เล่าเรื่องหนัง รางวัลออสการ์
ขออนุญาตเขียนเรื่องนอกสนามกอล์ฟนะครับ เล่าเรื่อง รางวัลออสการ์ ครั้งที่91 ที่ผ่านพ้นไป ให้อ่านกัน
ผมเป็นคนรุ่นเก่า ก็เลยเชียร์ ภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody อันเป็นภาพยนตร์อัตประวัติชีวิตของ เฟรดดี เมอร์คิวรี่ นักร้องนำและการก่อตั้งของวงควีน วงร็อคอังกฤษที่ได้ฉายาว่า Queen is king of the Kings คือ วงร็อคที่เป็นราชันแห่ง ราชันเพลงร็อคทั้งปวง
หากรู้จัก วงควีนแล้ว คงไม่ต้องอธิบายใดๆ เพราะเป็นสุดยอด ร็อคคลาสสิก ตลอดกาลจริงๆ เด็กรุนหลังยังตามฟังเลยครับ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าฉายบ้านเราเมื่อปลายปี รอบที่ผมไปดู มีแต่คนอายุสี่ห้าสิบอัพ มากกว่าวัยรุ่น แสดงว่าเป็นสาวกควีนเข้าไปดูกัน กระแสหนังไม่ดังเท่าไหร่ ชื่อไทยจำไม่ได้ แต่ชื่อฝรั่ง Bohemian Rhapsody ..วรรณกรรมวิลาศแห่งโบฮีเมียน..มันงง ไม่ดึงดูดใจ ถ้าไม่รู้ว่า นี่คือ ชื่อเพลงเอกเพลงหนึ่งของ วงควีน เด็กคนรุ่นใหม่ก็มองผ่าน นึกว่าหนังลิเกฝรั่ง
หนังสไตล์อังกฤษ จะดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ มีมุก มีเรื่องสนุก สคริปต์ดี มีดรามา
เป็นแฟนควีนมาตั้งนาน เพิ่งรู้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เฟรดดี เมอร์คิวรี่ เป็นคนสายเลือดปากีสถาน พ่อแม่เป็นอิมมิแกรนต์รุ่นแรก เป็นชนชั้นกลาง มีความรู้ ตั้งรกรากที่ลอนดอน อยู่แบบชาตินิยมล้วนๆ แม่ พี่สาวน้องสาวยังนุ่งส่าหรีเลย เฟรดดีชื่อเดิมคือ ฟารูค นามสกุลก็แขก
แต่ตัวเองมาเปลี่ยนชื่อสกุลหมด เป็น เฟรดดี เมอร์คิวรี่ เป็นอังกฤษ ไม่ใช่ปากี เพราะปมเกลียดการเป็น พลเมืองชั้นสอง ในอังกฤษ
วงควีนนั้น แรกเริ่มก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะกลุ่มก่อตั้งอย่าง ไบรอัน เมย์ มือกีตาร์ที่เป็นตำนานจนบัดนี้ ล้วนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งสิ้น ทั้งวิศวะไฟฟ้า,ฟิสิกส์ เป็นพวกอัจฉริยะ จีเนียส ว่างั้นเถอะ
แต่รักดนตรีร็อค ก็เลยรวมวงกัน ฟารุคหรือเฟรดดี ก็เรียนมหาวิทยาลัย พวกอาร์ต (แสดงว่าพ่อแม่ส่งเรียน) มีงานจ๊อบ เป็นพนักงานขนกระเป๋าที่สนามบินฮีตโธรว
เขามีทักษะทางดนตรีเหลือเชื่อ ร้องคีย์สูง ทำให้เพลงของควีน เป็น classic sweet rock ได้อย่างเหลือเชื่อ
มีบทหนึ่งในภาพยนตร์..เฟรดดี เขาบอกเพื่อนๆในวงว่า..มึงต้องเลือกกูเป็นนักร้องนำ เพราะกูปากอูม ฟันยื่นเหยิน..และก็เพราะไอ้ปากอูม เหยินนี่แหละ ทำให้พื้นที่ในอุ้งปากกว้างกว่าปรกติ ทำให้เรนจ์เสียง ขึ้นคีย์ได้สูงสุดมากกว่าคนธรรมดา เป็นคุณสมบัติพิเศษที่ไม่ใช่ทุกคนทำได้
ผมขำ เห็นด้วยนะ เพราะ มีนักร้องปากอูม ฟันเหยิน ที่ร้องเพลงได้สุดยอดหลายคน อย่าง ไลโอเนล ริชชี่,โรบิน กิ๊บส์, เลดี้ กาก้า เจ้าของเพลง shallow รางวัลออสการ์ปีนี้ ดูดีๆ เธอก็มีริมฝีปากที่เหยินออกมานะ หรือแม้แต่เพื่อนผมคนหนึ่ง ร้องเพลงฝรั่งดีมาก โดยเฉพาะเพลงบีจีส์..มันก็ปากอูม
เพลงอมตะต่างๆของ ควีน ที่เราได้ฟังกัน มาจากการ อเรจน์และแต่งของ เฟรดดีและเพื่อนๆในวง เหมือนง่ายๆ คิดๆแล้วก็เคาะขึ้นมา ต่อยอดแล้วไหลไปเรื่อย จนกลายเป็นเพลง บ่งถึงความอัจฉริยะในดนตรี การที่เพลงวงควีนเป็น sweet rock เพราะแต่ละคนมี่พื้นฐานทางดนตรีคลาสสิก..เฟรดดีบอก..กูจะเอาอย่างนี้ ท่อนคลาสสิกอย่างนี้..เดี๋ยวไหลออกมาเลย ง่ายๆและในบัดดล
อย่างเพลง We will rock you ..มาจากจังหวะกระทืบเท้าในสนามฟุตบอลของแฟนบอล..ชึ่ง ชึ่ง โป๊ะ..ชึ่ง ชึ่ง โป๊ะ..แค่นั้น เฟรดดีทำเพลงได้เลย หรือ เพื่อนคนหนึ่งบอก ..กูอยากถีบจักรยานโชว์ ก็กูชอบ..ขณะที่คนอื่นบอกว่า จะบ้าเรอะ..ถีบจักรยานมันจะเป็นเพลงได้ไง เฟรดดีตัดบท แล้วเคาะคีย์พร้อมเนี้อเลย จนเป็นที่มาของเพลง bicycle race ที่มีเสียงกรุ๋งกริ๋งของกริ่งจักรยานน่ะ
อย่าว่าแต่อะไรเลย เพลง Bohemian Rhapsody เพลงเอกอมตะของวงควีน เกิดจาก อารมณ์อินจัดในเพลงคลาสสิกของเฟรดดี ดีดเปียโนหาเมโลดี มองไปนอกหน้าต่างทุ่งกว้าง ไม่มีเรื่องราวของ โบฮีเมียน (พวกกรุยกรายกึ่งฮิปปี)สักนิด มีแต่อารมณ์เพลงพาไป กับเนื้อที่เคาะออกมาตามสายลม ให้เข้ากับจังหวะดนตรีร็อคแสนเร้า
ถ้าอ่านเนื้อเพลงจะแปลกมาก เพราะไม่ปะติดปะต่อกัน อะไรจริง อะไรไม่จริง เดี๋ยวมีปืนไปยิงกบาลคน เดี๋ยวพูดถึงแม่ เดี๋ยวเหมือนคิดฆ่าตัวตาย ปลายทางแห่งชีวิตตัวเองมาถึงแล้ว มันสายแล้วที่จะแก้ไขอะไรได้
พอเพลงดังแล้ว ก็มีคนไปตีความเป็นตะเป็นตะ เชิงปรัชญาสารพัดไปโน่น
บางทีเฟรดดีอาจอยู่ในอารมณ์พี้ยา อารมณ์คิดถึงแม่ที่เขาตัดขาดจากครอบครัว ก็ใส่เข้าไป กระทั่งคำว่า scaramouche ในท่อนฮุก ใครฟังก็งง เพราะ ไม่ได้มีความหมายอะไร เป็นเพียงคำหนึ่งที่ เฟรดดีจำมาจาก กวีโบราณ หรือ galelio.. galelio figaro นั่นก็ให้เพื่อนมาร้องคีย์สูงสุดให้ ขณะที่คนร้องยังงง..มันชื่อใครวะ?
เพลง love of my life อันเป็นพลงที่หวานที่สุด เฟรดดี้ก็ไม่ได้แต่ลอยๆ เขาแต่งให้กับ แมรี่ ออสติน สาวคนรัก ที่เขารักจริงๆ มาตั้งแต่แรก หอบหิ้วกันมา เกือบจะแต่งงานกันแล้ว จนกระทั่งเฟรดดีสารภาพว่าเขาเป็นไบเซ็กชวล เป็นเกย์ชอบผู้ชาย จึงกลายเป็นเพื่อนดีก่อกัน เฟรดดีแสดงให้เห็นว่า เป็นรักแห่งชีวิตของเขาจริงๆ ด้วยการเขียนพินัยกรรม มอบสมบัติอสังหาริมทรัพย์ของเขาทั้งหมดแก่เธอ แม้เธอจะแต่งงานไปมีลูกกับสามีคนอื่นแล้ว (พ่อแม่พี่น้องและคนใกล้ชิด ได้เป็นเงินสดรายละหลายแสนปอนด์อยู่)
นักแสดงที่เล่นเป็น เฟรดดี้ เมอร์คิวรี ชื่อ เรมี มาเล็ค พ่อแม่เป็นอิมิแกรนต์อียิปต์ จึงเป็นอเมริกันอียิปต์ ต้องใส่ฟันปลอมให้อุมออกมา เขาเล่นเปียโน ร้องเพลงเอง ฉาก คอนเสิร์ต Life Aid ที่เวมบลีย์คือฉากหัวใจแห่งภาพยนต์เรื่องนี้ เพราะผู้กำกับยืนยันว่า เป็น เทคเดียว ด้วยต้องการซึมซาบบรรยากาศเหมือนจริงมากที่สุด การบรรทุกภาพเป็นเพียง การได้รู้เห็นประวัติศาสตร์เท่านั้น ไม่มีปรุงแต่ง อันทำให้ มาเล็คต้อง “อิน” สุดใจ ว่าเขาคือ เฟรดดี เมอร์คิวรี่ ทั้งร้อง ทั้งดีดเปียโน แสดงอารมณ์เพลงให้ถึงแก่นในรวดเดียว
บางทีฉากนั้นแหละ ที่มีผลส่งให้เขาได้ได้รางวัลออสการ์ดารานำชาย เฉือน แบรดลีย์ คูเปอร์ ใน ภาพยนตร์เรื่อง A star is born
A star is born ก็สนุกครับ เมื่อกว่ายี่สิบปีมาแล้ว เป็นการแสดงคู่กันของ คริส คริสท้อฟเฟอร์สัน กับ วิตนีย์ ฮิวส์ตัน แต่พ.ศ.นี้ เป็นการแสดงของ แบรดลีย์ คูเปอร์ กับ เลดี กากา
เรื่องออริจินอลแรกนั้น เป็นเรื่องร็อกเกอร์เฒ่าที่หมดยุคตัวเองกับสาวผิวสีดาราป้อบสตาร์ที่เรืองรอง จนชีวิตรักไปด้วยกันไม่ได้ ส่วนเรื่องหลังนั้น เป็นเรื่องของ นักร้องลูกทุ่งขี้เมา (ชีวิตจริง ก็มักเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่ จอห์นนี่ แคช ยัน เบลค เชลตัน) กับสาวที่มีพรสวรรค์ทางดนตรี ที่เมื่อเขานำทาง เธอก็ก้าวไปไกลสู่ความเป็นดาวสกาว เกินกว่าเขาจะตามทัน นำ-ไปสู่โศกนาฏกรรม
ว่าไป ต้องบอกว่า A star is born เป็นหนังของ แบรดลีย์ คูเปอร์ ครับ
หมอนี่เก่งจริง เขามีชื่อมาจากภาพยนตร์เรื่อง Hangover เมื่อห้าหกปีก่อน ถึงวันนี้ กลายเป็นนักแสดงที่มีความสามารถสูงเทียบขั้น เบน อัฟเฟลค แล้ว คือ สร้างหนัง ทำทุกทำอย่างเองหมด
แบรดลีย์เอาโคลงเรื่องเก่ามาทำดัดแปลงทำใหม่ เขียนบทเอง กำกับเอง แสดงเอง แถมเพลงในหนังก็มีส่วนแต่งและร้องเองอีกแน่ะ (ตรงนี้อาจเก่งเลย เบน อัฟเฟลค แล้ว เพราะ อัฟเฟลค ไม่ร้องเพลง)
มีชื่อเข้าชิงดารานำชาย แต่บท นักร้องลูกทุ่งอเมริกันขี้เมา ยังแรงไม่เท่า ชีวิตร็อคเกอร์ที่เป็นอมตะของชาวโลก
แต่เพลง shallow ที่เขาแต่งและร้องร่วมกับ เลดี กากา ได้รางวัลเพลงยอดเยี่ยม
เพลงหลายๆ เพลงในภาพยนต์ เรื่องนี้ ไพเราะทุกเพลง
เลดี กากา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ สุดยอดครับ เธอเป็นราชินีเพลงป็อบ (ชีวิตจริง และ การเกิดเป็นดาวในเรื่อง) แต่แต่งเพลงลูกทุ่ง และร้องได้ไพเราะจริงๆ (shallow น่ะเพลงลูกทุ่ง) หลายเพลง เช่นเพลง I’ll never love again เธอเล่าเรื่องและแสดงด้วยน้ำเสียงแห่งอารมณ์เพลง จนคนดู ”อิน” ตาม น้ำตาไหล
ดูเหมือน เลดี กากา จะ ”อิน” กับภาพยนตร์เรื่องนี้ จน “ล้น”จอ เลิกกับคู่หมั้นดื้อๆ ออกอาการหลงรักแบรดลีย์ คูเปอร์ จนออกนอกหน้า โชว์ที่ไหน ร้องเพลง shallow คู่กันนี่ หวานปานจะหยด ทำท่าจะกลืนกินคูเปอร์เลย ถึงขนาดเมียตัวจริงหึงเลยละ
ทั้งสองเรื่องเข้าชิงภาพยนต์ยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้
เรื่องที่ได้คือ Green Book เรื่องของของนักดนตรีผิวขาวและผิวดำในยุคฟิฟตี้ ที่ตระเวนแสดงดนตรีร่วมกัน ประสบการณ์เหยียดผิวที่คนหนึ่งได้รับ กลับทำให้สหายน้ำมิตรยิ่งแนบแน่น
ไม่เล่า เพราะยังไม่ได้ดูครับ
สองเรื่องข้างบน ดูแล้วไง เลยเก็บแก๊กมาเขียนเล่าต่อได้
ยอดทอง