การ Up Level ของ “กระสือ” ด้วยเรื่องเล่า
มาเป็นระยะๆ ให้กลุ่มนักล่าเรื่องลี้ลับได้ตื่นเต้นกันทุกๆ 4-5 ปีก็ว่าได้ สำหรับข่าวคราวการพบเจอ “กระสือ” ผีในตำนานที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อหลายปีก่อนก็มีข่าวว่าเจอแสงของกระสือ ลอยผ่านหน้ากล้องวงจรปิดให้เห็น และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่า กระสือมาเช็ดปากกับผ้าที่ตากทิ้งไว้ หลังกินของเน่าเสียมาเสร็จ
ใครที่มีภาพของ “ผีกระสือ” ว่าเป็นผีผู้หญิงที่ถอดหัวและอวัยวะภายในออกมาจากร่าง แล้วลอยไปไหนมาไหนพร้อมมีดวงไฟวาบๆ ยามค่ำคืนเพื่อหาของกิน ขอให้รู้เอาไว้ว่า ลักษณะที่ว่านั้น เกิดขึ้นภายหลัง จากการแต่งแต้มของนิยาย
ผู้ใช้นามแผงว่า “ศักดิ์ภูเบศ (จอมชาญ)” ซึ่งเป็นนักเขียนนิยาย ได้ตอบข้อสงสัยของสมาชิกเว็ปบอร์ดพันทิปคนหนึ่ง เกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของ “กระสือ” ไว้ว่า
…..กระสือตามตำนานของภาคเหนือ จะเป็นผู้ชายถือตาบ กลางคืนจะออกไปกินเลือดกบเลือดเขียดตามท้องทุ่ง ส่วนกระสือในตำนานบางภาคจะมีแค่แสงแว๊บ ๆ ลอยไปลอยมา เพื่อหากินของเน่าเหม็น
แต่ปี 2515 คุณทวี วิษณุกร ได้จินตนาการเพิ่มเติมว่า ที่เห็นแสงแว๊บ ๆ นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแค่แสงเลย แต่เป็นผีผู้หญิงที่มีแต่หัวกับไส้ต่างหาก โดยวาดเป็นการ์ตูนใช้ชื่อเรื่องว่า “กระสือสาว” ในปี 2516 ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี พิศมัย วิไลศักดิ์
หนังทีวีกระสือ ปี 2518 คุณไพรัช สังวริบุตร เจ้าของบริษัทดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอในปัจจุบัน) ขอซื้อเรื่องกระสือสาวมาทำเป็นภาพยนตร์ทีวี (สมัยนั้นยังใช้เสียงพากย์เลยเรียกว่าภาพยนตร์ทีวี ไม่เรียกว่าละคร) แต่พอพิจารณาดูแล้วเห็นว่าเรื่องสั้นเกินไป ทำเป็นหนังทีวีไม่ได้ เลยคิดพล๊อตขึ้นใหม่เองชื่อเรื่องว่า “กระสือ” ซึ่งคุณไพรัชใช้นามปากกาในประพันธ์ว่า “บุราณ”
ละครกระสือ 2538 กระสือ ถูกนำมาทำเป็นละครโทรทัศน์อีกครั้งเมื่อปี 2538 โดยบริษัทดาราวีดีโอเช่นกัน ตอนนั้นเลยถูก คุณทวี วิษณุกร มาฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิ์เป็นเงินหลายแสนบาท โดยอ้างเหตุผลว่าเขาเป็นผู้ค้นคิดตัวการ์ตูนกระสือที่มีหัวกับไส้ ดังนั้นใครจะเอาไปใช้ต้องขออนุญาตก่อน เหมือนตัวการ์ตูนโดราเอมอน ดาร์กอนบอล ใครจะเอาไปใช้ทำธุรกิจก็ต้องขออนุญาตคนค้นคิดก่อนเช่นกัน ตามกฏหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา ปีนั้นเป็นข่าวหน้า 1 อยู่หลายวัน
หนังตำนานกระสือ ปี 2545 หนังใหญ่ฉายโรงเรื่อง “ตำนานกระสือ” ของพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กับพี่ปู สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ ก็ถูกฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิ์จากคุณทวี วิษณุกรเช่นกัน…..
จาก “ดวงไฟ” กลายมาเป็น “ผู้หญิงที่ลอยไปลอยมาพร้อมกับตับไตไส้พุง” เป็นแค่เพียงการเพิ่มระดับความเร้าใจในเรื่องเล่าเท่านั้นเอง