‘บับบ้า’ แซงคว้าแชมป์ที่สามของปี
‘บับบ้า’ แซงคว้าแชมป์ที่สามของปี
บับบ้า วัตสัน แชมป์มาสเตอร์สสองสมัยชาวอเมริกันมาแรงวัดสุดท้ายหวด 7 อันเดอร์พาร์ 63 แซงชนะ 3 สโตรค ในศึกพีจีเอทัวร์ รายการทราเวเลอร์ส แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 231 ล้านบาท ณ สนามทีพีซี ริเวอร์ ไฮแลนด์ส สหรัฐอเมริกา
ชัยชนะรายการนี้นับเป็นการคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 12 ในอาชีพของนักกอล์ฟอเมริกันวัย 39 ปี และเป็นการคว้าแชมป์ทราเวเลอร์สสมัยที่สาม หลังก่อนหน้านี้เคยมาชนะที่สนามแห่งนี้ในเมืองครอมเวลล์ มลรัฐคอนเนคติคัท เมื่อปี 2010 และ 2015
นอกจากนั้น บับบ้า วัตสัน ยังเป็นนักกอล์ฟคนแรกในปีนี้ที่ชนะพีจีเอทัวร์ได้ถึง 3 รายการ โดยก่อนหน้านี้เขาชนะที่ ริเวียร่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามด้วยชัยชนะในเวิลด์กอล์ฟแชมเปียนชิพ รายการแมทช์เพลย์ แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ช็อตแอพโพชที่หลุม 18 นั้น วัตสัน ตีขึ้นไปออนห่างธงเพียง 2 ฟุตครึ่งก่อนจะขึ้นไปเก็บเบอร์ดี้ที่แปดของวันลงไป หักลบกับหนึ่งโบกี้ที่เสียไปทำให้เขาจบ 72 หลุมด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 263
“ช็อตนั้นที่หลุม 18 เป็นช็อตที่มากมาก เนื่องจากต้องตีตามลม” วัตสัน กล่าว “ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ลูกกอล์ฟหยุดบนกรีนให้ได้ และมันก็สามารถทำได้จริงๆ”
วัตสัน นับว่าเป็นนักกอล์ฟที่ทำสกอร์รอบสุดท้ายได้ดีที่สุดในบรรดานักกอล์ฟที่ที่คว้าแชมป๊พีจีเอทัวร์ในฤดูกาลนี้ รายการนี้เขาออกสตาร์ทวันสุดท้ายมีสกอร์ตามหลังผู้นำ 6 สโตรค แต่ก็แซงชนะสำเร็จเหมือนที่เคยทำได้เมื่อปี 2010 ที่เขาชนะพีจีเอทัวร์เป็นครั้งแรกในชีวิต
“มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง” วัตสัน กล่าว “ผมไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร แต่การไล่กลับมาชนะได้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเป็นนี้มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก”
พอล เคซีย์ นักกอล์ฟจากอังกฤษที่ในรอบสามหวดเข้ามา 62 เทียบเท่าสถิติดีที่สุดในอาชีพของเขาออกสตาร์ทวันสุดท้ายนำอยู่ 4 สโตรค ทว่าวันสุดท้ายตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 72 หล่นมาจบอันดับสองร่วมกับ สามนักกอล์ฟอเมริกัน เจ.บี.โฮล์มส์, โบ ฮอสส์เลอร์ และ สจ๊วต ซิงค์
“มันช่างน่าผิดหวังอย่างเหลือเชื่อ” เคซีย์ กล่าว “ข้างนอกนั้นมีการต่อสู้กันอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับผมกลับต้องมาสู้กับวงสวิงของตัวเองตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม คุณต้องให้เครดิตกับ บับบ้า ด้วย 63 นับเป็นสกอร์ที่ยอดเยี่ยมมาก”
ที่หลุม 13 เคซีย์ ทีช็อตตกน้ำด้านขวาของแฟร์เวย์ และอีกไม่นานหลังจากนัน วัตสัน พัตต์เบอร์ดี้ระยะ 11 ฟุตลงไปที่หลุม 15 พาร์ 4 เป็นการทำเบอร์ดี้ที่ห้าใน 7 หลุมของเขาพร้อมขึ้นมานำร่วมกับ เคซีย์ ที่สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์
เคซีย์ แก้ไขก่อนจะขึ้นมาเซฟพาร์ระยะ 10 ฟุตลงไปทำให้เขายังนำร่วมกับ วัตสัน ที่พลาดเบอร์ดี้ระยะไกลกว่า 20 ฟุตที่หลุม 16 และหลุม 17 แต่แทปอินเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ทำให้ วัตสัน ขยับขึ้นเป็นผู้นำเดี่ยว
ที่หลุม 15 ซึ่งในสามวันก่อนหน้านี้ เคซีย์ ได้มา 2 เบอร์ดี้ 1 อีเกิ้ล แต่ในรอบสุดท้ายทีช็อตมาตกแฟร์เวย์บังเกอร์และทำได้เพียงพาร์ แถมที่หลุม 16 พาร์ 3 ยังเซฟพาร์ระยะ 4 ฟุตพลาดออกโบกี้อีก
ถึงหลุม 17 เคซีย์ ทีช็อตตกน้ำก่อนจะเสียอีกโบกี้ที่ทำให้เขาหมดลุ้นแชมป์รายการนี้
เคซีย์ ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 21 ฟุตลงไปทำให้สกอร์ของเขาหนีห่างถึง 5 สโตรค ทว่าที่หลุม 5 พาร์ 3 เขากลับพัตต์เซฟพาร์ระยะ 4 ฟุตพลาดทำให้กลุ่มตามไล่หลังเพียง 3 สโตรคเท่านั้น
เคซีย์ เอาตัวรอดอย่างฉิวเฉียดที่หลุม 8 พาร์ 3 และหลุ่ม 10 พาร์ 4 โดยที่หลุม 8 เขาระเบิดทรายขึ้นมาออนห่างธงประมาณ 4 ฟุตและขึ้นมาเซฟพาร์สำเร็จ ส่วนที่หลุม 10 เขาทีช็อตไปตกในกลุ่มต้นไม้แต่ที่สุดขึ้นมาเซฟพาร์ระยะ 28 ฟุตลงไป
ขณะที่ เคซีย์ เริ่มมีปัญหานั้น วัตสัน เป็นฝ่ายไล่กดดันอย่างหนัก หลังจากพลาดออกโบกี้ที่หลุม 8 ถัดจากนั้นอีก 5 หลุม วัตสันกดเข้ามา 4 เบอร์ดี้ สกอร์รวมขยับเป็น 15 อันเดอร์พาร์ ตามหลังนักกอล์ฟจากอังกฤษที่นำอยู่ตอนนั้นเพียงสโตรคเดียว
เบอร์ดี้รันของ บับบ้า วัตสัน รวมถึงการพัตต์ระยะ 49 ฟุตลงไปที่หลุม 10 หลังจากที่เพิ่งเก็บเบอร์ดี้ระยะ 5 ฟุตที่หลุม 9 มาหมาดๆ จากนั้นไปพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 14 ฟุตลงไปที่หลุม 12 และเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 6 ฟุตที่หลุม 13 พาร์ 5
ทางด้าน สจ๊วต ซิงค์ อดีตแชมป์บริติช โอเพ่น เมื่อปี 2009 มาแรงในรอบสุดท้ายด้วยการเก็บ 6 เบอร์ดี้ในการเล่น 7 หลุมแรก ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้าย 8 อันเดอร์พาร์ 62 ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า “มันเป็นวันที่ทุกอย่างมาพร้อมกัน ทุกส่วนในเกมของผมทำงานได้อีกพร้อมๆกัน”
สรุปผลทราเวเลอร์ส แชมเปียนชิพ (สนามพาร์ 70)
263 บับบ้า วัตสัน (สหรัฐฯ) 70-63-67-63
266 สจ๊วต ซิงค์ (สหรัฐฯ) 68-68-68-62
266 โบ ฮอสส์เลอร์ (สหรัฐฯ) 65-67-68-66
266 เจ.บี.โฮล์มส์ (สหรัฐฯ) 66-68-65-67
266 พอล เคซีย์ (สหราชอาณาจักร) 65-67-62-72
267 เควิน ทเวย์ (สหรัฐฯ) 71-64-67-65
267 ไบรอัน ฮาร์แมน (สหรัฐฯ) 64-66-69-68
267 รัสเซลล์ เฮนลีย์ (สหรัฐฯ) 66-65-67-69
268 เชส ไซฟเฟิร์ท (สหรัฐฯ) 66-71-67-64
268 ไบรสัน เดอแชมโบ (สหรัฐฯ) 66-66-68-68
268 อาเนียร์บัน ลาฮิรี (อินเดีย) 67-67-65-69