โค้งสุดท้ายของปีนี่มันเหนื่อย
โค้งสุดท้ายของปีนี่มันเหนื่อย
เหลืออีกเพียงแค่สามเดือนก็จะผ่านพ้นปีกันแล้วนะครับ ซึ่งก่อนหน้าสองปีกว่าๆ เราก็ซวนเซแบบเจียนไปเจียนอยู่ทั้ง “COVID-19” ที่ทั่วโลกก็จัดกันเปรมไปทั่ว ซึ่งขณะนี้บางประเทศเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวเจ้า COVID-19 กันอีกแล้ว ในยุโรปและอเมริกาเปิดหน้าเปิดตาทำมาหากินกันแบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้าจากเรื่องของโรคเข้าสู่ “สงคราม” ที่มีความขัดแย้งแบบเอาเป็นเอาตายจากประเทศที่เป็นหนึ่งเดียวในอดีต พอหมดยุคของ “คอมมิวนิสต์” หลายประเทศก็ตีปีกแยกออกจาก “สหภาพโซเวียต” ไปอยู่กันด้วยตัวของตัวเองกลายเป็นประเทศเล็กประเทศน้อยซึ่งบางประเทศเราเองยังงงๆ อยู่เลยว่า “เขาอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้” เรื่องแบบนี้เราเองหากไม่ได้พบเจอคงไม่เข้าใจหรอกว่า “สงคราม” มันจะนรกสักแค่ไหน โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นเขตการสู้รบ ข้าวของจะแพงขึ้นไปหนักหนาสักเพียงใด พลังงานที่ใช้เติมรถรามันจะทะยานไปติดเพดาน แต่ที่น่าจะตระหนกที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ “ขณะที่เราอยู่ในบ้านมันจะมีอะไรหล่นลงมากลางบ้านกันหรือเปล่า” เรื่องของสงครามเนี่ยมันเป็นความขัดแย้งของคนไม่กี่คนในประเทศที่นำพาประเทศเข้าสู่สงคราม ประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นดีเห็นงามกันด้วยหรือเปล่าไม่ทราบ แต่สุดท้ายความเป็นประเทศประชาชนคือส่วนหนึ่งที่ประกอบขึ้นเป็นประเทศแล้วก็เป็นเฟืองที่ขับเคลื่อนที่สำคัญเสียด้วย..
แล้วประเทศเราที่อยู่ห่างสงครามที่เขาฟัดกันอยู่เป็นสิบกว่าชั่วโมงในการเดินทางด้วยเครื่องบิน แต่ผลกระทบที่ครอบคลุมบนโลกมันมีไปทั่วจาก โควิด-19 สู่สงครามตลาดการค้าขายระหว่างประเทศตอนนี้สาหัสสุดๆ ระบบการเงินปรับเปลี่ยนแทบจะทุกนาทีนี่ดีนะเรายังมีเชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซซึ่งนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานไฟฟ้าอันเป็นปัจจัยในการมีชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ถ้าเป็นเมื่อ 60 ปีก่อนเราใช้ตะเกียงกระป๋องกับน้ำมันก๊าซมันก็ไม่สนใจใยดีอะไรหรอก แต่นี่ไฟฟ้า ประปา เข้าบ้านต้องใช้ไฟฟ้าล้วนๆ ประเทศเราเช่นนั้นเราพอได้…
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การจะไปจะมาของนายกรัฐมนตรีจะอยู่หรือจะไปมันก็ยุ่งเพราะตอนนี้เห็นสองทีมที่อยากจะมาบริหารประเทศจะด้วยสายเดิมที่เคยบริหารกันมา แล้วสายใหม่ที่ดูแลกันมา 8 ปีกว่าๆ ผมเองก็ไม่ทราบว่ามันจะดีหรือจะไม่ดีอย่างไรก็ตามเนื้อผ้าไปก่อนเงินทองร่อยหลอลงไปจะด้วยเหตุอันควรหรือไม่ควรก็ตามประเทศเราก็เดินมาถึงเวลานี้ได้แบบกระท่อนกระแท่นมันก็พอรับได้อยู่ แต่ไอ้ที่ตั้งป้อมจะเล่นงานกันก่อนจะเกิดการเลือกตั้งหาคณะผู้บริหารประเทศชุดใหม่เห็นทีจะส่อเค้ายุ่งวุ่นวายกันอีกแล้ว แล้วสุดท้ายเราจะได้ใครมาดูแลประเทศก็ขอให้เห็นแก่ประเทศที่บอบซ้ำกันมายาวนานจากเหตุภายนอกและภายใน ตอนนี้ผู้คนก็ตั้งหน้าตั้งตาจะเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เราเองมีความแข็งแกร่งในเรื่องนี้อยู่มาก เชื่อว่าเราไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เรื่อยร่มไทยเรานี่แหละจะเป็นหนึ่งในการฟื้นตัวในแนวหน้าของโลก แต่คนที่จะเข้ามาบริหารประเทศยังตั้งท่าจะกีดกันอยู่ระวังประเทศนี้เขาจะไม่ให้โอกาสท่านอีกนะครับ
ครูไก่