Just Say Know

เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย

เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย

ปัจจุบัน สปป.ลาว มีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ จำนวน 39 เขื่อน และอีก 53 โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและอยู่ในแผน และ เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ก็เป็นหนึ่งในนี้

เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ ตั้งอยู่บนบริเวณแขวงจำปาสักเเละแขวงอัตตะปือห่างจากเมืองปากเซประมาณ 80 กิโลเมตร เขื่อนนี้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี 2552 คาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2562 เป็นโครงการเขื่อนขั้นบันได มีด้วยกันทั้ง 5 เขื่อน ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บรวบรวมน้ำจากเขื่อนหลัก มีความจุรวมกันถึง 5,000 ล้าน ลบ.ม. โครงการนี้นับเป็นความท้าทายของงานออกแบบและก่อสร้างทางวิศวกรรมของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นการออกแบบอ่างเก็บน้ำถึง 3 ระดับ โดยมีการขุดเจาะอุโมงค์ผันน้ำในแนวราบยาวรวม 13.59 กิโลเมตร และแนวดิ่งสูง 458 เมตร ด้วยเทคโลโนยี Tunnel Boring Machine (TBM) ทำให้เพิ่มระดับความสูงของน้ำถึง 650 เมตร เพื่อสร้างแรงดันน้ำในการหมุนกังหันผลิตไฟฟ้าโดยใช้ปริมาณน้ำน้อยมาก

สำหรับเขื่อนที่พังจนเป็นปัญหาในขณะนี้คือ สันเขื่อนปิดช่องเขาต่ำของเขื่อนเซน้ำน้อย ซึ่งเป็น 1ใน 5 เขื่อน ของกลุ่มเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ตัวเขื่อนเซน้ำน้อยเองมีความจุ 1,024 ล้าน ลบ.ม. จุดที่พังมีความสูงประมาณ 16 เมตร ยาวประมาณ 200-300 เมตร จากความยาวสันเขื่อนปิดช่องเขาต่ำทั้งหมด 800 เมตร คาดว่ามวลน้ำที่ไหลออกจากเขื่อนทั้งหมดประมาณ 600 ล้าน ลบ.ม. เทียบเท่ากับปล่อยน้ำออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ขณะเต็มความจุ (960 ล้าน ลบ.ม.) ออกไป 2 ใน 3 ส่วนอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำไหลออกมาอย่างแรงมาก ชาวบ้านที่อยู่นอกเส้นทางปล่อยน้ำปกติจึงหนีไม่ทันจนเกิดความเสียหายจำนวนมาก

ความเสียหายของเขื่อนเซน้ำน้อยครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบกับไทย เพราะมวลน้ำจะไหลลงทางใต้ของลาว ไปลงแม่น้ำโขงของกัมพูชา และจะไหลไปที่โฮจิมินของเวียดนามต่อไป ส่วนสาเหตุที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงในภาคเหนือและอีสานตอนบนของไทยสูงขึ้นในช่วงเดียวกันนั้น เป็นเพราะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง มาเจอกับอิทธิพลพายุเซินติญ ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ สปป.ลาวตอนบนและตอนกลาง รวมทั้งภาคเหนือและอีสานของไทย แต่น้ำฝนที่ตกในลาว จะไหลมาลงที่แม่น้ำโขง บริเวณเชียงคาน จังหวัดเลย นครพนม หนองคาย และจังหวัดอื่นๆ ที่อยู่ติดโขง จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงของไทยในหลายจังหวัดสูงขึ้น ไม่เกี่ยวกับเขื่อนที่แตกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกท่าน ให้ผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบากครั้งนี้ไปได้ ส่วนผู้ที่ต้องการส่งความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมส่งสิ่งของจำเป็น หรือสมทบเป็นเงิน สามารถติดต่อหน่วยงานหลักต่างๆ ได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น สถานกงสุล สปป.ลาว ประจำจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดมุกดาหาร, สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ (โทร. +66 2354 6195-6 ต่อ 111) รวมถึง สภากาชาดไทย ที่สามารถตรวจสอบช่องทางการร่วมแบ่งปันน้ำใจได้ทาง www.redcrossfundraising.org หรือ facebook/Redcrossfundraising