9 พฤติกรรมของพ่อแม่ทำให้ลูกพบกับความล้มเหลว
9 พฤติกรรมของพ่อแม่ทำให้ลูกพบกับความล้มเหลว
ความล้มเหลวของเด็กที่บั่นทอนการดำเนินชีวิตของเขาในอนาคตไม่ใช่ผลการเรียนแต่เด็กที่ไม่ประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มีปัญหาในเชิงพฤติกรรมและทัศนคติที่ผิดๆเช่น
-ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
-ขาดภูมิต้านทานต่อสิ่งที่ยั่วยุต่างๆที่ไม่ดีในสังคม
-ขาดทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
-มองโลกในแง่ร้าย
-มองโลกในแง่ดีเกินไป จนไม่เฉลียวใจเพื่อป้องกันปัญหาไว้ล่วงหน้า
-ขาดทักษะการบริหารความเครียดและแรงกดดัน
-ขาดวินัยและความรับผิดชอบในตัวเอง
-ขาดทักษะในการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจที่ดี
จากงานวิจัยที่ได้ศึกษาถึงภูมิหลังของเด็กที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต พบว่ามีสาเหตุมาจากพฤติกรรมและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ 9 อย่างคือ
1. ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง พฤติกรรมนี้จะทำให้ลูกขาดความมั่นใจในตัวเองขาดทักษะในการตัดสินใจและจะไม่ยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ขาดภูมิคุ้มกันจากสิ่งยั่วยุต่างๆ
ขาดความอดทนต่อแรงเสียดทานและแรงกดดันจากสังคม พ่อแม่ควรจะเปิดโอกาสให้ลูกได้เสนอแนวทางในการตัดสินใจต่อสถานการณ์ต่างๆหรือจะสร้างตัวเลือกให้ลูกได้เลือกตัดสินใจด้วยตัวเอง
2. ใช้คำพูดรุนแรงกับลูก ตะคอกหรือใช้คำพูดในเชิงดูถูกลูกหรือเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น ผมคิดว่าการด่าทอ ดูถูกลูกไม่เกิดประโยชน์ใดใดเลยไม่ว่าลูกจะยอมรับหรือต่อต้านก็มีผลเสียทั้งนั้น สิ่งที่พ่อแม่ควรทำคือพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผลหรือถ้าพ่อแม่อยู่ในอารมณ์ที่ไม่พอใจอย่างมาก ผมว่าใช้ความเงียบตอบโต้พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของลูกจะดีที่สุด จนกระทั่งคุณพ่อแม่และลูกอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมแล้วจึงค่อยพูดคุยกันด้วยเหตุผล
3. พยายามควบคุมพฤติกรรมของลูกมากเกินไป เอะอะก็ออกคำสั่งโดยที่ลูกไม่มีโอกาสได้ชี้แจง หรือนำเสนอความคิดเห็นของเขา พฤติกรรมแบบนี้ของพ่อแม่จะทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่ขาดความคิดสร้างสรรค์ ขาดทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา และกลายเป็นคนหนีปัญหาในที่สุด ผมคิดว่าสิ่งพ่อแม่ควรจะทำก็คือ ตกลงกติการ่วมกันกับลูก ควรพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผลรับฟังเหตุผลของลูกบ้าง เพื่อให้กติกาที่เกิดขึ้นเป็นการตกลงร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูก ไม่ใช่ออกคำสั่งเด็ดขาดจากพ่อและแม่ หากกติกาที่เกิดขึ้นเป็นการตกลงร่วมกันการปลูกฝังให้เขาเคารพกติกาก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะกติกาไม่ใช่คำสั่งของพ่อแม่และเป็นข้อตกลงร่วมกัน
4. ปล่อยให้ลูกนอนดึกตามใจชอบเชื่อไหมว่าการที่เด็กนอนดึกมากๆมีผลกระทบเชิงลบต่อการพัฒนาการสมอง ร่างกาย และอารมณ์ของเด็ก ดังนั้นคุณพ่อแม่จึงควรตกลงกับลูกเสมอว่าลูกควรจะเข้านอนกี่โมงตามตารางในแต่ละวัน เวลาไหนควรเล่น เวลาไหนควรอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด เพื่อจะได้ฝึกระเบียบ วินัย เป็นคนตรงต่อเวลาได้อีกด้วย
5. ปล่อยให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือ ดูทีวี แท็บเลต ตั้งแต่ยังเล็กมีงานวิจัยยืนยันว่าการให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือมีผลต่อการพัฒนาทักษะการอ่านและคณิตศาสตร์ อีกทั้งยังมีผลให้ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าวและชอบความรุนแรงอีกด้วย
6. ชอบออกคำสั่งกับลูกโดยอ้างความเป็นพ่อแม่ให้ลูกต้องเชื่อฟัง บางครั้งก็พูดถึงความคาดหวังของคุณพ่อแม่เองเพื่อให้ลูกทำให้ได้ เช่น ลูกต้องสอบได้เกรด 4 ทุกวิชา ลูกต้องได้ที่หนึ่งจากการแข่งขันโดยที่คุณพ่อแม่ไม่อธิบายถึงเหตุผล ตลอดจนคุณประโยชน์และโทษในกรณีที่ลูกทำได้หรือไม่ได้ งานวิจัยบงชี้ว่ายิ่งคุณพ่อแม่สั่งแบบไม่มีเหตุผล ยิ่งคาดหวังแบบไม่อธิบายโดยเฉพาะในเรื่องของการเรียนแทนที่ลูกจะมีผลการเรียนที่ดี กลับมีผลการเรียนที่แย่ลงด้วย
7. เล่นโทรศัพท์มือถือต่อหน้าลูกบ่อยๆ คุณพ่อแม่ที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือต่อหน้าลูก จะทำให้ลูกรู้สึกว่าเค้าไม่ได้เป็นที่สนใจของคุณพ่อคุณแม่ มีงานวิจัยเชื่อว่าอาจจะมีผลเสียต่อพัฒนาการของลูกได้
8. ทิ้งระยะห่างระหว่างตัวเองกับลูกมากเกินไปหรือไม่มีเวลาให้กับลูกมากพอ ทำให้ลูกรู้สึกขาดความอบอุ่น ซึ่งคุณพ่อแม่คงทราบอยู่แล้วว่า เมื่อลูกรู้สึกว่าตนเองขาดความอบอุ่นจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมของลูกได้ ผมเข้าใจดีปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ จะต้องทำงานจึงไม่มีเวลาให้กับลูกมากนักแต่ผมเชื่อว่าเราสามารถทำเวลาที่มีอยู่ให้กลายเป็นเวลาที่มีคุณภาพได้
9. ตีลูก การตีลูกไม่ได้ช่วยปรับพฤติกรรมของลูกเลย หนำซ้ำยังอาจจะทำให้ลูกมีนิสัยก้าวร้าวและมีผลต่อการพัฒนาการด้านสติปัญญา ผมวิเคราะห์เองว่า การตีคือการใช้ความเจ็บปวด สอนให้ลูกไม่กล้าทำสิ่งอะไรบางอย่าง โดยที่เค้าไม่ได้เรียนรู้เหตุผลเลยว่า สิ่งที่เขาทำไม่ดีอย่างไร ไม่ถูกต้องอย่างไรคุณพ่อแม่บางท่านอาจจะมีข้อถกเถียงว่า แต่พฤติกรรมที่ไม่ดีบางอย่างของลูกก็หายไปหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ตีลูก ผมเชื่อว่าพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้นหายไปไม่ใช่เพราะเขาเข้าใจว่าไม่ดี ไม่ควรทำ เพียงแต่เขากลัวความเจ็บปวดจากการถูกลงโทษก็เลยไม่แสดงพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้น สิ่งเหล่านั้นอาจจะถูกกดเอาไว้ก็ได้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ความเจ็บปวดข่มขู่เขาไม่ได้อีกต่อไป พฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านั้น ก็อาจจะหวนกลับมาอีกก็ได้
นี่คือ9 พฤติกรรมร่วมของคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกจนเติบโตมา กลายเป็นเด็กที่ไม่ประสบความสำเร็จผมว่าน่าเชื่อถือมากทีเดียวคิดว่าทั้ง9 ข้อนี้น่าจะเป็นกระจกสะท้อนให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการเลี้ยงดูลูกที่เราน่าจะลองใช้เป็นกระจกส่องดูตัวเองเหมือนกันนะครับ
ดร. อมร นันทวะกุล
Cr หนังสือ “ปูทางให้ลูกไปสู่ เส้นชัย ที่ลูกหวัง” เขียนโดย ดร. วิโรจน์ ลักณาอดิศร