‘ปาร์ก’ คว้าชัย เท็กซัส คลาสสิก
‘ปาร์ก’ คว้าชัย เท็กซัส คลาสสิก
เจอพายุถล่ม ตัดเหลือ 36 หลุม
ปาร์ก ซัง-ฮยุน แชมป์ยูเอส.โอเพ่น คนปัจจุบันจากเกาหลีใต้ ชิพอินเบอร์ดี้ที่หลุมสุดท้ายเฉือนชนะ ลินดี ดันแดน หนึ่งสโตรค ในศึกแอลพีจีเอ เท็กซัส คลาสสิก ที่เจอพายุเล่นงานจนต้องตัดเหลือเพียง 36 หลุม ในการแข่งขันชิงเงินรางวัล 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 41 ล้านบาท ในมลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
ปาร์ก จบสกอร์รอบสุดท้ายที่สนามโอลด์ อเมริกัน กอล์ฟคลับ ใกล้ๆกับเมืองดัลลัสด้วยสสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวม 36 หลุมคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 131 เฉือนชนะ ดันแคน สาวอเมริกันหนึ่งสโตรค ขณะที่ ลุย ยู รุ๊คกี้จากจีนจบอันดับสามที่สกอร์รวม 133
ปาร์ก สาวจากเกาหลีใต้ชิพอินที่หลุม 18 ด้วยพิทชิงเวดจ์ ทำให้เธฮเฉือนชนะ ดันแคน หนึ่งสโตรค โดยดันแคนนั้นจบขึ้นไปรออยู๋บนคลับเฮ้าส์ด้วยการเก็บ 3 เบอร์ดี้ในการเล่น 3 หลุมสุดท้าย อย่างไรก็ตามการจบอันดับสองและสามของ ดันแคน และ ลุย นั้นนับเป็นผลงานดีทีสุดในการเล่นแอลพีจีเอของพวกเธอ
“ฉันรู้ดีว่านั่นเป็นช็อตที่สำคัญมากๆช็อตหนึ่ง” ปาร์ก ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขัน “ความจริงแล้วช็อตดังกล่าวอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากกว่าปกติ แต่ฉันดีใจที่สามารถทำได้สำเร็จ”
ชัยชนะรายการนี้นับเป็นแชมป์แอลพีจีเอรายการที่สามของ ปาร์ก โดยเมื่อปีที่แล้วเธฮคว้าแชมป์เมเจอร์รายการแรกในชีวิตมาครองสำเร็จในรายการยูเอส.วีเมนส์ โอเพ่น ที่สนามทรัมพ์ เนชั่นแนล เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 และอีก 6 สัปดาห์หลังจากนั้นก็ไปชนะ แคนาเดียน วีเมนส์ โอเพ่น อีกหนึ่งรายการ
เอรียา จุฑานุกาล อดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกชาวไทย และ คิม เซย์-ยัง จากเกาหลีใต้ จบอันดับสี่ร่วมกัน ตามด้วย เจนนี ชิน จากเกาหลีใต้ และ อดิติ อาโช๊ค จากอินเดียที่สกอร์รวม 135
การแข่งขันรายการนี้ต้องเจอกับพายุฝนกระหน่ำจนการแข่งขันในวันพฤหัสบดี และ วันศุกร์ เกือบจะเล่นกันไม่ได้ จนในที่สุดคณะกรรมการจัดการแข่งขันตัดสินใจที่จะตัดการแข่งขันจาก 72 หลุมเหลือเพียง 36 หลุมเท่านั้น โดยการแข่งขันรอบสุดท้ายกส่าจะเริ่มได้ต้องรอถึงช่วงบ่ายของวันอาทิตย์
อดิติ อาโช๊ค ตัวโอลิมปิกของอินเดียวัย 20 ปีจากบังกาลอร์ที่ลังลุ้นแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตหลังจากก่อนหน้านี้เคยชนะรายการระดับเลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ มาแล้ว 3 รายการ ในรอบสุดท้ายเธอเก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 15 พาร์ 5 จากการพัตต์ระยะ 5 ฟุต และปิดท้ายด้วสยการทำสามพาร์และขึ้นมานำก่อนบนคลับเฮ้าส์
แต่ ปาร์ก ที่นำร่วมหลังจบ 18 หลุมแรกยังไม่ออกสตาร์ทหลังจบรอบแรกด้วยสกอร์ 65 ก่อนที่เธอจะมาเร่งเครื่องในช่วงบ่ายวันอาทิตย์
แม้ ปาร์ก จะเริ่มต้นรอบด้วยโบกี้ แต่แก้ตัวด้วยอีเกิ้ลที่หลุม 5 พาร์ 5 ตามด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 6, 8 และ 9 ก่อนจะออกสตาร์ทเก้าหลุมหลังด้วย โบกี้-เบอร์ดี้ ทำให้เะฮนำการแข่งขัน 3 สโตรคกับ 7 หลุมสุดท้ายของเธอเอง
หลังจากเซฟพาร์ 6 หลุมติดต่อกัน ปาร์ก มาแอพโพรชหลุมสุดท้ายไม่ออนกรีน อย่างไรก็ตามเธอชิพด้วยพิทชิงเวดจ์ลงหลุมปิดท้ายหลุม 18 ด้วยเบอร์ดี้ ที่เพียงพอที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองด้วยชัยชนะ 1 สโตรค
ทางด้าน ดันแคน ที่จบรอบในรอบเก้าหลุมแรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 64 แต่ต้องเสียโอกาสจากการแทปอินพาร์ที่หลุม 6 ลูกเลียปากหลุมออกโบกี้ แม้เธอจะจบการแข่งขันด้วยการเก็บ 3 เบอร์ดี้ในการเล่น 3 หลุมสุดท้ายแต่ยังแพ้ ปาร์ก ไป 1 สโตรค ก่อนจะจบอันดับสองซึ่งดีที่สุดในการเล่นอาชีพของเธอ
“แน่นอน ว่ามันเป็นความรูสึกของบรรยากาสการเล่นในเก้าหลุมสุดท้ายของวันอาทิตย์จริงๆ” ดันแคน กล่าว “มันเป็นวันที่ยอดเยี่ยม เป็นสัปดาห์ที่บ้าบอมากแลต่ก็ยังเป็นทัวร์นาเมนท์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉัน”
ส่วน ลุย ที่ทำอีเกิ้ลที่หลุม 8 ซึ่งเป็นหลุมรองสุดท้ายของเธอ ทว่าเธอไม่สามารถมำเบอร์ดี้ได้ที่หลุมสุดท้ายเพื่อไล่ ปาร์ก ให้ทัน ซึ่งสาวจากจีน กล่าวว่า “ผลงานรายการนี้สร้างความมั่นใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก เมนทัลเกมฉันดีขึ้น สามารถมีสมาธิกับช็อตที่อยู่ตรงหน้าได้เป็นอย่างดี”
สำหรับผลงานของนักกอล์ฟไทยคนอื่นๆ เบญญาภา นิภัทร์โสภณ จบอันดับสิบเก้าร่วมที่สกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ ตามด้วย โมรียา จุฑานุกาล อันดับยี่สิบสามร่วม สกอร์ 3 อันเดอร์พาร์
“โปรสายป่าน” ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ จบอันดับสามสิบสองร่วมกับ พัชรจุฑา คงกระพันธ์, “โปรแชมเปญ” เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ อันดับสี่สิบหกร่วม สกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ และ “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวรรณปุระ อันดับหกสิบแปดร่วม สกอร์ 1 โอเวอร์พาร์
สรุปผลแอลพีจีเอ เท็กซัส คลาสสิก (สนามพาร์ 71)
131 ปาร์ก ซัง-ฮยุน (เกาหลีใต้) 65-66
132 ลินดี ดันแคน (สหรัฐฯ) 68-64
133 ลุย ยู (จีน) 67-66
134 เอรียา จุฑานุกาล (ไทย) 68-66
134 คิม เซย์-ยัง (เกาหลีใต้) 67-67
135 อดิติ อาโช๊ก (อินเดีย) 69-66
135 เจนนี ชิน (เกาหลีใต้) 65-70
136 ลิเดีย โค (นิวซีแลนด์) 69-67
136 แจ๊กกี สโตลติง (สหรัฐฯ) 69-67
136 โค จิน-ยัง (เกาหลีใต้) 67-69
136 ลี มิ-ฮยาง (เกาหลีใต้) 70-66