คอลัมน์ในอดีต

สายใยสองภพ : ความรัก คือ เมตตา

ความรัก คือ เมตตา

ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงสีนวลของดวงจันทร์แทรกเข้ามาแทนที่ ดวงดาวแห่งความรักส่องแสงประกายแพรวพราวเต็มท้องฟ้า

หญิงชรา…ยังคงสงบนิ่งอยู่บนเรือนไทยหลังเก่าที่ยังคงความงดงามแบบไทย ทอดสายตายาวไปยังลำน้ำโขงในยามรัตติกาล หญิงชรา…สัมผัสดาวแห่งความรักได้ด้วยหัวใจ ด้วยกาย ที่บนปลายฟ้า คู่บุญทั้งสองเฝ้าเจริญเมตตาภาวนาด้วยใจอันบริสุทธิ์เติมใจ เติมฝัน เติมความผูกพัน เติมความเข้าใจ เติมความจริงใจด้วยเยื่อใยอันอ่อนละมุน เติมดวงตาอันอบอุ่นให้กันและกันจนเต็มด้วยเมตตาภาวนา เป็นสิ่งสรรพสัตว์ทั้งหลายมีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เมตตากายกรรมช่วยเหลือด้วยจิตอันบริสุทธิ์หัวใจที่บริบูรณ์ เมตตาวจีกรรมแนะนำสั่งสอนด้วยธรรมอันเป็นธรรมชาติ เมตตามโนกรรม คิดแต่สิ่งดีงามที่ก่อเกิดในหัวใจ จิตที่คิดแต่โอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อแบ่งปันเป็นปัญญาอันวิเศษสุด พุทธธรรมส่งมอบต่อกัน มีความรักในประโยชน์สุขให้กันเสมอ ความรักที่แท้ทำให้เกิดสุขกับทุกชีวิตพร้อมด้วยการเสียสละ พร้อมที่จะช่วยเหลือ รักแท้ต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหา ด้วยคู่บุญ คู่บารมี ที่ร่วมประคองกายใจให้เป็นหนึ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดความสงบร่มเย็น ความรัก ความเมตตา ให้อภัย ใจกอปรไปด้วยธรรมะเหตุผลตั้งมั่นอยู่บนรากฐานของความเมตตาด้วยรักที่มีสติปัญญา คอยเป็นกำลังใจ วางจิตเป็นอุเบกขา พร้อมยอมรับกับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยจิตเป็นกลางรู้เท่าทันสิ่งนั้น เป็นไออุ่นแห่งรักแท้ที่จะมอบให้แก่กัน แม้จะเป็นการรอคอยอันยาวนานชั่วนาตาปีก็อดทนอดกลั้นได้ เพราะความรักแท้นั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ การรักด้วยความเชื่อมั่นมีพลังอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหาสิ่งใดต้านทานได้ ด้วยพลังแห่งบุญแห่งกุศลที่สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตได้ ความรักจึงต้องมีเมตตา กรุณา ซึ่งเปรียบเสมือนสายน้ำที่สรรพสัตว์จะขาดไม่ได้

ความรัก คือ เมตตาปราณี คือ ความชื่นบาน ความรักจึงเป็นพื้นฐานของการกระทำแต่สิ่งดีๆทั้งหลาย เมื่อทำสิ่งใดด้วยความรัก ความเมตตา สิ่งที่ตามมาจึงเป็นอิทธิพลอันทรงพลังต่อความรู้สึกและอารมณ์

ความมืดมิดค่อยๆคืบคลานเข้ามา หญิงชรา ค่อยๆหลับตาลง ภาพของคู่บุญทั้งสองยังคงวนเวียนอยู่ในภวังค์ของหญิงชรา เธอรำพึงแผ่วเบา อย่างนี้เองหนอที่เรียกว่า มีรักและเมตตาต่อกัน ใจจึงเปรียบเสมือนปลา ความเมตตากรุณาเปรียบเสมือนประดุจสายน้ำ คู่บุญบารมี ก็จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น

ขอให้ทั้งสองจงมีความสุขสงบเป็นนิรันดร์ หญิงชราตั้งจิตอธิษฐานพร้อมกับกำหนดลมหายใจเข้า-ออก จนหลับไปในที่สุด

ความรัก คือ เมตตา
กรุณา และปราณี
เร่งสร้างคุณความดี
เพื่อศักดิ์ศรีแห่งสองเรา

ความรัก คือ พลังใจ เริ่มต้นวันใหม่…ดอกไม้นานาพรรณที่ปลูกไว้รอบบ้านเรือนไทยหลังเก่ากำลังเบ่งบานงามสะพรั่งส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิ่งก้านของราชาวดีที่กำลังไหวเอนตามลิ่วลม ถูกเจ้าผีเสื้อที่กำลังบินว่อนดูดหาน้ำหวานจากเกสรช่องามอ่อนละไม กลิ่นอายของน้ำค้างที่ยังเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ใหญ่เรียบริมฝั่งโขง

หญิงชราค่อยๆพยุงตัวขึ้น เมื่อได้ยินเสียงของเจ้าจุก เจ้าเปียที่ส่งเสียงดังมาจากท้ายสวน ยายจ๋าๆหลวงตามาแล้ว เจ้าจุก เจ้าเปียมีหน้าที่ปลุกหญิงชราเพื่อลงมาใส่บาตรริมคลองข้างสวนซึ่งเต็มไปด้วยดอกบัวหลวงที่กำลังชูช่อเปล่งรัศมีสีชมพูสดสวยรับวันใหม่ เจ้าเปียกับเจ้าจุกมักจะเก็บดอกบัวตูมมาให้หญิงชราใส่บาตรหลวงตาในยามเช้า เป็นประจำอย่างนี้ นานแล้วนับตั้งแต่คู่ชีวิตของหญิงชรามาจากไปไกลแสน หญิงชรา…ก็ยังคงดำเนินชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพังด้วยความแข็งแกร่งจากพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ก็จะมีเจ้าจุก เจ้าเปียนี่แหละที่มาคอยวิ่งเล่นซุกซนและเป็นเพื่อนแก้เหงา

หญิงชรา…เตรียมอาหารคาวหวานไว้พร้อมใส่บาตรยามเช้าตั้งแต่ก่อนเข้านอนสม่ำเสมอ จึงไม่รู้สึกยุ่งยากในเวลาเช้า หญิงชราอธิษฐาน สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ อะนาคะเต กาเล ข้าวของข้าพเจ้า ขาวดังดอกบัว ยกขึ้นเหนือหัว ขอถวายพระพุทธ ขอบูชาพระธรรม น้อมนำถวายแด่พระสงฆ์ ด้วยจิตจำนง มุ่งตรงต่อพระนิพพาน ขอให้พบเมืองแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ สาธุ สาธุ แล้วหญิงชราก็บรรจงตักข้าวปลาอาหารด้วยจิตมั่น ดวงตาคู่นั้นยังคงสดใสเต็มเปี่ยมด้วยบุญกุศล เมื่อรับพรจากหลวงตา จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง หญิงชรา…ยังคงเหลียวมองจนเรือพายของหลวงตาไกลโพ้นสุดสายตา แล้วหญิงชรา…ก็เดินไปพร้อมเจ้าจุก เจ้าเปียจนถึงชายหาดริมฝั่งลำน้ำโขง และนั่งลงกับพื้นทรายขาวที่กระทบกับแสงแดดอ่อนยามเช้าเป็นประกายแวบวับ และกรวดน้ำลงบนพื้นทรายขาว โดยมีเจ้าจุก เจ้าเปียนั่งพนมมือแต้อย่างเคย พระจตุโลก พระยมกทั้ง 4 ส่งน้ำอุทิศนี้ เข้าไปในลังกาทวีป ในห้องพระสมาธิ เป็นที่ประชุมการใหญ่ ของพระแม่ธรณี ขอให้พระแม่ธรณี จงมาเป็นทิพยาน เป็นผู้ว่าการในโลกอุดร ในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด นิพพานปัจจโยโหตุ

ภายจิตใต้สำนึกของความทรงจำอันเนิ่นนานของหญิงชรา ยังคงมีพลังมหาศาลรับความรู้สึก และสัมผัสได้ด้วยจิตวิญญาณ หญิงชรา…เชื่อและศรัทธาในความรักของทั้งสองที่สามารถอุทิศชีวิตให้แก่กันและกันทั้งร่างกาย และจิตใจ อุทิศเรี่ยวแรงกำลังให้กันและกัน อย่างไม่นึกเสียดายอะไร ความรักจึงเป็นพลังให้หญิงชรารอคอยวันแห่งความสำเร็จของทั้งสองที่ปลายฟ้า พ้นจากความทุกข์โศกดังพุทธภาษิตที่ว่า ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้ว ไม่มีใครไม่เคยเดินหกล้ม เพราะการหกล้มมันจะรู้สึกเจ็บและยังเป็นการเตือนสติว่าหากเรายังไม่แข็งแรงพอก็ควรต้องเติมพลังให้แข็งแกร่งเสียก่อน ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ยายจ๋า…ยายจ๋า เจ้าเปีย ซึ่งไว้ผมหางเปียเหมือนชื่อ เด็กน้อยตาแป๋วแหวว เอ่ยถาม ยายจ๋า ยายอยู่คนเดียวได้อย่างไร ยายไม่กลัวหรือจ๊ะยาย…? หญิงชรา…ยิ้มแทนการตอบคำถาม ดวงตาคู่ใสของหญิงชรายังจับจ้องไปที่ใบหน้ากลมๆของเจ้าหนูน้อยหางเปียด้วยความเมตตา “โถเอ๋ย…เจ้าเด็กน้อย” หญิงชรารำพึงในใจ ยายอยู่อย่างนี้ได้ก็เพราะยายมีความรักเป็นพลังใจไงล่ะ เจ้าหนูน้อยของยาย…

ความรักคือพลังใจ สร้างขึ้นได้ด้วยศรัทธา
ไม่ต้องแสวงหา เพราะศรัทธาอยู่คู่ใจ