Just Say Know

แข่งกิน อาจถึงชีวิตได้

แข่งกิน อาจถึงชีวิตได้

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในโลกออนไลน์ เมื่อเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน 2 เหตุการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เหตุการ์หนึ่งก็คือ มีรายการทีวีของไทย ให้ผู้ร่วมรายการรับประทานกะปิประมาณ 1 ถ้วยใหญ่ๆ กับอีกเหตุการณ์ ที่ร้านอาหารออกโปรโมชั่นดื่มเบียร์ 5 ลิตรภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งก็มีผู้ออกมาให้ความเห็นว่า ทั้ง 2 กรณีนี้อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ หลายคนอาจจะสงสัย กินกันก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ ไม่น่าจะถึงขั้นท้องแตกตายกระมัง ซึ่งจริงๆ แล้ว ท้องแตกตายน่าจะเป็นคำเปรียบเทียบของภาวะที่ร่างกายได้รับสารบางอย่างมากเกินไปจนทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตมากกว่า

การรับประทานกะปิทีเดียวในปริมาณมากๆ อาจจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะ เกลือโซเดี่ยมสูง Hypernatremia ขึ้นได้ ในหนึ่งวันร่างกายไม่ควรได้รับโซเดียมเกิน 2,300 mg ซึ่งกะปิหนึ่งช้อนชามีโซเดียมถึง 500 mg หากรับประทานกะปิเข้าไป 1 ถ้วยใหญ่ นั่นอาจจำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากกว่าปริมาณที่ควรได้รับไปหลายเท่าตัว ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะ เกลือโซเดี่ยมสูง Hypernatremia ขึ้น อาการจะมากน้อยขึ้นอยู่กับระดับของโซเดียม ซึ่งมีตั้งแต่ กระหายน้ำ ซึม อ่อนเพลีย ความดันโลหิตสูง หรือมีอาการทางสมอง ชักเกร็ง หมดสติ ไม่รู้สึกตัว อาจทำให้มีอาการของหัวใจวาย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ทางด้านร้านอาหารที่ออกโปรโมชั่นท้าให้คนกินเบียร์ปริมาณ 5 ลิตรภายใน 2 ชั่วโมง หากมีใครรับคำท้าและฝืนดื่มให้ได้จริงๆ ก็อาจส่งผลให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินไปจนถึงขั้นเสียชีวิตจากภาวะ Alcohol Poisoning Death หรือ การตายเพราะแอลกอฮอล์เป็นพิษได้ โดยมีการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด Blood Alcohol Content (BAC) เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงระดับอันตรายที่อาจจะได้รับ ซึ่งถ้าเทียบกับกฎหมายไทยที่ห้ามผู้มีระดับแอลกอฮอล์ไม่เกิน 50mg% ขับรถ นั่นก็อยู่ที่  BAC = 0.05 ตามที่มีการศึกษามา ถ้ามี BAC เกินกว่า 0.40 มีโอกาสเสียชีวิต โดยครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับแอลกอฮอล์ขนาดนี้เสียชีวิต (LD50) และเนื่องจาก สภาพร่างกาย เพศ และน้ำหนักตัว มีผลต่อการดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือด ถ้าเทียบจากตารางการเปรียบเทียบ เพศ/น้ำหนักตัว/ปริมาณการดื่ม และค่า BAC แล้ว เบียร์ 5 ลิตร ถ้า ผช หนักต่ำกว่า 70kg (154 ปอนด์) ดื่มหมดห้าลิตรมีค่า BAC เกิน 0.40 แน่นอน ขณะที่สาวๆ หนักต่ำกว่า 55kg (121 ปอนด์) ดื่มเพียงแค่ 3 ลิตรกว่าๆ ค่า BAC ก็ทะลุเกิน 0.40 ไปแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่า กติกาจะให้เวลาดื่ม 2 ชม. แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลดความเสี่ยงลงเลย เพราะกว่าที่ร่างกายจะขับแอลกอฮอล์ออกจากระบบได้ ต้องใช้เวลานานกว่านั้น

และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา CNN ก็เพิ่งทำสกู๊ปข่าว เกี่ยวกับผลสำรวจของผู้ที่เสียชีวิตด้วยภาวะ Alcohol Poisoning ในอเมริกาพบว่า ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากภาวะ Alcohol Poisoning เฉลี่ยแล้วมีมากถึง 6 ราย/วัน เลยทีเดียว

ไม่เพียงแต่เกลือ หรือ แอลกอฮอล์ เท่านั้น ที่หากร่างกายได้รับมากเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แม้แต่น้ำเปล่า หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ในอดีตเคยมีกรณีของรายการสถานีวิทยุรายการหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย มีการแข่งขันดื่มน้ำ ใครกินน้ำได้เยอะที่สุดโดยไม่เข้าห้องน้ำจะได้รางวัล หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันดื่มน้ำไป 9 ลิตรในสามชั่วโมง หลังจากการแข่งขันจบลง เธอไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลด้วยอาการ Water Intoxication (ร่างกายรับน้ำมากไปจนช็อค)

ภาวะต่างๆ ซึ่งแม้ว่าจะมีโอกาสเกิดน้อยมากในการดำเนินชีวิตปกติ แต่เมื่อมีความไม่ปกติเข้ามาเกี่ยวข้อง อะไรก็เกิดขึ้นได้