แม็คอิลรอย เล็งแกรนด์สแลม ในเดอะมาสเตอร์ส

รอรี แม็คอิลรอย อดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ ออกมาเปิดเผยว่าหากเขาสามารถทำแคเรีย แกรนด์สแลมสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ ในมลรัฐจอร์เจีย ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้คงเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก

รอรี แม็คอิลรอย นักกอล์ฟวัย 29 ปีจากไอร์แลนด์เหนือ มีโอกาสที่จะเป็นนักกอล์ฟคนที่หกในประวัติศาสตร์ที่จะรายการระดับเมเจอร์ได้ครบทั้ง 4 รายการ หรือที่เรียกว่า แคเรีย แกรนด์สแลม หากเขาสามารถ เดอะ มาสเตอร์ส ในเดือนเมษายนนี้ เช่นเดียวกับ จอร์แดน สปีธ และ ฟิล มิคเคลสัน ที่มีลุ้นจะทำแคเรีย แกรนด์สแลม ในฤดูกาลนี้เช่นเดียวกัน

อดีตมือหนึ่งของโลกจากไอร์แลนด์เหนือบอกว่าใครก็ตามที่สามารถทำแคเรีย แกรนด์สแลม ได้อย่างที่ยอดนักกอล์ฟระดับตำนาน อย่าง ยีน ซาราเซน, เบน โฮแกน, แกรี เพลเยอร์, แจ๊ค นิคลอส และ ไทเกอร์ วูดส์ ซึ่งเป็นเพียงห้าคนเท่านั้นในโลกนี้ที่ทำได้ ย่อมเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมและจะช่วยกระตุ้นวงการกอล์ฟได้เป็นอย่างดี

“ผมหมายความว่า มันจะดีขนาดไหนสำหรับกีฬากอล์ฟ ซึ่งผมคิดว่ามันคงจะสุดยอดมาก” แม็คอิลรอย กล่าว “แต่ผมคิดว่ามันจะอาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่มีคนจำนวนไม่มากนักที่บันทึกไว้ในรายการของเขาสำหรับการเข้าไปยืนเคียงข้างกับบรรดานักกอล์ฟระดับตำนานเหล่านั้น”

“มันจะกลายเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งถ้าหากมันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ เรื่องราวของวงการกอล์ฟจะกลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการกีฬาทั้งหมดอีกครั้ง และนั่นจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนซึ่งจะกลับมาเอาใจใส่ในเกมของตนเองอีกครั้ง”

แม็คอิลรอย นั้นมีโอกาสมาแล้ว 4 ครั้งในการลุ้นเมเจอร์รายการนี้ที่จะให้เขาชนะเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครบทั้ง 4 รายการ แต่ก็พลาดทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันเมื่อปี 2011 ที่เขานำการแข่งขันก่อนเข้ารอบสุดท้ายที่ออกัสต้า เนชั่นแนล ทว่ากลับตีเกินไปถึง 8 โอเวอร์พาร์ 80 หล่นไปจบอันดับสิบห้าร่วมอย่างพลิกความคาดหมาย

อย่างไรก็ตาม แม็คอิลรอย นักกอล์ฟหมายเลขหกของโลกคนปัจจุบัน เชื่อว่าหลังจากผ่านประสบการณ์มาทำให้เขามีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น และพร้อมแล้วสำหรับการไล่ล่า เดอะ มาสเตอร์ส ให้เป็นหนึ่งใลคอลเลคชั่น 4 เมเจอร์ของเขา

“แน่นอนที่สุดว่ามันต้องใช้เวลาในการปรับทัศนะคติ ว่าผมต้องจัดการอะไรบางอย่างที่อยู่ในหัวของผมบ้าง” แม็คอิลรอย กล่าว

“และผมคิดว่าบางครั้งผมก็เป็นแฟนกอล์ฟตัวยงคนหนึ่ง ซึ่งผมรู้ดีว่ามีใครบ้างในโลกใบนี้ที่สามารถชนะแกรนด์สแลมได้บ้าง บางคนผมก็รู้จักเป็นการส่วนตัว และนั่นยิ่งทำให้ผมต้องการขึ้นในยืนเคียงข้างพวกเขาเหล่านั้นให้ได้”

อดีตมือหนึ่งของโลกจากไอร์แลนด์เหนือกล่าวต่ออีกว่า “และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของเกม เมนทัลเกม ซึ่งถ้าหากผมไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ประวัติศาสตร์ต่างๆ ผมไม่ได้เป็นแฟนกอล์ฟตัวยง งานต่างๆ มันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้”

“แต่ก็นั่นล่ะ นั่นมันไม่ใช่ตัวตนของผม ผมต้องการความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่ก็อีกครั้งที่ผมไม่สามารถคิดในแบบที่เคยเป็นมาได้”

“สิ่งที่ผมควรทำคือออกไปและเล่นกับสภาพสนามในวิถีที่คุณรู้ว่าคุณสามารถทำได้ และหวังว่ามันจะเป็นสกอร์ที่ดีเพียงพอซึ่งจะเป็นสกอร์ที่ต่ำที่สุดในสัปดาห์นั้น”

แม็คอิลรอย ยังปฏิเสธข้อแนะนำว่าการตั้งเป้าหมายที่จะทำแกรนด์สแลมให้ได้นั้น จะกลายเป็นความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะมาพร้อมกับความผิดหวังเนื่องจากความกดดันที่มาอยู่ที่ตัวนักกอล์ฟเอง

“ไม่ ผมรู้สึกสบายๆ กับสถานการณ์แบบนี้ ผมหมายความว่าความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นสร้างความกดดันให้กับผมในช่วง 2-3 ปีแรก พอมาถึงปี 2015 และ 2016 ผมก็พยายามทำได้ดีขึ้น ซึ่งมาถึงตอนนี้ผมรู้สึกรับมือกับมันได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร” แม็คอิลรอย กล่าว

“ผมเดาว่า ที่ผมกลายเป็นรู้สึกสบายๆ และสามารถรับมือกับความกดดันต่างๆ ได้นั้นมาจากความจริงที่ว่า ผมต้องพบกับความล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จ ซึ่งนั่นมันแน่นอนที่สุด ไม่ว่าคุณจะเรียกมันว่าชัยชนะหรืออะไรก็ตาม”

“ผมกลายมาเป็นรู้สึกสบายๆกับการแข่งขันที่ ออกัสต้า หลังจากความจริงที่บ่งบอกว่าผมได้พยายามมาแล้ว 4 ครั้ง และประสบความล้มเหลวทั้ง 4 ครั้ง แต่คุณต้องไม่ลืมว่า อับราฮัม ลินคอล์น ลงสัครรับเลือกตั้ง 13 ครั้งแรกของเขานั้น เขาได้รับความพ่ายแพ้มาตลอด แล้ววันหนึ่งเขาก็กลายม่เป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา”

“ดังนั้น สำหรับผมแล้ว ยังพอมีเวลา” แม็คอิลรอย กล่าวในที่สุด