ถึงคุณจน ผมก็จะโกง
ถึงคุณจน ผมก็จะโกง
นับตั้งแต่เรื่องการคดโกงถูกเปิดโปงขึ้นมาจาก “นักศึกษา”ฝึกงานของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยเงินที่เป็นเรื่องเนี่ยเป็นเงินของผู้ยากจนค่นแค้นทั้งน้าน…รัฐบาลเองก็พยายามเยียวยาความลำบากยากจนของคนทั้งชาติอยู่…แต่ความหวังที่คิดไว้ว่าจะพอประทังชีวิตไปได้ด้วยจำนวนเงินดังกล่าว สุดท้ายปลายทางก็อย่างที่รู้ๆกันครับ เงินมันถูกทอนออกมาเป็นทอดๆอาจจะเริ่มตั้งแต่เบิกออกมาจากคลังหรือบางที “มันอาจจะเริ่มถูกจัดสรรปันส่วนตั้งแต่เป็นนโยบายก็ได้” เรียกได้ว่าพอเริ่มเป็นตัวหนังสือ “ก็คิดจะโกงกันแล้ว”…แล้วแบบนี้ชาติจะรอดพ้นจากความไม่มีกับความอดอยากกันมั้ย…น้อ…
แล้วยิ่งเจาะลึกยิ่งสาวออกมามันน่ามีอยู่ทั้งประเทศ แทบจะทุกโครงการ ทุกกองทุน หรือเงินอุดหนุนโดนหมด และที่น่ากลัวคือ “ส่วนที่เหลือออกมาจากพวกนรกเนี่ยมันนิดเดียว” หากจะต้องใช้เงินที่ว่าเนี่ยไปซื้ออากาศหายใจบอกได้เลยว่ากองทุนอะไรต่อมิอะไรเนี่ยไม่จำเป็นหรอก ตายกันไปหมดแล้ว ก็มันเหลือมาถึงปลายน้ำจี๊ดเดียว…นี่ขนาดตอนนี้อยู่ในช่วงที่กฎกติกาของประเทศเข้มแข็งนักหนา มันยังกล้าทำกันขนาดนี้… แล้วพอเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนกระทรวงทบวงกรมกันเสร็จสรรพก็ตัวใครตัวมันใครจะโกงก็มีมากันเป็นระบบ ส่วนพวกประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศตัวจริงพอจบงานการเลือกตั้งก็สู่สุขคติได้คือ “ไม่ต้องลืมตาหรือปากหรอก” เดี๋ยวจัดให้นะ…นอนให้สบาย…
ยิ่งคิดถึงว่าเราจะเลือกตั้งกันอีกแล้ว เราจะมีรัฐบาลที่เราเลือกมาบริหารประเทศ “ดูดีในสายตาชาวโลก” แต่ส่วนตัวครูไก่เอาอีกแล้วมันจะมาทะเลาะกันอีกแล้ว ผมคิดแบบนี้จริงๆแล้วคดีความที่ว่ามาแต่ต้นก็เป็นอันว่ารอกันไป ใครจะตัดเนื้อเถือหนังคนจนอย่างไรก็เต็มที่ หากจะมีการเลือกตั้งขึ้นมาอีกรอบ และทั้งๆที่รู้ว่าผลที่ตามมามันเหมือนเดิมก็ต้องไปใช้สิทธิใช้เสียงอยู่ดี…แค่คิดก็เซ็งแล้วครับ.
นี่แหละประเทศไทยตราบใดที่ยังมีมีคนที่พร้อมจะรวมกลุ่มกันมา ไม่ว่าจะเป็นองค์กร หรือรัฐบาล ก็แล้วแต่จะเรียกกันไปหากตั้งอกตั้งใจมาโกงกินกันแล้ว วันหนึ่งเราจะได้มีชาติกันอีกหรือเปล่าก็ยากจะคาดเดากันครับ…
คนไทยไปไหนกันหมด
ครั้งหนึ่งสมัยที่คนไทยแห่กันไปขุดทองที่อเมริกา บรรดาผู้คนที่หวังว่า “เมืองลงแซม”นี่แหละคือชีวิตใหม่บางคนก็รอดอยู่อย่างที่ใจหวัง บางครอบครัวก็มีอันต้องพังทลายลงไปด้วยความหวังที่ว่านี่แหละครับ ความจริงบรรดาผู้คนที่แสวงหาความสุขจากการขายแรงงานในต่างแดนยังมีอยู่ครับ วันก่อนได้พูดคุยกับน้องๆที่ไปเที่ยวเมืองกิมจิมาก็ได้ความว่าปัจจุบันมีคนไทยที่ทำความผิดอยู่ในเกาหลีใต้มากมาย ด้วยข้อหาที่ฮิตสุดๆคือ “ไปทำงานแบบผิดกฎหมาย”…
ว่ากันว่า ต.ม.เกาหลีตรวจเข้มกับคนไทยหนักมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เน้นแบบประหยัด ก๊วนเค้าเองไปกัน 5 คนจาก ต.ม.กว่าจะผ่านได้เป็นชั่วโมงๆเล่นเอาประสาทรับประทานไปตามๆกัน แต่พอถึงเวลาต้องกลับจากรุ๊ปใหญ่ สุดท้ายเหลือไม่เท่าเก่า เพราะส่วนหนึ่งโดนส่งกลับก่อนเข้าเมือง กับอีกส่วนก็ “โดดร่ม”อยู่ที่โน่นเลย…
ทีนี้ก็กลับมาที่บ้านเราครับว่า ปัจจุบันเรามีแรงงานต่างด้าวเป็นล้านๆคน ทั้งที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องอย่างที่ทราบๆกัน แล้วแรงงานบ้านเราไปอยู่ที่ไหนกันหมด เอาแค่ใกล้ๆที่ทำงานครูไก่เมื่อก่อนเคนเป็น “กองบังคับการตำรวจม้า”ปัจจุบันกลายเป็นเป็นแคมป์คนงานก่อสร้างขนาดใหญ่มากครับดูคร่าวๆน่าจะมีคนงานเป็นพันคน แล้วที่แปลกคือเป็นคนต่างด้าว100% ไม่มีแรงงานคนไทยเลยจริงๆ เราไม่ทำงานแบบนี้กันแล้วหรือครับ เราไม่สนใจกับงานก่อสร้างแล้วหรือครับ หากเกิดอะไรขึ้นมาเราจะพัฒนาชาติในสายแรงงานอย่างไรกัน แค่คิดขำๆนะครับเกิดวันหนึ่งแรงงานเหล่านี้มีอันต้องเดินทางกลับบ้านจะด้วยเหตุผลใดก็ช่างไทยเราเดือดร้อนแน่นอน…
จากแคมป์ที้ว่าเนี่ยนะครับส่วนมากจะเป็นแรงงาน“เมียนมาร์” เป็นส่วนมาก จากภาษาพูดกับการแต่งตัวดูได้ครับ นั่นคือ “ภาษากับทาแป้ง” แล้วไทยเราพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันหมด หรือมีงานอะไรทำกันเป็นล่ำเป็นสันกันไปหมดแล้ว หากไปทำการทำงานในที่ซึ่งมีความสุขก็ยินดีด้วย แต่เท่าที่ได้ยินมาเนี่ยมันน่าห่วงอยู่คือ “พวกเราไม่สู้งานกันเลย” แรงงานพื้นที่เป็นพวกจับจดชอบงานสบายแต่อยากได้เงินมากๆ คำพูดเหล่านี้มาจากบรรดาผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการทั้งหลายทั้งปวงที่ครูไก่รู้จัก แรงงานเราเขาเป็นเช่นนั้นจริงรึครับ…ครูไก่ไม่ตัดสินใจ…แต่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันจริงๆนานเข้าอาจจะเชื่อซะดีมั้ง…ออเจ้าเอ้ย…
ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์