อาหารบำรุงเอ็น
อาหารบำรุงเอ็น
เป็นที่ทราบกันดีว่า กอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความยื ดหยุ่นของร่างกายสูงมาก เราจึงต้องยืดเหยียดกล้ามเนื้ อให้ดีและยืดให้สุดช่วง เพราะในการตีกอล์ฟเราบิดกันเต็มที่มาก ดังนั้นการบาดเจ็บในกีฬากอล์ฟมั กจะเกิดบริเวณข้อต่อ เอ็นและหัวกล้ามเนื้อ
ความรู้เรื่องอาหารบำรุงเอ็นนี้ สรรหามาตอนที่เพื่อนเอ็นฉี กระหว่างฝึกซ้อม ทิพย์จึงโทรไปปรึกษาอาจารย์ ทางโภชนาการกีฬาว่า ควรบำรุงอะไรเพิ่มดี เพื่อให้เอ็นหายเร็วที่สุดควบคู่ กับการกายภาพบำบัดไปด้วย เพราะความเป็นนักกีฬาอาชีพ ถึงแม้การรับประทานอาหารเสริมช่ วยจะทำให้หายเร็วขึ้น 5 วัน เราก็เท่ากับว่า ได้กลับมาเตรียมตัวซ้อมเพื่ อลงแข่งได้เร็วขึ้น พวกเราเวลาบาดเจ็บขึ้นมา จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ร่ างกายกลับมาพร้อมแข่งได้เร็วที่ สุด
อาจารย์อรวรรณ ภู่ชัยวัฒนานนท์ อาจารย์ด้านโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แนะนำให้หาอาหารเสริมมาบำรุง ดังนี้ค่ะ
1. กลูโคซามีน เป็นอาหารเสริ มบำรุงข้อต่อ ทำให้หมอนรองกระดูกที่มีลั กษณะคล้ายๆ เยลลี่ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะกลูโคซามีนเป็นสารตั้งต้ นในการสร้างสารประกอบสำคั ญของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ กลูโคซามีนยังช่วยยั บยั้งการทำงานของสารอักเสบได้ หลายชนิด จึงมีผลในการลดอาการอักเสบของข้ อด้วย
แต่ถ้าใครที่มีอาการแพ้ อาหารทะเลหรือเป็ นโรคเบาหวานควรระมัดระวั งในการรับประทานอาหารเสริมกลูโค ซามีนค่ะ เพราะว่ากลูโคซามีนส่ วนใหญ่มักผลิตขึ้นมาจากเปลื อกของกุ้งและปูค่ะ
โดยปกติ สารกลูโคซามีน ร่างกายของเราสามารถสร้างเองได้ อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าในชีวิตประจำวันที่ยั งไม่มีการบาดเจ็บก็ยังไม่ต้องรั บประทานเสริมก็ได้ค่ะ ร่างกายเราจะเริ่มสร้างสารตัวนี้ ได้ช้าลง ก็หลังอายุ 30 ปีไปแล้วค่ะ
2. คอนดรอยติน สารตัวนี้ จะพบได้ตามเนื้อเยื่อของข้อต่ อส่วนต่างๆ ในร่างกาย และบริเวณกระดูกอ่อน การรับประทานคอนดรอยตินเสริม จะช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่ อกระดูกอ่อนตามข้อต่อต่างๆ ทำให้บริเวณข้อต่อมีความยืดหยุ่ นดี
นอกจากนี้ คอนดรอยตินยังช่วยดูดน้ำในร่ างกายไปเลี้ยงกระดูก ถ้าเราขาดคอนดรอยติน กระดู กของเราก็จะแห้ง พรุน เปราะง่าย ยิ่งถ้าเราดื่มกาแฟ น้ำอัดลม สูบบุหรี่เป็นประจำแล้วไม่ ออกกำลังกาย เราจะเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนค่ ะ
ในช่วงที่นักกีฬาบาดเจ็บ คุณหมอมักให้รับประทานกลูโคซามี นควบคู่กับคอนดรอยตินด้วย เพื่อให้ร่างกายเสริมสร้างเนื้ อเยื่อได้เร็วขึ้นค่ะ
3. คอลลาเจน เนื่องจากโครงสร้ างเนื้อเยื่อของเอ็นทำมาจากคอลล าเจน ในยุคนี้ เรามักจะได้ยินแต่คุณผู้หญิงฮิ ตบำรุงคอลลาเจนกันทั้งชนิ ดทาและรับประทานเพื่อให้ผิวพรรณ ดูเรียบเนียนเปล่งปลั่ง แต่ความจริงแล้ว คอลลาเจนไม่ได้ มีประโยชน์กับผิวเพียงอย่างเดี ยวค่ะ คอลลาเจนยังมีส่วนช่ วยในการสร้างเอ็นได้อีกด้วย ซึ่งคอลลาเจน มีในรูปแบบที่เป็ นอาหารเสริมและมี ในอาหารธรรมชาติ ซึ่งเราจะหาอาหารที่มีส่ วนประกอบของคอลลาเจนมากมารั บประทานก็ได้เช่นกันค่ะ สารคอลลาเจนจะมีในเอ็นสัตว์ต่ างๆ ช่วงที่บาดเจ็บ เอ็นอักเสบฉีกขาด อาจจะสรรหาเมนูใหม่ เช่น เอ็ นหมูตุ๋น หรือจะเป็นเอ็นวัวตุ๋นมารั บประทานระหว่างบาดเจ็บก็เป็นอี กทางเลือกหนึ่งเช่นกันค่ะ
4. วิตามินซี เป็นส่วนสำคั ญในการสร้างคอลลาเจนและซ่ อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย ทั้ งนี้วิตามินซี ยังใช้รักษาโรคข้อเสื่อมได้อี กด้วย ดังนั้นการรับประทานวิ ตามินซีไปพร้อมกับการรับประทานค อลลาเจนหรือกลูโคซามีน จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปซ่ อมแซมเอ็นและข้อได้อย่างมีประสิ ทธิภาพมากขึ้นค่ะ
5. วิตามินรวมและเกลือแร่ โดยเฉ พาะวิตามินบีและอีนั้น มีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องข้ อเสื่อม อาการปวดตามข้อ อาการข้อต่อติดต่างๆ ในแร่ธาตุ แมกนีเซียม จะช่วยลดอาการปวดและอั กเสบของเอ็นและกล้ามเนื้อลงได้ ด้วยค่ะส่วนแมงกานีสก็ช่ วยลดอาการปวดในข้อเสื่อมได้อี กด้วย
ดังนั้นช่วงที่เราบาดเจ็บ เราควรหาวิตามินรวมเกลือแร่มารั บประทานวันละเม็ด เพื่อให้มั่นใจว่า เราได้รับวิตามินเกลือแร่ที่ จำเป็นครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายสร้างและซ่ อมแซมเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิ ทธิภาพค่ะ
นอกจากนี้ อาหารบำรุงเอ็นที่เราควรรั บประทานในชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ต้องรอให้เอ็นฉีก ได้ แก่ ข้าวกล้องเม็ดบัว โดยเฉพาะในถั่วและธัญพืช ต่างๆ ค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้มีส่ วนประกอบของวิตามินบีรวมหลายชนิ ด และแร่ธาตุจำพวก แมกนีเซียม แคลเซียม และแมงกานี สเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเอ็ นและข้อต่อค่ะ
แม้ว่าในวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน เราก็อย่ามองข้ามการดูแลสุ ขภาพตนเองค่ะ สมมติว่า ร่างกายของเราเหมือนกับรถยนต์ เราต้องหมั่นเช็คลมยาง เช็คแบตเตอร์รี่ ทุกสัปดาห์ เช็คระยะทุกหมื่นกิโลเมตรหรือทุ กๆ 6 เดือน พอเจออะไรเสีย เราจะได้รีบเปลี่ยน รีบซ่อมได้ทัน ก่อนที่มันจะส่งสัญญาณไม่ดี ออกมา ร่างกายของเราก็เช่นกันค่ะ ขณะที่มันยังดีๆ อยู่ เราก็ควรจะดูแลมันให้ดีเหมือนกั บที่เราใช้มันช่วยเราทำงานค่ะ
ร่างกายใช้ไปอย่างเดียว ถ้าไม่ได้ซ่อมแซม ดูแลรักษา ตั้งแต่มันยังดีๆ อยู่ มันก็พังเร็วเหมือนกันค่ะ
ถ้าเปรียบร่างกายเราเหมือนกับขว ดน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มขวด หากเราใช้น้ำไปทุกวันๆ โดยลืมเติมน้ำเข้าไปในขวดสักวั นหนึ่ง น้ำก็จะหมดขวดค่ะ
อย่าลืมเติมน้ำให้ตนเองทุกวั นนะคะ
ที่มา : ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
โปรทิพย์ สีอัมพรโรจน์