คอลัมน์ในอดีต

ตอนที่ 16 ความรัก คือ สายใย (3)

ความรัก คือ สายใย (3)

เมื่อคำอธิษฐานของทั้งสองต้องกัน และเชื่อมั่นในฝันอันเป็นจริง วันรุ่งขึ้นแพเอ่ยชวน

“พบวันนี้เราลองเปิดหีบไม้แกะสลักของยายดีไหม  เหมือนยายอยากบอกอะไรกับเราเรื่องสร้อยพญานาคเส้นที่สวมให้แพในนิมิตฝัน”

“ได้ซิแพ…ให้เรากลับจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ตายายแล้วจุดธูปขออนุญาตยายก่อนดีกว่านะจ๊ะ  จริงๆ แล้วยามที่ยายยังมีชีวิต ยายก็บอกกับเราทั้งสองไว้แล้วว่าสมบัติที่ยายมีให้เราเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไป”

“ก็ดีจ้ะ  จะได้ขออนุญาตยายก่อนที่จะเปิดหีบของยาย”

แพบอก  ทั้งสองเดินเกี่ยวก้อยมาจนถึงฝั่งคลองเพื่อจะพายเรือข้ามคลองไปทำบุญที่วัดหนองบัว วัดต้นตระกูลของหญิงชรานั่นเอง

ดอกบัวเบ่งบานแย้มรับพระอาทิตย์ยามเช้าเช่นนี้สวยงดงามเหลือเกิน

“แพชอบบัวหลวงเหมือนยายชอบ ตอนยายมีชีวิตอยู่ยายตักบาตรใส่ข้าวปลาอาหาร

 ดอกไม้ก็คือ ดอกบัวหลวงในคลองเรานี่แหละ พบจำได้ไหม ยายเคยนำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกมาสอนเราสองคนเรื่อง บัว ๔ เหล่า ซึ่งมนุษย์เราอุปมาเปรียบเหมือนบัว ๔ เหล่า”

ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ พวกมีสติปัญญา

ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง

ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ พวกที่มีสติปัญญาน้อย

ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม พวกที่ไร้สติปัญญา”

พบมองแพด้วยสายตาชื่นชม

“คำสอนนี้เปรียบเทียบได้ดีมากเลยนะแพ”

“จ้ะพบ  พบช่วยเก็บดอกบัวบานให้แพสักสามดอกนะ แพจะนำขึ้นถวายหลวงปู่ใหญ่ในโบสถ์”

“ได้ซิแพ”

พบหยุดพาย  และมองดูดอกบัวที่บานสล้างอยู่ในบึง  กวาดสายตาหาดอกบัวสีชมพูที่สวยที่สุดในสระนั้น  บัวสามดอกนั้นชูช่ออยู่ใกล้ๆ มือ  พบเอื้อมโน้มหักมาได้โดยง่าย

แพเตรียมขันสำหรับรองรับบัวบานเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามดอกกำลังบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อนโยนสีชมพูสดใสเสียจริง

“ไปจ้ะแพ  รีบขึ้นฝั่งเดินเข้าวัดเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันใส่บาตร”

“พบวันนี้ดูผู้คนมาวัดกันเยอะมากมายทีเดียวนะ”

“วันพระใหญ่ทุกคนจะหยุดทำงาน ห้ามรบกวนโดยเฉพาะเสียง ยิ่งงานก่อสร้างก็จะหยุดกันโดยปริยาย”

“ไปตักบาตรที่ศาลาเสร็จแล้วจะได้ไปกราบหลวงปู่ใหญ่ในโบสถ์ และกรวดน้ำส่งให้ตากับยาย”

เมื่อทั้งคู่ทำหน้าที่ที่วัดหนองบัวเสร็จสิ้นตามตั้งใจ แพสะกิดพบให้รีบกลับบ้านด้วยใจจดจ่ออยู่กับหีบกล่องไม้ของหญิงชราใบนั้น

พบและแพร่ำลาคนแก่คนเฒ่าที่นับถือ แล้วก็ลงเรือข้ามฝั่งคลองกลับบ้านเรือนไทยหลังเก่าที่หญิงชรารักเท่าๆกับชีวิตของเธอ แม้จะเนิ่นนานผ่านมากว่าร้อยปีบ้านเรือนไทยหลังเก่านี้ก็ยังดูดีด้วยผู้ดูแลรักษาให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน

“พบล้างหน้าล้างตาก่อนนะ แล้วไปจุดธูปบอกยายกลางแจ้งก่อน”

“ตกลงจ้ะแพ”

“แพ…หยิบผ้าสำหรับทำความสะอาดหีบกล่องใบเก่าให้พบด้วย”

แล้วทั้งสองก็ตั้งจิตอธิษฐานสวดมนต์ภาวนาตามที่ยายพริ้มเคยสอนไว้เพื่อคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกประการ อธิษฐานจิตของวันนี้ขอเป็นวันฤกษ์งามยามดีที่จะเปิดหีบกล่องมงคลใบเก่าใบของหญิงชรา

“กุญแจอยู่ใต้องค์พระแก้วมรกต” แพเอ่ยขึ้น “ยายบอกไว้นานแล้ว”

พบหยิบกุญแจที่อยู่ใต้ฐานพระแก้วมรกตแล้วนำมาเสียบเข้าช่องทันที…ทันใดนั้นเสียงฟ้า

ก็ส่งเสียงร้องคำรามกึกก้อง โดยไม่มีเค้ามาก่อน ตามมาด้วยสายฝนที่ตกกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา พบชะงักเล็กน้อย…เขามองหน้าเมียรัก…แพเอ่ยขึ้นทันที

“เราขออนุญาตยายแล้วไม่ต้องกลัว ฟ้าดินคงเป็นพยานให้”

เมื่อหีบใบเก่าถูกเปิดออกแพกับพบแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง…..ในหีบใบเก่าแก่ของรัก

ของหวงของยายพริ้ม  สร้อยพญานาคล้อมอัญมณีเขียวส่องวางเด่นส่งประกายเจิดจ้าอยู่  แพตัวสั่นสะท้านน้ำตาไหลพรูด้วยความปิติ  ประนมมือขึ้นไหว้

 “ยายจ๋า แพรู้แล้ว”

พบกอดแพไว้แน่นก่อนจะยกมือไหว้ในทิศทางที่เชื่อว่ายายยังคงจ้องมองอยู่และหยิบสร้อยเพื่อคล้องที่คอเมียรักพร้อมกับพูดว่า…

“พบขอเป็นตัวแทนยายนะแพ ยายคงอยากให้แพสวมสร้อยพญานาคอัญมณีเขียวส่อง

เส้นนี้ถึงมาบอกแพในนิมิตฝัน”

“ได้จ้ะพบ”

พอสร้อยสัมผัสที่คอแพเท่านั้น ฟ้าฝนที่กำลังกระหน่ำตกแบบไม่ลืมหูลืมตาหยุดลงทันที

อย่างน่าอัศจรรย์นัก  เบื้องนอกแสงสีรุ้งเจ็ดสีทาบทอเป็นเส้นโค้งรับริมน้ำโขง งดงามปานประดุจภาพวาดในวรรณคดี

แพโผเข้ากอดพบผู้เป็นสามีไว้แน่น

“พบ….ยายรับรู้แล้วว่าแพได้สวมใส่สร้อยพญานาคอัญมณีของยายแล้วจ้ะ  ยายจ๋าแพจะ

เก็บรักษาสร้อยพญานาคอัญมณีเขียวส่องเส้นนี้ไว้กับ ใบบัว หลานของยายนะจ๊ะ”

มณีจันทร์ฉาย