‘คิม เซย์-ยัง’ ซิวแชมป์ วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ
‘คิม เซย์-ยัง’ ซิวแชมป์เมเจอร์แรก
กอล์ฟวีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ
คิม เซย์-ยัง นักกอล์ฟสาวจากเกาหลีใต้คว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตหลังหวด 7 อันเดอร์พาร์ 63 ซึ่งเป็นสกอร์ต่ำสุดในการเล่นรอบสุดท้ายของรายการนี้ ก่อนคว้าแชมป์วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 134 ล้านบาท ณ สนาม อาโรนิมิงค์ กอล์ฟ คลับ สหรัฐอเมริกา
ชัยชนะรายการนี้ทำให้ คิม เซย์-ยัง สาววัย 27 ปีจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่เก้าที่มาชนะเมเจอร์แรกได้สำเร็จ จาก 10 รายการเมเจอร์หลังสุดของวงการกอล์ฟสตรี โดยในรอบสุดท้ายที่ อาโรนิมิงค์ ในนิวทาวน์ สแควร์ เพนซิลวาเนีย นั้นเธอไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว
“มันมีความหมายเป็นอย่างมากสำหรับฉัน” คิม กล่าว “มันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เหมือนกับความฝันที่เป็นความจริง ฉันรอคอยมาระยะหนึ่งแล้วกับการบรรลุเป้าหมายใหญ่ในอาชีพของฉัน ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก คล้ายกับฉันเอาชนะตัวเองสำเร็จ มันมีความสุขมากสำหรับแชมป์เมเจอร์แรก”
คิม เซย์-ยัง นักกอล์ฟมืออันดับเจ็ดของโลกจบสกอร์ 72 หบุทเป็นสถิติของทัวร์นาเมนท์ที่ 14 อันเดอร์พาร์ 266 ทิ้งห่างเพื่อนร่วมชาติ ปาร์ก อิน-บี ถึง 5 สโตรก ขณะที่ นาซะ ฮาตาโอกะ จากญี่ปุ่น และ คาร์โลตา ซิกันดา จากสเปน จบอันดับสามร่วมกันด้วยสกอร์ 273
“เซย์-ยัง แทบจะแตะต้องไม่ได้เลย” ปาร์ก กล่าว “วันนี้เธอเล่นกอล์ฟได้ดีมากๆ ฉันต้องขอแสดงความยินดีกับเธอด้วย วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมของเธอ ที่สำคัญเธอเล่นในรอบสุดท้ายได้อย่างที่แชมเปียนเล่น มันเป็นเรื่องดีมากที่ได้เห็นอย่างนั้น”
สกอร์ 63 ในรอบสุดท้ายของ คิม เซย์-ยัง เทียบเท่ากับสถิติ 18 หลุมในรอบสุดท้ายตลอดกาลของทัวร์นาเมนท์เทียบเท่ากับที่สาวอเมริกัน แพตตี ชีฮาน เคยทำได้ในปี 1984 และ เมก มัลลอน ทำไว้ในปี 1999 ขณะที่ เคลลี ชอน นักกอล์ฟจากเกาลีใต้เคยทำได้ในปี 2017
คิม มีโอกาสที่จะจบรอบสุดท้าย 62 แต่เธอพลาดเบอร์ดี้ระยะ 15 ฟุตบนกรีนหลุมสุดท้าย ซึ่งเธอกล่าวว่า “สนามกอล์ฟแห่งนี้มีความท้าทายมากๆ ฉันเพียงพยายามมีสมาธิกับช็อตที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น เป็นหนึ่งในสนามที่ยากมาก”
“บางทีฉันถึงกับสั่นหัวและเขย่าขาของตัวเอง แต่นั่นก็ทำให้ฉันสามารถโฟกัสได้ และในที่สุดฉันก็บรรลุหนึ่งในเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดในอาชีพได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุด”
นอกจากนั้น คิม เซย์-ยัง ยังทำลายสถิติ 72 หลุมของทัวร์นาเมนท์ที่ เบสตี คิง สาวอเมริกันเคยทำไว้ 267 เมื่อปี 1992 ในการแข่งขันที่ เบเธสดา (แมรีแลนด์) คันทรีคลับ ด้วย
การคว้าแชมป์ครั้งนี้นับเป็นชัยชนะในแอลพีจีเอรายการที่ 11 ในชีวิตของ คิม เซย์-ยัง และเป็นการกลับมาชนะอีกครั้งนับตั้งแต่คว้าแชมป์ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
“แน่นอนที่สุดว่ามันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกัน” คิม กล่าว “ชัยชนะในทัวร์ แชมเปียนชิพ มันยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้น แต่ชัยชนะในรายการนี้มันเป็นการคว้าแชมป์ที่มีคุณค่าทางด้านจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฉันสามารถสำเร็จตามเป้าหมายใหญ่ของฉันได้”
ก่อนหน้านี้ คิม เซย์-ยัง นับเป็นหนึ่งในผู้ชนะแอลพีจีเอทัวร์ที่ปราศจากแชมป์เมเจอร์ แชมเปียนชิพ มายาวนาน ซึ่งเธอกล่าวว่า “ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ามันยาวนานขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมาก และที่สาคัญฉันสามารถซ่อนน้ำตาแห่งความดีใจไว้ได้ด้วย”
ผลงานในรายการระดับเมเจอร์ก่อนหน้านี้ คิม เซย์-ยัง เคยจบการแข่งขันด้วยตำแหน่งรองแชมป์ 2 ครั้ง ในรายการ เอเวียง แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2018 และ วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2015
“ฉันพยายามอยู่ในเกมแพลนของตัวเองตลอดเวลา” คิม กล่าว “พยายามมีสมาธิกับช็อตที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น ฉันไม่ได้ต้องการเล่นในแบบที่ว่านี่เป็นการแข่งขันรอบสุดท้าย แต่ฉันพยายามรักษาโมเมนตัมที่ทำให้ฉันเล่นได้ดีตลอดทั้งสัปดาห์ มันเวิร์กมาก”
ส่วนผลงานของนักกอล์ฟไทยในรายการนี้ที่ดีที่สุดเป็น โมรียา จุฑานุกาล ซึ่งในรอบสุดท้ายตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 71 รวมสี่วันจบอันดับสิบแปดร่วมกับ ลิเดีย โค อดีตมือหนึ่งโลกจากนิวซีแลนด์ ด้วยสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 283
สำหรับผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่นๆ “โปรจัสมิน” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ จบอันดับยี่สิบสามร่วมด้วยสกอร์ 4 โอเวอร์พาร์ 284,เอรียา จุฑานุกาล สี่วัน 7 โอเวอร์พาร์ 287 จบอันดับสามสิบเจ็ดร่วมกับ เซลีน บูติเย่ร์ โปรสาวชาวฝรั่งเศสเชื้อสายไทย, “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ จบอันดับสี่สิบแปดร่วมด้วยสกอร์ 9 โอเวอร์พาร์ 289 และ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ จบอันดับเจ็ดสิบสี่ด้วยสกอร์ 19 โอเวอร์พาร์ 299
สรุปผลวีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ (สนามพาร์ 70)
266 คิม เซย์-ยัง (เกาหลีใต้) 71-65-67-63
271 ปาร์ค อิน-บี (เกาหลีใต้) 70-70-66-65
273 นาซะ ฮาตาโอกะ (ญี่ปุ่น) 72-69-68-64
273 คาร์โลตา ซิกันดา (สเปน) 68-69-71-65
276 แอนนา นอร์ดควิสต์ (สวีเดน) 69-68-68-71
277 บรูค เฮนเดอร์สัน (แคนาดา) 71-69-65-72
279 ชาร์ลีย์ ฮัลล์ (อังกฤษ) 70-71-69-69
279 เจนนิเฟอร์ คัพโช (สหรัฐฯ) 72-65-71-71
280 ลอเรน สตีเฟนสัน (สหรัฐฯ) 70-68-74-68
280 บริตตานี ลินซิคัม (สหรัฐฯ) 67-72-72-69
280 กาบี โลเปซ (เม็กซิโก) 68-72-68-72
280 เบียงกา แพกแดนกานัน (ฟิลิปปินส์) 77-65-65-73