Interview

สุรชัย โตพานิช

สุรชัย โตพานิช
ที่ปรึกษา บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
กรรมการบริหาร สมาคมเครื่องดื่มแห่งประเทศไทย
“ชีวิต เป็นพรหมลิขิต เป็นวาสนา นำพามาทั้งนั้น”

ไกลเกินฝัน : ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะเดินทางมาถึงจุดนี้ จากเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยที่สุด เป็นลูกน้อง จนสามารถมีลูกน้องคุมกำลังหลายร้อยคน และเกษียณในตำแหน่ง สรรพสามิตภาค ดูแล ภาคเหนือเก้าจังหวัด นับว่าเป็นความภาคภูมิใจในชีวิต เพราะครอบครัวของผมนับว่าเป็นชนชั้นกลาง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็มีความคิดแบบมองการณ์ไกล ให้อิสระเต็มที่ในเรื่องการศึกษา อยากเรียนที่ไหนก็อนุญาต ผมอาศัยเรียนจากโรงเรียนเทศบาล โรงเรียนของรัฐ จนจบชั้น ม.ศ.3 จากนั้นได้มีโอกาสเข้าทำงานตั้งอายุยังน้อย ยังเรียนไม่สูง แล้วค่อยไปเรียนต่อ เสริมคุณวุฒิ หลังจากที่ได้ทำงานไปแล้วอีกพักใหญ่ แต่ก็มีอุปสรรคค่อนข้างเยอะในเรื่องการเรียน เพราะต้องย้ายบ่อย พอย้ายไปที่ไกล ๆ แต่ละครั้ง ก็ทำให้จำต้องทิ้งการเรียนไปหลายรอบ กว่าจะจบปริญญาตรีจาก ม.รามคำแหง สำเร็จได้ ต้องอาศัยความพยายามถึงห้าครั้ง (หัวเราะ)

ข้าราชการ : ครอบครัวของผม ทำงานในแวดวงรับราชการกันหมด คุณพ่อเป็นทหารเรือ คุณแม่ทำงานรถไฟ พอผมเติบโตขึ้นมา ได้เห็นตัวอย่างที่อยากจะดำเนินรอยตาม พอเรียนจบก็สอบเข้ารับราชการ น้องชายก็รับราชการ ผมและภรรยา พร้อมทั้งลูก ๆ อีกสามคน ก็ทำงานรับราชการกรมสรรพสามิต ผมจึงใช้ชีวิตรับราชการมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2520 ถึงปี 2560 กระทั่งเกษียณถึงได้มาช่วยงานบริษัทเอกชน

ทุกทิศทั่วไทย : ผมเกิดที่กรุงเทพ แต่พอเริ่มทำงานก็ต้องเดินทางไปรับหน้าที่ยังต่างจังหวัด เริ่มต้นจาก เชียงใหม่, ศรีสะเกษ, พังงา นครสวรรค์, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, มุกดาหาร กลับมา กรุงเทพฯ ไป สระแก้ว, ปราจีนฯ กลับมา กรุงเทพฯ ไป เชียงราย แล้วมาเกษียณที่เชียงใหม่ เป็นการโยกย้ายไปตามวาระหน้าที่ ครั้งแรกเข้าไปทำงานที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน ประมาณสองปี หลังจากนั้น มาย้ายมาอยู่กับ กรมสรรพสามิต ตั้งแต่ปี 2522 แล้วก็อยู่มาโดยตลอด ผมอยู่ทั้งงานจัดเก็บภาษี ปราบปราม ตรวจสอบ งานควบคุมการจัดเก็บภาษีน้ำมัน ซึ่งเป็นงานที่รู้สึกว่าทำแล้วสนุกที่สุด เริ่มต้นจากไปอยู่โรงกลั่นน้ำมันก่อน มาอยู่ส่วนคืนภาษีน้ำมัน, จัดเก็บภาษีน้ำมัน ส่วนควบคุมน้ำมัน จนได้เป็น หัวหน้าฝ่ายจัดเก็บภาษีน้ำมัน ชอบงานภาษีน้ำมัน หลังจากนั้นก็เจริญเติบโตไปตามสายงาน

กีฬา : ยุคสมัยผมเป็นเด็ก กีฬายอดนิยมที่สุดหนีไม่พ้น ฟุตบอล เพราะเป็นกีฬาของเด็กผู้ชาย ผมก็เล่นจนโต ควบคู่กันกับ ขี่จักรยาน ออกกำลังกายเล่นสนุกไปกับเพื่อน ๆ ตอนทำงานแล้วไปอยู่ตามต่างจังหวัด ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ จะมีการเล่นฟุตบอลกับหัวหน้าส่วนด้วยกัน หรือหัวหน้าส่วนราชการอื่น ๆ มารวมกันทำกิจกรรมด้านกีฬา ส่วนใหญ่ก็เล่นฟุตบอลเป็นหลัก ผมถนัดเล่นตำแหน่งปีก เพราะเมื่อก่อนตัวเล็ก ผอมบาง แต่วิ่งเร็ว จะให้ไปเล่นกองหลังคงสู้ไม่ไหว ช่วงราว ม.ศ.2 เล่นฟุตบอลเยอะ ชอบมาก ๆ ถึงขนาด เคยไปคัดตัวที่สโมสรท่าเรือ สมัยนั้นใครได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลอยู่ในสโมสรนี้ถือว่าสุดยอดมาก ผมก็ได้แค่ไปลองคัดกับเขา แต่ไม่ผ่านรอบแรก (หัวเราะ)

กอล์ฟ : หลังจากเติบโตขึ้นมาทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิพอสมควรแล้ว ผมมีโอกาสได้หัดเล่นกอล์ฟ สมัยก่อนเห็นคนอื่นเล่นกันรู้สึกว่าอยากเล่นบ้าง ถูกชวนให้เล่นก็บ่อยครั้ง จนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะเล่นกอล์ฟมั้ย? คำตอบก็คือ ขอไปลองก่อน อยากรู้ว่ากีฬานี้ที่คนอื่นเล่นแล้วสนุกกัน ถ้าเล่นเองแล้วจะเป็นยังไง กะว่าจะซ้อมสักอาทิตย์นึง ถ้าชอบ ก็จะเล่น แต่ถ้าไม่ชอบ ก็จะเลิกเลย (หัวเราะ) ตัดสินใจเริ่มหัดที่สนามซ้อมแถวประชานิเวศน์ ซื้อเหล็กมาแค่ชิ้นเดียว จากนั้นไปให้โปรจับวงพร้อมกันกับเพื่อนอีกคน ซ้อมอยู่แค่สัปดาห์เดียว ครบกำหนดที่บอกกับตัวเองไว้ ก็เริ่มไปลงสนามจริงเลย ปรากฏว่า ชอบ ติดใจ (หัวเราะ) จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ราวสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปีแล้ว ก็เล่นมาตลอด เสียดายที่เริ่มเล่นค่อนข้างช้าไปหน่อย (หัวเราะ)

ประโยชน์เยอะ : พออายุมากขึ้น ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ฟุตบอล เล่นครั้งสุดท้ายเคยล้ม แล้วไหล่ซ้น หลังจากนั้นรู้สึกขยาด ไม่กล้าเล่นอีก พอมาเล่นกอล์ฟ เป็นกีฬาที่ไม่ปะทะ เลยเล่นมาตลอด แล้วยังเป็นกีฬาที่สอนความเป็นสุภาพบุรุษ เวลาตีไป ไม่มีใครสามารถควบคุมเราได้ อยู่ตรงไหน ไม่มีใครเห็น หากอยู่ในอุปสรรค จะจัดการยังไง ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับใจเราล้วน ๆ การบังคับอารมณ์ บังคับใจให้ได้ว่า จะต้องเล่นยังไง อยู่ในกฎ กติกา มารยาท รักษาวินัยให้ได้ ตีมาดีหรือไม่ดี ก็ต้องรับผลของการกระทำนั้นให้ได้ ที่แล้วก็ให้แล้วไป หลุมต่อไป ต้องตั้งใจทำให้ดี ทำให้ได้ แก้ไขให้ได้ ยิ่งหลังจากเกษียณมาแล้ว ด้วยความที่อาจเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ทำให้มีเพื่อนหลายกลุ่ม หลายก๊วน เข้ามาหมุนเวียนเล่นกอล์ฟด้วยกัน เคยเล่นกอล์ฟติดต่อกันทุกวันเป็นอาทิตย์ หรือช่วงไหนมีจัดแข่งกอล์ฟได้รับเชิญให้ไปเล่น อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งสองครั้ง เลยได้เล่นค่อนข้างเยอะ มาช่วงโควิด จำต้องเพลากอล์ฟลงไป ผมก็หันไปออกกำลังกายโดยวิ่งรอบสระน้ำในหมู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ เน้นให้เหงื่อออก ก่อนกลับเข้าบ้าน แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ก็อยากให้การเล่นกอล์ฟกลับเป็นปกติด้วย (หัวเราะ)

ปัจจุบัน : ผมเป็นที่ปรึกษา บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ช่วยดูแลประสานงานให้กับ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ บริษัทของเรา มีทั้งงานด้านการส่งออก ผลิตขายภายในประเทศ ถ้าน้อง ๆ เกิดปัญหาว่า ถ้าจะส่งออก จะต้องเสียภาษีอย่างไร ผมก็จะแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้ เช่น ต้องเสียภาษีให้ถูกต้อง เพราะเราเป็นบริษัทมหาชน อย่าให้กระทบกระเทือนเสียชื่อเสียง ไม่ให้ผู้ถือหุ้นเกิดการตั้งเงื่อนไข ที่สำคัญคือ เป็นหน้าที่ของพลเมืองและบริษัทที่ดี ที่ต้องเสียภาษีให้กับประเทศชาติ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเมื่อเราทำถูกต้องแล้ว ก็ไม่มีใครจะมาทำอะไรเราได้ และผมยังช่วยประสานงานกับด้านต่าง ๆ ตามที่ได้รับการมอบหมายจากบริษัท

สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย : บริษัทฯ เป็นสมาชิกของสมาคมฯ อยู่แล้ว และได้มอบหมายให้ผมเข้ามาช่วยดู เพราะทางสมาคมฯ มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้หลายหลาก ส่วนหนึ่งของสมาคมฯ ต้องมาเกี่ยวกับสรรพสามิต ทางบริษัทฯ เห็นว่าผมทำงานด้านนี้มาตลอด อาจได้ใช้ความรู้ ประสบการณ์ การประสานงาน ระหว่างสมาคมฯ กับกรมสรรพสามิต เพื่อความสะดวกและคล่องตัวมากขึ้น ถ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี ก็อาจช่วยอธิบายให้สมาคมฯ หรือให้ภาพรวมให้ได้ทราบ ผมจึงมีส่วนร่วมกับสมาคมฯ มาได้ราว 2 – 3 ปี ไม่ว่ามีงานด้านไหนก็ยินดีช่วย ส่วนหนึ่งคือเป็นคณะกรรมการ ไม่จำเป็นว่าจะเป็นเรื่องไหน ถ้าช่วยได้ก็ยินดี ซึ่งกิจกรรมเรามีหลายหลากมาก เช่น การช่วยเหลือสังคมทางด้านต่าง ๆ งานแฟร์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์, กิจกรรมทางการกุศลต่าง ๆ ฯลฯ รวมถึงการจัดกอล์ฟเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกของสมาคมฯ อีกด้วย

อนาคต : ชีวิตผมชอบค้าขาย อยากเปิดร้านขายอาหาร เมนูต้มเลือดหมู เพราะผมชอบทานเอง คิดว่าถ้าเราทำดี ๆ แล้วอร่อย คนกินคงมีความสุข ผมไม่ได้หวังกำไร แค่หวังให้คนกินมีความสุข แล้วผมพออยู่ได้ แต่ ณ ตอนนี้ ผมยังไม่มีสูตรของผมเองเลย อาศัยว่าเคยไปกินร้านไหนอร่อย ก็จำรสชาติได้ แล้วนำมาผสมผสานให้เป็นสูตรของเราเอง แบบนั้นคงได้ (หัวเราะ) แต่ถ้าลึก ๆ ก็ยังอยากไปอยู่ตามต่างจังหวัด ปลูกผัก แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน คิดว่าเราไม่ต้องดิ้นรนแล้ว ยิ่งถ้าบ้านอยู่ใกล้สนามกอล์ฟจะยิ่งมีความสุขมาก ไม่มีสนามกอล์ฟคงเฉา (หัวเราะ) ที่เล็งไว้อาจเป็น เชียงใหม่ เชียงราย ระยอง เพราะมีสนามกอล์ฟเยอะ

วัยเก๋า : อาจเป็นเพราะว่า คนวัย 60 ปัจจุบันนี้ กับเมื่อก่อน คงแตกต่างกัน ทุกวันนี้เทคโนโลยีช่วยเราก้าวไปไกล ความรู้หลาย ๆ เรื่องที่ผมสะสมไว้ อยากจะแชร์ อยากจะช่วยเหลือสังคม บางส่วนอยากจะช่วยน้อง ๆ ยังเสียดายหลาย ๆ ส่วนที่ยังไม่ได้ให้ไป เช่น ด้านงานปราบปราม ผมจบโรงเรียนตำรวจทุกหลักสูตร ด้านงานจัดเก็บน้ำมัน ได้ไปดูงานหลายประเทศมาก น่าจะใช้เวลาเป็นครู เคยเป็นวิทยากรสอนตำรวจปราบปรามน้ำมันเถื่อน เป็นอาจารย์อยู่พักใหญ่ จนกระทั่งมีงานเข้ามาเยอะมากถึงได้จำต้องหยุดไป หลังเกษียณแล้วผมยังเคยเป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ ดูแลเงินพันกว่าล้าน ขณะที่ทำงานอย่างอื่นไปด้วย 3 – 4 งาน ผมได้ทำหลายโครงการซึ่งเกิดประโยชน์ เพราะวันนี้ สหกรณ์ที่เคยดูแล น่าจะเป็นสหกรณ์แห่งที่ 2 หรือ 3 ในประเทศไทย ที่ได้ทำแอปพลิเคชันควบคุมการเงินในสหกรณ์ สามารถดูได้จากทุกที่ เป็นการกำกับดูแลให้เกิดความถูกต้องโปร่งใส ทำให้คนที่ฝากเงินกับสหกรณ์ได้รับความเชื่อมั่นอุ่นใจ ขณะที่แห่งอื่น ๆ อาจยังไม่ได้ทำ ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินว่าที่นั่นที่นี่เกิดการทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายกับสมาชิก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีความมั่นคงทางฐานะมากนัก ยิ่งทำให้เกิดความยากลำบากกับคนเหล่านั้นเป็นทวีคูณ

สัจธรรม : ผมมีวิธีคิดว่า แม้กระทั่งตัวเราเอง เรายังบังคับไม่ได้ สังขารมันมีหน้าที่ต้องเสื่อมสภาพ แก่ไปร่วงโรยไปตามกาลเวลา ฉะนั้น อย่าไปคิดเลย ว่าเราจะบังคับใครได้ ทุกอย่างต้องรู้จักทำใจ ทุกคนที่รู้จักกัน ชีวิตนี้ เป็นพรหมลิขิต เป็นวาสนา นำพามาทั้งนั้น ทำให้เราได้มาพบกัน ดังนั้น ผมจะตั้งใจทำวันนี้ให้ดี ทำกับทุกคนให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ทำใจสบาย ๆ อยู่สบาย ๆ ถึงจะไม่มีเหลือแต่ก็ไม่ถึงกับขัดสน มีความเป็นอยู่สุขสบายตามอัตภาพ ตามกำลังของเรา และชีวิตคือการรับกรรมที่ทำไว้ แต่เป็นกรรมดี ที่เคยทำสะสมไว้ในอดีต ทำให้มีบำเหน็จ บำนาญ มีรายได้จากบริษัทฯ มาช่วยให้ใช้ชีวิตได้มีความปกติสุข และได้เล่นกีฬาที่ชอบนิดหน่อยตามวัยของเรา

คืนกำไร : อยากจะให้ทุกท่านในวัยหลังเกษียณ อย่าไปคิดว่า ถึงเวลาพักผ่อนแบบไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่อยากให้คิดว่า นี่คือเวลาแห่งการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ให้มีประโยชน์ทั้งกับผู้อื่นและตัวเอง โดยไม่ต้องไปหักโหมหรือกังวลว่า นี่คือภาระหน้าที่ที่ต้องแบกไว้ แต่ต้องคิดว่า นี่คือความสุขที่เราจะต้องส่งต่อให้กับผู้อื่น และคืนกำไรให้กับตัวเองด้วย ชีวิตหลังเกษียณ ยังทำอะไรได้อีกเยอะครับ