สัพเพฯ กอล์ฟ

เตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ

เตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ

ในเรื่องของการศึกษา ณ เวลานี้ประเทศไทยเราอย่าได้พูดคำว่าเสมอภาคกันเลยนะครับ ที่อยากเขียนเรื่องนี้เพียงแต่อยากจะบอกว่า “เด็กบ้านเราควรปรับตัวให้เข้ากับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน” เอาที่เห็นชัดๆ การศึกษาภาคบังคับปัจจุบันต้องจบ ม.3 เป็นอย่างต่ำส่วนใครจะกระโดดโลดเต้นลุยต่อไปอีกสามปีถึง ม.6 ก็เป็นบุญของตระกูลนั้นไปที่มีลูกๆ ใฝ่ดีใฝ่งามหรือใครจะออกนอกแนวทางที่ว่าไปสายอาชีพมันก็ไม่แปลกแต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องมีคือ “ค่าใช้จ่าย” ที่ต้องอยู่ในภาวะจำยอมว่าต้องมี แล้วมีแบบไม่ลำบากในอนาคตกันอีกด้วย ครูไก่เองก็ไม่ได้มีครอบครัว คงมีแต่หลานที่ปัจจุบันก็จบๆ กันไปหมดแล้วภาระต่างๆ ก็ทุเลาเบาบางกันไป ส่วนค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหนผมเองไม่เคยคิดเลยเพราะนั่นคือ “หลานของลุง” เรามีก็ให้ไม่มีก็ไปหยิบยืมเขามา พอเราทำมาหากินได้แล้วเอาไปคืนเขาก็เท่านั้นเอง…

ลองกลับมาเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้กับโรงเรียน “นานาชาติ” เอาแค่อนุบาลก่อนเข้า ป.1 ก็เป็นแสนๆ เสื้อผ้าต้องเป็นของโรงเรียน ชุดต่างที่นอกเหนือจากมันก็มีโขอยู่สรุปรวมๆ แล้วรูดบัตรไปทีเป็นหมื่นๆ นี่ยังไม่รวมค่าเล่าเรียนอีกต่างหากปีหนึ่งๆ เราจ่ายเงินไปกับค่าศึกษาที่เป็นหลักสูตร “นานาชาติ” เป็นพันล้านได้นะครับ แล้วเด็กเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็ออกไปทำงานในต่างประเทศ บางส่วนอาจเข้ามาดูแลกิจการของครอบครัวตัวเองหรือบางคนอาจไปสร้างงานของตัวเองในประเทศผมก็ถือว่าดีเหมือนกัน…

ครูไก่ในแวดวงที่มีผู้คนเขามีฐานะทางสังคมค่อนข้างดี ลูกหลานที่สอนก็เกือบจะทั้งหมดก็อยู่โรงเรียน “นานาชาติ” ส่วนจำนวนน้อยบางส่วนก็เป็นโรงเรียนสตรีคริสต์ที่เก่าแก่ก็วนอยู่นี่แหละ เซนต์โยฯ มาแตร์ฯ…วัฒนาฯ..หรือจะเป็นสาธิตต่างๆ เท่านั้นเอง ดังนั้นเด็กกลุ่มที่สอนก็มักจะเล่นกีฬาเพื่อออกกำลังกายหรือ “ฆ่าเวลา” ที่มาคอยเรียนกีฬาชนิดอื่นๆ ดังนั้นจากช่วงที่เด็กโรงเรียน “นานาชาติ” ปิดเทอมมานี่ครูไก่ต้องสอนตั้งแต่ 6 โมงเช้าบางวันเกือบ 3 ทุ่ม เว้นกลางวันแค่ 2 ชั่วโมงเอง… รายได้มันก็พอจะเก็บได้เป็นกอบเป็นกำอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ อายุอานามที่มากขึ้นการจะมาฝืน “สังขาร” ยืนสอนวันหนึ่งนับสิบชั่วโมงมันคงทำได้อีกไม่กี่ปีหรอก  ยิ่งตอนนี้สนาม “เทนนิส” ที่เคยสอนกำลังจะปิดเพื่อการก่อสร้างหลังคาเพื่อเวลาฝนตกแดดออกจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรกันอีกต่อไป…เห็นว่าใช้เวลาในการก่อสร้างรวมๆ 6 เดือนกันเลยทีเดียว แบบนี้การหาสนามสำรองกับงานที่สองที่เคยคิดไว้มันจะได้เป็นมรรคเป็นผลเสียที… จาก CAMP ของเด็กๆ คราวนี้ทำให้ครูไก่ได้ยินอะไรหลายๆ ประโยคจากตัวเด็กนานาชาติที่พูดออกมาแล้วแทบไม่เชื่อว่าเด็กๆ จะพูดออกมาได้ เพราะเด็กๆ เหล่านั้นถูกปลูกฝังอะไรมาจากโรงเรียนหรือใครที่พูดถึงเด็กนักเรียนกับโรงเรียนไทยในทางที่ไม่ถูกไม่ต้องเท่าที่ควรนัก

แต่จะอะไรก็ช่างผมขอหาข้อมูลก่อนครับก่อนนำเสนอเป็นบทความลงไปดีไม่ดีอาจถูกฟ้องจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันตอนแก่มันจะยุ่งกันไปหมด ของแบบนี้เอาเป็นว่าจะทำอะไรก็ต้องวางแผนให้รอบคอบรายได้ทางเดียวเวลานี้มันไม่ได้แล้วครับ การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจะต้องไม่เกิดขึ้นแล้วในเวลานี้ คิดให้รอบคอบแล้วเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ รับรองผลว่าใจสบายแน่นอนครับ….

ครูไก่