TENNIS THERAPY

TENNIS THERAPY

เรื่องราวของกีฬาที่นำมาบำบัดอาการความผิดปกติของคนเรานั้นปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด จะเจ็บป่วยด้วยโรคหรืออาจจะเป็นเรื่องความผิดปกติแต่กำเนิด แต่ด้วยชีวิตที่อยู่กับการสอนมามากว่า 30 ปี ทั้งนักเรียนที่มาด้วยความตั้งใจและผ่านๆมาเหมือนสายลม ทั้งหลายทั้งปวงเมื่อจบการเรียนการสอนในแต่ละชั่วโมง สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะได้คือ “ความรู้คู่กับเหงื่อ” และอารมณ์ที่ปลอดโปร่งกันถ้วนทั่วทุกตัวตน…

จากนักเรียนที่ผ่านการเรียนการสอนกันมาแต่ต้นถึงปัจจุบัน น่าจะหลายพันคนอยู่นะ บางคนเน้น “เทคนิค” เพื่อชัยชนะในการแข่งขัน หนือบางกลุ่มก็จะอยู่กับความ “ความสนุกสนาน”ฮากันตลอดงานคอยจะฟังแต่ “มุขตลก”แบบเก็บทุกเม็ดเก็บทุกมุข สนุกกันแบบท้องแข็งกันไปตามๆกัน จากกลุ่มแรกที่เน้นแข่งขันเมื่อออกสังเวียนการต่อสู้ผลงานจะบอกถึงว่าการเรียนการสอนไปรอดมั้ย…

แต่กับกลุ่มหลัง เรื่องของการประเมินผลวานการเรียนการสอนจองคลาสมันเป็นเรื่องยากเข็ญต้องอาศะยการสังเกตุในแต่ละบุคคลกันเลยทีเดียว เพราะนักเรียนกลุ่มนี้แทบจะทุกคนจะเน้นการออกกำลังกายบวกสบาย “ฮา”เป็นพอ เรื่องของ “ต่อมฮา”ในแต่ละคนก็ต่างกัน บางทีแค่ปูพื้นพี่แกจัดเต็มก่อนเสียอีก เราชงสลึงพี่เขาฟาดไปร้อย ชุดนี้คือไม่น่าห่วง แต่กับบางคนพวกฮากันสนั่นพี่แกเงียบกริ๊บ แถมถามอีกว่า “มันคืออะไร” กลุ่มนี้ก็สนุกไปอีกแบบคือสนุก “เงียบๆ” ดังนั้นการจัดกลุ่มการเรียนการสอนจำต้องสอดคล้องกันปาย…การที่จะทิ้งใครให้เขาเหงาเงียบแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่สนใจไปเลยคงไม่ได้เด็ดขาด ก็อย่างว่าลงเรือลำเดียวกันแล้ว ครูเป็นกัปตันต้องลุย…จะบอกให้นะ “บางคนขาแข้งเจ็บจากอะไรสักอย่างยังขอมานั่งฟังก็ยังดี” แบบนี้ก็มีด้วย….

ทั้งหมดที่เล่ามาหากนำมาคิดวิเคราะห์ดีๆแล้วนี่คือ “TENNIS THERAPY” จะด้วยงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบัน ความเครียดที่สะสมอยู่ในแทบทุกเวลาก็ว่าได้ การที่นักเรียนได้มาออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาแล้วแถมด้วยความสนุกสนานฮาเฮแบบมีระบบที่สอดคล้องกับกิจกรรมมันช่วยละลายความเครียดที่สะสมมาตลอดวัน… “เมื่อร่างกายได้กระโดดโลดเต้นสมองได้คิดจิตได้คลาย” สามสิ่งนี้ถือว่าสำคัญอย่างมากกับใน 1หรือ 2 ชั่วโมงของการเรียนการสอนโดยเฉพาะกับสภาพของสังคมในยุคนี้…

การบำบัดเช่นนี้มันคงแตกต่างจากการทำให้ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือบำบัดเพื่อให้หายจากอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น เพราะความเครียดที่มาจากการทำงานบวกกับเวลาที่สูญเสียไปกับการเดินทาง แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำร้ายสุขภาพกายและใจให้ตกอยู่ในวังวนของความเครียดที่จะมีมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นลองเอากิจกรรมที่เขียนมานั้นประยุกต์ใช้ให้ถูกกับจริตของเราดูเอา เช่นปัจจุบันเราออกกำลังเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สมองได้ใช้กับงานนั่นบ้างหรือเปล่าเอาเป็นว่าสองกิจกรรมครบ แต่อารมณ์ก็ต้องไม่ลืมนะครับ

เราเป็นเจ้าของตัวเราเองอาการอะไรที่เกิดขึ้นค่อยๆหาเหตุและผลมาหักล้างกันให้ได้ บางทีก็ไม่ต้องถึงมือมดหมอที่ไหนหรือจะถึงก็อาจจะหนักเป็นเบา หรืองานเบาอาจจะจบลงได้ด้วยการ “บำบัดตัวเอง” เช่นเดียวกับ “TENNIS THERAPY” ที่มีมากกว่า 30 ปี อาจจะมาด้วยเหตุผลที่ว่ามานั่นเอง

ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์