่เป็นจริงของชาติเรา ช่วงเวลาแบบนี้ทาง “รัฐ”ได้ออกแคมเปญการหยุดออกไปอีกเล็กน้อยจะเพื่ออะไรก็ช่าง แต่ช่วงเวลาเช่นนี้จะมีการรายงานเรื่องของ “อุบัติเหตุ”ที่ดูจะไม่มีที่ท่าจะลดน้อยถอยจำนวนลงไม่ได้เลย ไอ้กระผมเองก็ไม่ทราบจะเอาเหตุผลอะไรมาหักล้างกับ “จำนวนของคนเจ็บและคนตายที่ยังคงมากขึ้นทุกปี” แต่เหตุที่เขาว่ากันจากอดีตถึงปัจจุบันและเป็น “จำเลย”ของงานนี้มาตลอดคือ “น้ำเมา”ก็เห็นเขาว่ากันถึงมาตรการที่จะทำให้จำนวนคนเจ็บจะลดลงมาหลายรอบหลายปีสุดท้ายก็จบจากความสุขก็กลายเป็น “งานศพ”เสียทุกทีปาย….
ความเชื่อของคนไทยในอดีตถึงปัจจุบันนั่นคือ “เทศกาลต้องติดสุราสาโท”ไปด้วยจะช่วยครื้นเครงอีกเป็นกอง ก็แน่ละซีเมื่อก่อนเราเดินทางด้วยอะไรกันบ้างทางน้ำก็เรือพาย พอจะกรีดกรายทางบกก็เกวียนละมั้งหรือจะเฉิดฉายกลายเป็นขุนแผนก็แล่นไปด้วย “ม้า” ดังนั้นจะเมาแค่ไหนมันก็ไม่ทำให้สิ้นชีพลงไปได้หรอก อย่างดีก็แค่ตกน้ำตกท่าหรือถ้าพาซวยก็จะถูกไอ้เข้คาบไปรับทานก็เท่านั้น หรือจะหลับกลางทางเสือสิงห์จะเคี้ยวเล่นก็ไม่เห็นจะแปลก…
เข้าสู่ยุคปัจจุบันมันต้องเด็ดขาดมาด “แว้น”ของสองล้อหรือให้หล่อก็ต้อง DADเทอร์โบโอ้โห… “แรงเกินตัว”…เวลาเกิดอะไรขึ้นทีมีหรือจะรอดบอกได้เลยมากหรือน้อยต้องมีแบบนี้เราจะต้องมานั่งจับเข่าคุยกันให้เป็นเรื่องราวกันเสียทีดีมั้ย…เมื่อถามโดยรวมการเจ็บและตายมักมาจากอุบัติเหตุทางท้องถนนแทบจะทั้งหมด จะเป็นสองล้อหรือสี่ล้อมักจะมาจากถนน “สายรอง”เสียด้วย หากจะแก้การเจ็บและการตายต้องไปโน่นแหละชุมชนที่เรียกว่า “หมู่บ้าน”ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านคอยดูแลอยู่ การปกครองในระดับเล็กสุดของเราน่าจะไล่เรียงกันขึ้นไป บางคนอาจจะบอกว่าน่าจะครอบครัวมาก่อนนะ…ครอบครัวจะต้องคอยตักเตือนลูกหลานให้คอยระวังตัวในช่วงเทศกาล…แต่เรื่องจริงคือ “พวกที่พิการบ้างเสียชีวิตบ้างก็คงเชื่อพ่อแม่ละมั้งถึงมีวันนี้…
สรุปว่า “เทศกาล”ของเราทุกปีต้องมี “งานศพ”กลายเป็นของคู่กันไปแล้วจะทำอย่างไรให้จำนวนของความเสียหายลดลงคงต้อง “กลับมาคิดกันใหม่”ว่าต้นเหตุที่ทำให้ “เกิดอุบัติเหตุ”ที่จริงมันคืออะไร เราจะเริ่มจากจุดไหนก่อนดี ส่วนครูไก่ยังคงต้องมุ่งไปยัง “มูลเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุ”และเรื่องของ “การบังคับใช้กฎหมายที่ควบคุม” ต้องเด็ดขาดเสียที เพื่อให้คนสติดีมาเดินทางร่วมกัน…
ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์
