Golf NEWS

อาฒยา คว้าแชมป์อาชีพที่ 3 สิงห์-เอสเอที สนาม 7

“อาฒยา” หวดรวม 11 อันเดอร์คว้าแชมป์อาชีพที่ 3
“สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ” สนาม7 ที่ขอนแก่น

อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยมหัศจรรย์ วัย 17 ปีจากราชบุรี ปิดฉากด้วยการทำ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสามวัน 11 อันเดอร์พาร์ 205 คว้าแชมป์อาชีพรายการที่ 3 พร้อมเงินรางวัล 120,000 บาท จากการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี “สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2020”สนามที่ 7 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ พาร์ 72 ระยะ 6,389 หลา จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และบริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีปีที่ 12 รายการที่ 7 ประจำปี 2563  “สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2020” ชิงเงินรางวัล รวม 1 ล้านบาท  ผู้ชนะจะได้รับ 120,000  บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลโฮลอินวัน 1 แสนบาท สนับสนุนโดย 

บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจีซี ที่หลุม 8 พาร์ 3 ระยะ 175 หลา สำหรับผู้ที่ทำได้คนแรก และรางวัลตีดีประจำวันที่นักกอล์ฟอาชีพและนักกอล์ฟสมัครเล่นทำได้ เป็นบัตรของขวัญมูลค่า 15,000  บาท จากบริษัทลีโอเนียน (ประเทศไทย) จำกัด ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2563ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ จ.ขอนแก่น

 รายการนี้เป็นการแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 3 วัน 54 หลุมมีนักกอล์ฟสตรีร่วมชิงชัยทั้งหมด 96 คน เป็นนักกอล์ฟอาชีพ 81 คน และนักกอล์ฟสมัครเล่น 15 คน โดยผู้ทำคะแนนเกิน 16  โอเวอร์พาร์ 88 จะไม่ได้สิทธิ์เล่นในรอบต่อไป  และเมื่อผ่านการแข่งขันสองวันผู้ที่ทำคะแนนในอันดับ 1-50  และเสมอ(ไม่รวมนักกอล์ฟสมัครเล่น)จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย

 โดยยังคงเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพที่ต้องอยู่มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อาทิ มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนแข่ง  มีเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ตามจุดต่างๆ  ให้ผู้เล่นพกพาแอลกอฮอล์หรือเจลล้างมือไว้ตลอดเวลาที่แข่งขัน ส่งสกอร์โดยสแกนคิวอาร์โค้ด และมีผู้ชมเข้าไปเชียร์ในสนามได้แล้ว เป็นต้น

เมื่อจบการแข่งขัน3วัน54หลุม(10ตค.) “โปรจีน”อาฒยา ฐิติกุล ผู้นำเดี่ยวรอบแรก และผู้นำร่วมในรอบที่สอง วัย 17 ปีจากราชบุรี โชว์ฟอร์มเยี่ยมอีกครั้ง โดยการจบรอบสุดท้ายได้อีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากห้าเบอร์ดี้ที่หลุม 3,4,6,15 และ 17 โดยเสียเพียงโบกี้เดียวที่หลุม 13 รวมสามวัน 11 อันเดอร์พาร์ 205 คว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศ “ขอนแก่นในดวงใจของฉัน หรือ Khon Kaen on My Mind” พร้อมเงินรางวัลชนะเลิศ 120,000 บาทไปครอง และเป็นการคว้าแชมป์อาชีพรายการที่ 3 ให้ตัวเอง ต่อจากแชมป์สนาม 3 ที่กบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ จ.ปราจีนบุรีและสนาม 6 ที่พานอราม่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่คลับ จ.นครราชสีมา โดยมี คุณณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพ และสิทธิประโยชน์, คุณสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น ให้เกียรติมอบรางวัลกับนักกีฬาในการแข่งขัน 

 อาฒยา ฐิติกุล แชมป์สนามที่ 7 เปิดใจว่า “ สำหรับการเล่นวันนี้ดีค่ะ เก้าหลุมแรกดีมากค่ะ ส่วนเก้าหลุมหลัง มีหลุมสุดท้ายนิดหนึ่งค่ะตีไม่ดีช็อตสองมีไปตกน้ำ โดยรวมดีค่ะ ให้โอกาสตัวเองดีมากค่ะ ให้โอกาสตัวเองเยอะ สำหรับแชมป์ที่สาม ของไทยแอลพีจีเอ จริงๆ ต้องบอกว่า เป้าหมายในแต่ละการแข่งขันของจีนไม่ได้มองไว้ว่าจะได้แชมป์หรือไม่ เป้าหมายของจีน คือการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และจริงๆ รู้สึกดีใจค่ะที่ได้ และรู้สึกอบอุ่นมาก ค่ะที่ได้มาแข่งในไทยแอลพีจีเอค่ะ และแชมป์ในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นค่ะ เพราะจีน ตั้งใจจะให้เป็นของขวัญวันเกิดของคุณแม่นะคะ แล้วก็มีวันเกิดของโค้ชด้วยค่ะ ติดๆ กันเลย ก็ดีใจค่ะ ที่สามารถคว้าแชมป์ให้ทั้งคู่ได้ค่ะ”

“สุดท้ายก็ฝากแฟนๆ กอล์ฟชาวไทยเชียร์พวกเราได้นะคะ ในปีนี้ ไทยแอลพีจีเอ ในแมทซ์ที่เหลือ และแมทซ์ใหญ่ประจำปี ก็สามารถมาร่วมเชียร์ได้แล้วนะคะที่สนามกอล์ฟ และฝากเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคน ด้วยนะคะ ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ในประเทศ แต่ยังมีนักกอล์ฟสาวไทยที่ไปแข่งขันในต่างประเทศ ก็เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ “

ขณะที่ “โปรก้อย”ชลดา ชยณรรย์ สาวโคราชวัย 26 ปี อดีตแชมป์ทำเงินไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ 2019 ทำเพิ่มได้อีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จาก 6 เบอร์ดี้เสีย 2 โบกี้ สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 208 เท่ากับ”โปรพริม”พริมา ธรรมมารักษ์ วัย 28 ปีผู้เล่นในซีเมตร้าทัวร์ ผู้นำร่วมรอบสอง ที่ทำได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 71 จาก 3 เบอร์ดี้เสีย 2 โบกี้ โดยทั้งคู่รั้งอันดับสองร่วม แบ่งเงินรางวัลไปคนละ 62,500 บาท

ชลดา ชยณรรย์ อันดับสองร่วมกล่าวว่า “วันนี้จริงๆเล่นได้ดีนะคะ ช็อตแอพโพรช ค่อนข้างดี วันนี้การพัตต์ดีมาก อัพแอนด์ดาวน์เก็บได้ 100 เปอร์เซนต์ มาเสียสองโบกี้ ตีตกน้ำไปหลุมหนึ่ง กับหลุมสุดท้ายตีไดรเวอร์ตกทราย ทำให้ช็อตสามขึ้นประมาณ 187 หลาถึงธง ก็เลยโบกี้ แต่โดยรวมค่อนข้างดี และพัตต์ดีมากค่ะ สำหรับสนามครั้งนี้ หนูว่ายากนะคะ เพราะว่าลมค่อนข้างแรงค่ะ เทียบกับการแข่งขันชาลเลนจ์และวันซ้อมไม่ค่อยมีลมเท่าไหร่ แต่สภาพสนามค่อนข้างดี ทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นค่ะ “

พริมา ธรรมมารักษ์  อันดับสองร่วมเผยว่า “ผลงานในรอบสุดท้ายวันดีดีค่ะ เล่นได้ตามแผนทุกอย่าง แต่ว่าตีช็อตไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ว่าพัตต์เซฟ ได้เยอะมาก ในวันสุดท้ายสนามลมแรงค่ะ พอๆ เกือบเท่าวันอื่นๆ เลยค่ะ แต่ว่าแดดออก เป็นคนละฟีลกัน แต่ว่าลมแรงดีค่ะ อากาศดี กรีนดี สภาพสนามดีค่ะ”

ส่วน “โปรแชมเปญ” เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ ผู้เล่นในซีเมตร้าทัวร์ จากบึงกาฬ ที่รอบนี้ทำได้ 4 อันเดอร์พาร์ 68 จบสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 209 เท่ากับ “โปรเปียโน” อาภิชญา ยุบล อดีตแชมป์ทำเงินไทยแอลพีจีเอทัวร์ 2018 จากสระบุรี จบที่อันดับ 4 ร่วมแบ่งเงินรางวัลไปคนละ 41,750 บาท

ส่วนรางวัลตีดีประจำวันเป็นบัตรของขวัญมูลค่า 15,000 บาท จากบริษัทลีโอเนียน (ประเทศไทย) จำกัด ในรอบสุดท้ายต้องแบ่งให้นักกอล์ฟที่ทำคะแนน 4 อันเดอร์พาร์ 68 ถึง 4 รายได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล,ชลดา ชยณรรย์,เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ และแจ๊คกี้ จุลยา

ด้านแชมป์นักกอล์ฟสมัครเล่นตกเป็นของ “น้องควีน”พรรณรายณ์ มีสมอรรถ สวิงทีมชาติวัย 15 ปีจากชลบุรี ที่รอบสุดท้ายเก็บได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 จาก3เบอร์ดี้ 1 โบกี้ แซงคว้าแชมป์ไปที่ 3 อันเดอร์พาร์ 213 จบในลำดับที่ 8 ร่วมของทัวร์นาเม้นท์ ขณะที่ “น้องพราว”ชเนตตี วรรณแสน ทำได้ 1 อันเดอร์พาร์ 215 อันดับที่ 15 ร่วมและ “น้องแพท”ธัญรดา ปิดดอน เกิน 2 โอเวอร์พาร์ 218 ในลำดับที่ 25 ร่วม

พรรณรายณ์ มีสมอรรถ แชมป์นักกอล์ฟสมัครเล่นเผยว่า “แม็ทช์นี้ถือว่าทำออกมาได้โอเคนะคะ แต่ว่าอาจพัตต์เบอร์ดี้ได้น้อยไปหน่อย สำหรับการเล่นตลอดทั้งสามวันที่สนามสิงห์ ปาร์ค ขอนแก่น ถือว่าเป็นเป็นการเบล่นกลมที่แรงมากเลยค่ะ แล้วกรีนของสนามก็เร็ว ทำให้เล่นได้ยากค่ะ ส่วนหลังจากการแข่งขันในครั้งนี้แล้วก็จะมีการแข่งขันของทีจีเอ ก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ”

สำหรับการแข่งขัน“สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ”ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท สนามที่ 8 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปี จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคมศกนี้ ณ สนามกอล์ฟกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ จ.ปราจีนบุรี  สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailpga.com และเฟซบุ๊คTHAILPGA.com

สรุปผลการแข่งขัน (10 ตค.)
1(-11)205 อาฒยา ฐิติกุล 67-70- 68 เงินรางวัล 120,000 บาท
T2(-8)208 ชลดา ชยณรรย์ 70-70-68
T2(-8)208 พริมา ธรรมมารักษ์ 69-68-71  เงินรางวัลคนละ 62,500 บาท
T4(-7)209 เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ 69-72-68
T4(-7)209 อาภิชญา ยุบล 69-69-71  เงินรางวัลคนละ 41,750 บาท
6(-6)210 ตรีฉัฐ จีนกลับ 70-69-71 เงินรางวัล 34,900 บาท
7(-4)212 พรรณนภา พลนามอินทร์ 73-70-69 เงินรางวัล 32,300 บาท
T8(-3)213 ยุพาภรณ์ กวินปกรณ์ 71-71-71
T8(-3)213 แจ๊คกี้ จุลยา 72-73-68 เงินรางวัลคนละ 27,900 บาท
T8(-3)213 พรรณรายณ์ มีสมอรรถ(สมัครเล่น) 72-71-70
T11(-2)214 นนทยา ศรีสว่าง 73-72-69
T11(-2)214 กุลธิดา พราหมพันธ์ 75-68-71
T11(-2)214 ชมพัช พงศ์ธนารักษ์ 72-71-71
T11(-2)214 กันยลักษณ์ ปรีดาสุทธิจิตต์ 69-72-73 เงินรางวัลคนละ 23,400 บาท