Sport for Life

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

หลังจากที่หลายประเทศบนโลกใบนี้รอดพ้นจากความทุกข์เข็ญด้วยมหาภัยจากโรคร้ายนามว่า “โควิด-19” เกือบจะกลายเป็น “นรกบนดิน” ที่ทั่วโลกต้องยอมจำนน ประเทศที่เป็นมหาอำนาจทั้งในยุโรปที่มีหัวหอกหลักในการต่อสู้เช่นอังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ ประเทศเหล่านี้ล้วนมีทิศทางในการต่อสู้แบบที่เขาเรียกว่า “รักษากันไปแล้วฟังวิธีการในซีกโลกฟากฝั่งอื่นด้วย” ส่วนในฟากฝั่งอเมริกาทั้งเหนือ กลาง ใต้ หลักการรักษาก็อยู่ที่ สหรัฐอเมริกา ความคิดความอ่านก็มาจากเมืองลุงแซมเขานี่แหละ ไล่เรียงลงมาในเอเชียหลังจากจบวิบากกรรมตลอด 3 ปี มีประเทศเล็กๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ประเทศหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาคุยในเวชการรักษาโควิด-19 นั่นก็คือ “ประเทศไทย” มันเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ประเทศเราคือตัวจริงในการรักษาและสู้รบปรบมือทั้งศาสตร์และศิลป์ที่เรามีกันมาถูกเอามารวมกันแล้วใช้เป็นพลังในการต่อสู้กับเจ้าโรคนี้

วิชาแพทย์สมัยใหม่ที่ใช้รักษาโรคถึงแม้จะอิงฟากฝรั่งมังค่าเป็นหลักแต่เมื่อมาควบรวมกับแพทย์แผนไทยที่เรามีมันกลายเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ ณ เวลานี้คะแนนความสำเร็จในการรักษาโควิด-19 ไทยเราน่าจะอยู่ระดับดีขนาดจะถึงเบอร์ 1 ของโลกก็ว่าได้ พอเมื่อเวลามันผ่านมาทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง มนุษย์บนโลกก็ออกเดินทางไปมาหาสู่กันประเทศที่ใครต่อใครวาดฝันว่าจะต้องมาให้ได้หลังจากโรคร้ายจากไปนั่นคือ “ไทยแลนด์” ของเรานี่แหละ การที่ผู้คนในนาม “นักท่องเที่ยว” เขาให้ความไว้เนื้อเชื่อใจในประเทศใดประเทศหนึ่งเขาอาจจะต้องมองความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไปทั้งความสุขกับพื้นที่และผู้คนประเทศไทยเราอาจจะมีเหลื่อมกันอยู่บ้างในประเทศอื่นๆ แต่พอมาเทียบกับความปลอดภัยจากโรคร้ายของเรากินขาด เพราะเรื่องแบบนี้เราจะพูดเองเออเองมันก็ดูแปลกๆ แต่ในเวทีโลกที่ยอมรับเรื่องราวของเราว่าบ้านเราเมืองเราคือ “สุดยอด” เสียงนี้นักท่องเที่ยวย่อมสบายใจไปตลอดทริป…

เวทีการท่องเที่ยวเราได้ยอมรับนับถือจากผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกว่ามาเมืองไทยแล้วแฮปปี้แน่นอน เอาละกระทรวงนี้ผ่านฉลุยกับคำว่า “ท่องเที่ยว” แต่พอมาถึง “กีฬา” โอ้แม่เจ้าของเราแทบจะติดตามประเทศในยุโรปและอเมริกาไม่ทันเอาจริงๆ เพราะแทบจะทุกอย่างของคำว่ากีฬาเรายังล้าหลังเป็นปีแสง นอกจากกีฬาบางชนิดที่พอจะเคียงบ่าเคียงไหล่ในการจัดการอยู่บ้าง ผมขอยกมวยไทยของสนามมวย “ลุมพินี” ที่พอจะขึ้นหน้าขึ้นแทนสิวเดิมที่เราเคยมีมวย ONE ของสนามนี้เป็นการโปรโมทประเทศในชื่อ “ซอฟพาวเวอร์” แล้วได้ช่อง 7 สีที่มีเครือข่ายทางจิตใจของคนไทยมานานแสนนาน รายการมวยของ ONE จึงไม่ต้องพูดกันอีกต่อไป

อีกชนิดกีฬาก็ต้องเป็น “วอลเลย์บอลหญิง” ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับมวย “ONE” เพราะยามใดที่มีการแข่งขันวอลเลย์บอลของสาวไทยในนามทีมชาติรถโล่งคล้ายสมัย “เขาทราย” เมื่อก่อนตอนนี้นับว่าโจทย์ใหญ่ที่กระทรวงนี้จะต้องมีนโยบายให้ล้อไปกับการท่องเที่ยว ถ้าทำได้ให้สอดคล้องกันรับรองว่ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้นำในการหาเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ ซึ่งสุดท้ายใครที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวนี้จะต้องมีแนวคิดต่อประเทศมากว่าเอามาแขวนหรือที่เมื่อก่อนเป็นแค่กระทรวง “ยี้” เหมือนในอดีต…เรามาจับตาดูกันว่าใครจะมา…เป็นเจ้ากระทรวง

ครูไก่