ประชาสัมพันธ์

ททท. จัดงาน Thailand Golf Travel Mart 2019

ททท. จัดงาน “Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019”
ตอกย้ำความเป็น “World Class Golf Destination”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019” เวทีเจรจาธุรกิจด้านกอล์ฟและการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ในวันที่ 6 – 9 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรม แชงกรี-ลา เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ งานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อแสดงความพร้อมด้านการท่องเที่ยวกอล์ฟ และสร้างการรับรู้ ประเทศไทยในฐานะ “World Class Golf Destination” ผลักดันรายได้ตลาดกอล์ฟปี 62 โตต่อเนื่องร้อยละ 3

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า งาน Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019 กาหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 – 9 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวกอล์ฟของประเทศไทยในเวทีระดับโลกให้เป็นที่รู้จัก อย่างกว้างขวาง โดยภายในงาน ททท. ได้จัดกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย โดยได้เชิญผู้ซื้อ (Buyer) จานวน 115 รายจาก ทั่วโลก เดินทางมาร่วมพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ขาย (Seller) ซึ่งมาจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย จำนวน 97 หน่วยงาน ถือเป็นโอกาสสาคัญในการพัฒนาศักยภาพด้านการขาย ตลอดจนขยายฐานตลาด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเล่นกอล์ฟ รวมถึงเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากนี้ ททท. ยังได้เชิญสื่อมวลชนท้ังในและต่างประเทศกว่า 50 ราย ร่วมสำรวจสินค้า บริการ แหล่ง ท่องเที่ยว และสิ่งอานวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวศักยภาพสูง ด้านกอล์ฟ และจังหวัดลาพูน ซึ่งเป็นเมืองรองใกล้เคียงท่ีมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงาม อีกท้ังยังใช้เวลาเดินทางไม่นาน เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากจังหวัดเชียงใหม่ด้วย

ท้ังนี้ ตลาดกอล์ฟนับเป็นตลาดความสนใจเฉพาะที่มีศักยภาพด้านการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ทั้งยังสามารถต่อยอดการขายไปสู่สินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย โดยประเทศไทยมีตลาดกอล์ฟท่ีใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของโลก มีนักท่องเที่ยวกอล์ฟประมาณ 700,000 คนต่อปี มีสนามกอล์ฟหลากหลายประเภทรวม ประมาณ 300 แห่ง โดยปี 2561 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเท่ียวท่ีเดินทางมาเล่นกอล์ฟประมาณ 3.3 พันล้านบาท ซึ่ง ททท. คาดหวังว่าการจัดงานฯ ครั้งนี้จะช่วยจะช่วยให้ตลาดดังกล่าวเติบโตเชิงรายได้ท่ีร้อยละ 3 ในปี 2562 และตอกย้าภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ “Sports Destination” และ “World Class Golf Destination” ได้อย่างแน่นอน