ศรัทธาสร้างพลัง (13)
ศรัทธาสร้างพลัง 13
พลังแห่งการสวดมนต์ จึงเป็นพลังที่สามารถคุ้มครองตัวเรา ผู้เขียนจึงอยากบอกท่านผู้อ่านว่า หากเราเป็นคนคิดบวก มีผลไปยังคนรอบข้างให้คิดบวกในแนวทางของเรา ซึ่งเป็นผลดี คนที่คิดลบถ้าใกล้ชิดเราจะอยู่ได้ไม่นานนัก เขาก็จะจากเราไปเอง หรือไม่ก็หากเราสามารถทำให้เขาคิดบวกตามเราได้ก็จะเป็นอานิสงส์ ถึงแม้จะเหนื่อยหน่อย ก็ได้กุศลมากมายทีเดียวเลยหล่ะและอยากจะอธิบายความหมายสั้นๆของคำว่า ศรัทธา หรือ ความเชื่อ นั้น เป็นการยอมรับเป็นองค์ธรรม สำคัญอันหนึ่ง เมื่อศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้องและใช้ถูกต้องก็ทำให้เกิดปัญญา ศรัทธาประกอบด้วยปัญญา ย่อมไม่หลงงมงายไปในทางที่ผิดเหมือนคนเราศรัทธาใน ศีล สมาธิ และปัญญา ศรัทธาในสิ่งที่มีเหตุผลตรงตามสภาพที่เป็นจริง ผู้เขียนคิดเสมอว่าโชคดีที่ได้เกิดมาในร่มเงาของ “พระพุทธศาสนา” ซึ่งเป็นคำสอนและหลักปฏิบัติที่ทำให้เกิด “พุทธะ” (ผู้รู้, ผู้ตื่น, ผู้เบิกบาน)ในจิต เป็นศาสนาแห่งสติ และปัญญา รู้อะไรเป็นอะไรตามความเป็นจริง สิ่งทั้งปวงล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน และอบรมจิตไม่ให้ยึดถือ ไม่อยากเอา ไม่อยากเป็นอะไร เพื่อให้เข้าถึงซึ่งการดับทุกข์ เป็นศาสตร์แห่ง โพธิปัญญา ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่มีเหตุและผล ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ถือความจริงความถูกต้องตามกฎธรรมชาติ ทันสมัยตลอดกาล พิสูจน์ได้ทุกเมื่อ เป็นศาสนาแห่ง “ความสุข” โดยรู้ ทุกข์ และการดับทุกข์ และเป็นศาสนาแห่งความถูกต้อง เราสามารถศึกษา พระพุทธธรรม ที่เป็นแก่นแท้ แล้วนำไปปฏิบัติ เพื่อเป็น “หลักในการดำเนินชีวิต” ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้อง สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตและที่สำคัญ พระพุทธธรรม มีประโยชน์ยิ่งต่อชีวิต จะก่อให้เกิดความสุขทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างอัศจรรย์
หลักการของพระพุทธศาสนาจึงขึ้นอยู่กับความถูกต้องคือคิดให้ถูกต้อง พูดให้ถูกต้อง ทำให้ถูกต้อง อันจะนำไปสู่ความสะอาด ความสว่าง ความสงบแห่งตน แห่งสัจธรรม ประเทศชาติและแผ่นดิน
ธรรมะ ก็คือธรรมชาติ การศึกษาธรรมะก็คือการศึกษาธรรมชาติ ปฏิบัติตามธรรมชาติ ผลของการปฏิบัติจะปรากฏขึ้นเอง ดวงตาเห็นธรรม ก็คือรู้ธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้โดยปกติสุข ชีวิตคนเราก็เกิดจากธรรมชาติ
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ปาฏิหาริย์ แต่อาจจะยังไม่รู้ที่มาที่ไปของคำว่า ปาฏิหาริย์ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ปาฏิหาริย์นั้นมี 3 อย่าง
อย่างที่หนึ่ง อิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์ในเรื่องฤทธิ์เดช เหาะเหินเดินอากาศ หูทิพย์ ตาทิพย์ ฯลฯ
อย่างที่สอง อาเทศนาปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์ ในเรื่องของการทายใจใครต่อใครว่าคิดอย่างไร
อย่างที่สาม อนุศาสนีปาฏิหาริย์ เป็นปาฏิหาริย์ที่เป็นคำสอนที่เป็นอัศจรรย์ เป็นความจริง และนำไปประพฤติปฏิบัติตามได้ผลจริงเป็นอัศจรรย์อันนี้ทำให้เกิด ปัญญา
ปาฏิหาริย์ทั้ง 3 อย่าง พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ อนุศาสนีปาฏิหาริย์ เพราะเป็นคำสอนที่ได้รู้ความจริง เกิดปัญญาได้เป็นอัศจรรย์
เมื่อเข้าใจ การปฏิบัติธรรม (คำว่า ปฏิบัติธรรม ก็คือ เอาธรรมมาใช้ เอามาดำเนินชีวิตในการทำงาน คือ เอาธรรมะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใช้ในชีวิตจริง)
ซึ่งการปฏิบัติธรรม จะต้องมีความหมายครบ ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ ทาน ศีล ภาวนา
ศีล อยู่ที่ตัวของเราที่มองเห็น คือตัวของเราแสดงออกมาภายนอก ทางกาย ทางวาจา เป็นเครื่องขจัดกิเลสอย่างหยาบ
สมาธิ ลึกเข้าไปข้างในมองไม่เห็น ไม่อยู่ที่ตัวข้างนอก มองไม่เห็นทางวาจา แต่อยู่ที่จิตใจ สมาธิจึงเป็นเครื่องขจัดกิเลสอย่างกลาง
ปัญญา เป็นขั้นที่อาศัยจิตนั้นและทำงาน ให้เกิดความรู้ความเข้าใจในสิ่งทั้งหลาย ก็เกิดปัญญาขึ้น เป็นส่วนที่มาเสริมเพื่อปรับปรุงคุณภาพของจิตใจที่มีความรู้ มีปัญญา และเอาความรู้นั้นมาใช้ปรับปรุงด้านวาจาอีกต่อหนึ่ง อันนี้เป็นเรื่องการปฏิบัติ ปัญญาจึงเป็นเครื่องขจัดกิเลสอย่างละเอียดในจิต
ส่วน ทาน ศีล ภาวนา จะเน้นส่วนภายนอกมากขึ้น เริ่มจากทาน ทานนี้ไปจับที่ของนอกตัวเลย ศีลยังอยู่ที่ตัว แต่ทานนี้ออกไปที่ของนอกตัว เป็นการเอาสิ่งของไปให้แก่ผู้อื่น การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือ พอถึงศีลก็มาอยู่ที่ตัว จากของนอกตัวแล้วมาอยู่ที่ตัว เสร็จแล้วถึงภาวนาก็เข้าไปในตัวเรา ด้านจิตที่เป็นสมาธิกับด้านปัญญา สมาธิกับปัญญา รวมกันเป็นภาวนา ซึ่งหมายถึง จิตตภาวนา เป็นการอบรมด้านจิต และปัญญาภาวนา เป็นการฝึกอบรมด้านปัญญา
หลังจากที่ผู้เขียนสวดมนต์ภาวนา จึงมีแต่คำว่า
“ลูกขอสติปัญญา และดวงตาเห็นธรรม”
มีอะไรมากมายในโลกใบนี้ที่เรายังก้าวเข้าไปไม่ถึงซึ่งการเรียนรู้ แต่มีสิ่งหนึ่งซึ่งผู้เขียนสัมผัสและเชื่อมั่น คือความศรัทธา สามารถสร้างพลังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังแห่งรักและเมตตา ซึ่งไม่มีอิทธิพลใดจะทรงพลังเท่ากับอิทธิพลของความรักความเมตตาที่แม่มีต่อลูก มันเป็นความผูกพันทางใจ เป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ สัมผัสได้ มันยิ่งใหญ่กว้างขวางยิ่งกว่าท้องมหาสมุทร อุปสรรคนานัปการก็มิอาจขวางกั้นได้ เป็นอัศจรรย์ยิ่ง
รักเอย รักแม่คงมั่น รักแม่นั้น แม่ฝันทุกคืน
บางครั้ง แม่ยังเผลอตื่น แม่แอบสะอื้น รำพัน
ลูกเอ๋ย แม่ยังจำมั่น ใจแม่นั้น ไม่เคยลืมเลือน
แม้นานนับปี แสนเดือน ดาวคล้อยเคลื่อน เดือนดับลับไป
ลูกอยู่ไหน ถึงไกลลาลับ ลูกจงกลับ หาแม่ได้ไหม
แม่ไม่เคย ลืมสัญญาใจ แม่ไม่เคยลืม แม้กาลเวลา
อดีตเมื่อครั้งก่อน กลับมาย้อน แม่สะท้อนอุรา
แม่ไม่เคย ลืมคำสัญญา แม่ปรารถนา…ฟากฟ้าเห็นใจ
ความผูกพันอันเกิดจาก จิตอันมั่นคง อาจจะยืนยงคงอยู่ได้ข้ามภพข้ามชาติ ความผูกพันอันเกิดจาก สัญญา แห่งความรักความเมตตาระหว่างแม่กับลูกที่เคยผูกพันกันมาเหมือนการถักทอสายใยแห่งความรักและอาทรเป็นสิ่งสวยงาม และเป็นแนวทางแห่งการสร้างกรรมดี ในภพชาตินี้และชาติภพต่อไป ผลบุญที่ผู้เขียนทำมาในภพชาตินี้จึงทำให้เรามาพบกันลูกจึงเป็นสัญญาณแห่งสัญญา ที่ผู้เขียนเขียนไว้ตั้งแต่ต้นว่าผู้เขียนได้รับ ความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลจากการปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลากว่า 13 ปี ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเป็นความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์แก้วแหวนเงินทองทรัพย์ศฤงคารที่มนุษย์พึ่งปรารถนาหาใช่ไม่
ความสำเร็จของผู้เขียนคือ ครอบครัวเรานั้นมีกัน 6 คน
ความสัมฤทธิ์ผล คือ ลูกๆ ทุกคนใช้ “ผลชีวิน”
มณีจันทร์ฉาย